ตอนที่ 6
"ขอโทษอีกครั้งนะครับ วันหลังผมจะดูแลภรรยาของผมให้ดีกว่านี้"
มิราหันขวับมองใบหน้าชายหนุ่มทันที ก่อนจะคิดในใจว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ ทำไมถึงบอกคนอื่นว่าเธอคือภรรยาของเขาทั้งที่มันไม่ใช่เลยสักนิด
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เควินก็เดินจูงมือหญิงสาวมาที่รถของตัวเองทันที สร้างความมึนงงให้หญิงสาวมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะสะบัดมือชายหนุ่มออกห่าง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพ่อของเธอสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้ ผู้ชายอันตรายคนนี้
"คุณพูดไปแบบนั้นได้ไง ฉันไม่ใช่เมียคุณนะ"
มาเฟียหนุ่มยังคงเงียบและยื่นมือหมายจับที่ข้อมือหญิงสาวอีกครั้ง ทว่ามิรากลับขืนตัวหลบ ทว่าช้ากว่าชายหนุ่มที่กระชากร่างเธอเข้ากับแผงอกซะก่อน กลิ่นน้ำหอมราคาแพง เธอจำมันได้มันคือกลิ่นเดียวกันในคืนนั้น
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มมีท่าทีพยศ มาเฟียหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา บริเวณใบหูของเธอ
“ผมไม่ทำอะไรคุณในรถหรอกครับ ผมแค่จะไปส่งคุณก็เท่านั้น”
เควินเอ่ยขึ้นก่อนจะตวัดสายตาไปรถมิราที่สภาพพังยับเยิน และไม่น่าไปต่อได้
“ขอบคุณที่ช่วยเจราจาให้ แต่ฉันโทรให้เพื่อนมารับแล้ว” มิราเลือกที่จะโกหกออกไป
“เอางั้นเหรอครับ”
“ค่ะ”
เมื่อหญิงสาวเอ่ยตอบอย่างนั้น มาเฟียหนุ่มก็ไม่ได้เซ้าซี้เธอหรือเอ่ยอะไรมากไปกว่านั้น ทว่ากลับตวัดสายตาไปซอกคอของเธอที่มีรอยแดงจ้ำอย่างเปิดเผย พร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากและเดินขึ้นรถหรูของตัวเองไปในทันที
มิราถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะวิ่งกลับไปที่รถเพื่อต่อสายหาเพื่อนของเธอ ทว่ากลับไม่มีใครรับสาย เริ่มสร้างความหงุดหงิดให้กับมิราเป็นอย่างมาก อารมณ์ที่เดือดดาลพุ่งพล่านเข้ามาทันที ชุดที่เธอใส่เปิดแผ่นหลังกับสภาพอากาศสามสิบสององศาของประเทศไทย
"บ้าเอ๊ย! นี่มันแดดประเทศไทยหรือไออุ่นจากนรกวะ ถ้าจะร้อนขนาดนี้นรกขุมไหนก็มาเถอะ!"
มิราสบถขึ้นอย่างหัวเสียก่อนจะทุบมือลงที่ประตูรถเพื่อระบายความหงุดหงิดของตัวเอง ทว่ากลับมีรถคันหนึ่งขับเคลื่อนเข้ามาจอดเทียบรถของเธอ
"รถไปต่อไม่ได้เหรอครับ"
" ค่ะ"
"งั้นเดี๋ยวผมไปส่งนะครับ ผมมีเพื่อนเป็นเจ้าของอู่ เดี๋ยวค่อยให้มันมาเอารถ"
"ขอบคุณมากนะคะ"
มิราตบปากรับความช่วยเหลือทันทีเพราะเธออยากไปจากตรงนี้แล้ว มันร้อนราวกับจะไหม้เกรียมไปทั้งตัว อย่างน้อยชายหนุ่มตรงหน้าเธอก็คงไม่อันตรายเท่ามาเฟียหนุ่มเมื่อครู่นี้ มิราเดินขึ้นรถทันทีโดยที่ไม่มีท่าทีลังเล โดยไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมองเธออยู่
"ให้ผมจัดการมันเลยไหมครับนาย"
เสียงคนสนิทมาเฟียหนุ่มเอ่ยขึ้น ขณะจ้องมองมิรากับชายหนุ่มด้วยสายตาเดียวกัน เขาตั้งใจวางแผนทั้งหมดเผื่อเข้าใกล้เธอ ทว่ากลับมีคนมาปาดหน้าเสียดื้อๆ
"อย่าให้มันตาย"
เควินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ก่อนจะจ้องมองชายหนุ่มที่มาใหม่ด้วยแววตาเรียบนิ่ง เพียงเท่านั้นก็ทำให้คนสนิทอย่างเชน เข้าใจในทันที ก่อนจะขับรถออกไปจากตรงนั้นทันที
มิรากลับมาที่บ้านของเธอด้วยความหงุดหงิด เป็นจังหวะเดียวกันที่อลิซโทรกลับมาหาเธอพอดี
"ว่าไงยัยมิ เมื่อกี้ฉันติดงานนิดหน่อย"
"กว่าจะโทรกลับมา ถ้าฉันถูกฆ่าตายแกคงรู้เป็นคนสุดท้าย"
"เป็นบ้าอะไรของแกเนี่ย มาเหวี่ยงฉันทำไม"
อลิซเอ่ยขึ้นด้วยความมึนงง เมื่ออยู่ ๆ เพื่อนของเธอก็ตวาดเสียงดังลั่น
"ช่างเหอะ ออกมาเจอฉันหน่อย"
"โอเค ร้านเดิมแล้วกัน ฉันกำลังออกไป"
มิรากดตัดสายเพื่อนสนิททันที ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่และตรงไปหาเพื่อนของเธอทันที
ใช้เวลาเพียงไม่นานมิราก็มาถึงร้านที่นัดกับเพื่อนเอาไว้
"เอ้า! เป็นอะไรของแก หน้ามุ่ยมาเชียว"
อลิซเอ่ยถามเพื่อนขึ้น ก่อนที่มิราจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เพื่อนฟัง
"ห๊ะ! เขาบอกว่าเธอเป็นเมียเขางั้นเหรอ"
"ก็เออดิ ประสาทไปละมั้ง"
"ยัยมิ ฉันว่ามันแปลก ๆ นะ ฉันว่าเขาชอบเธอมากแน่ ๆ"
"ใคร ๆ ก็ชอบฉันทั้งนั้นแหละ ก็ฉันสวยเบอร์นี้แต่สำหรับผู้ชายคนนี้มันดูแปลก ๆ อะ ฉันว่ามันไม่ใช่ความบังเอิญแน่ ๆ ที่เขาจะมาเจอฉันในทุก ๆ สถานการณ์แบบนี้มันเหมือนสะกดรอยตามมากกว่า"
คำพูดของมิรา ทำให้อลิซกรีดร้องออกมาด้วยความเขินอาย และยังแซวเธอหนักกว่าเดิม
"ก็คนมันคลั่งรักอะจ้า ไม่รักคงไม่เปย์แกขนาดนี้หรอก แกลองเปิดใจให้เขาดูไหม บางทีเขาอาจจะจริงจังกับแกก็ได้"
"พ่อฉันบอกว่าให้อยู่ห่าง ๆ จากเขา เขาอันตรายเกินไปสำหรับฉันเพราะเขาอาจจะเป็นมาเฟีย"
มิราเอ่ยบอกเพื่อนออกไปตามตรง ก่อนที่อลิซจะหัวเราะออกมาราวกับมันเป็นเรื่องตลก
"นี่เธอเชื่อเรื่องมาเฟียจริง ๆ เหรอ เธออ่านนิยายมากไปรึเปล่า"
"บางทีสิ่งที่เธอพูดวันนั้นอาจจะเป็นความจริงก็ได้นะ"
มิราเอ่ยตอบเพื่อนขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง ก่อนจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เธอเจอชายหนุ่มที่ผับวันแรกให้อลิซรับรู้ ทว่าอลิซกับกรี๊ดออกมาราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา
"เท่สุด ๆ เลยอะแก"
"แกบ้าไปแล้วแน่ ๆ อลิซ ฉันกลับแล้วดีกว่ายิ่งคุยกับแกยิ่งปวดประสาท ฉันกลับแล้วนะ"
มิราเอ่ยขึ้น ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายกันกลับทันที ที่เมาท์มอยกันเสร็จ