ตอนที่ 5 ความซวยมาเยือน
ความซวยมาเยือน
เขาเริ่มขยับสะโพกสอบทันที เมื่อเธอไม่โต้ตอบอะไรแล้ว เอวสอบขยับจังหวะช้า ๆ เพื่อให้เธอได้ปรับความคุ้นชินก่อน
“เร็วกว่านี้ได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยขอขึ้นมาทันที เมื่อเขาเอาแต่หมุนวนอยู่แบบนั้น เพราะความเสียวซ่านของเธอที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา
“หึ...คงจะเสียวแล้วสินะ ยัยเด็กร่านพี่จะซอยเธอไม่ยั้งเลย” เขาแค่นยิ้มออกมา เมื่อเธอร้องขอ พร้อมกับสายตาที่มองเธออย่างเจ้าเล่ห์
ตับ ตับ ตับ
และเริ่มขยับเพิ่มจังหวะที่ถี่เร็วขึ้นมาอีกระดับ จนหนักหน่วง เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีที่จะห้ามเหมือนกับคราแรกแล้ว เขาได้แต่เพิ่มแรงตอกอัดอย่างหนักหน่วงโดยไม่สนว่าเธอจะห้ามเขาแล้ว เพราะประตูสวรรค์กำลังจะเปิดรับเขาอยู่ร่อมร่อในไม่ช้านี้
การมีเซกส์ที่ไร้ปลอกป้องกัน ช่างมีความรู้สึกแปลกใหม่สำหรับเขามาก เพราะได้สัมผัสอย่างแนบชิด ไม่ต้องกังวลว่าปลอกป้องกันจะแตะทะลุขาด และแรงตอดรัดจากสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน จะทำให้เขารู้สึกดีมากขนาดนี้
“อ๊ะ อ้ายยยย” เธอกระตุกเกร็งผวากอดเขาแน่น ปลดปล่อยน้ำหวานออกมา เมื่อไปถึงจุดหมายก่อนเขา
เมื่อส่งเธอถึงจุดหมายก่อนแล้ว เขารีบตอกอัดอย่างหนักหน่วง ปากร้ายตวัดหยอกล้อกับยอดถันอย่างเมามัน พร้อมกับสะโพกสอบที่ตอกอัดไปด้วย
“อ๊าสสส...” เสียงครางคำรามออกมาดั่งเสือร้าย เมื่อได้ปลดปล่อยลาวาร้อนสู่โพรงนุ่มทุกหยาดหยด ลืมหมดสิ้น คำว่าหลั่งนอกจากเขา ซึ่งมันไม่มีอยู่จริงเลย
“พี่ธีร์ ทำไมใจหนูเต้นแรงจัง หนูจะช็อกตายหรือเปล่า” เธอถามเขาขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจในความรู้สึกอาการใจเต้นแรงของตัวเอง
“หึ เด็กน้อยเอ้ยยย” เขาได้แต่ขำให้กับความคิดที่ยังเหมือนเด็กด้อยประสบการณ์ของเธอที่ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย
และเขาก็เริ่มบรรเลงเพลงรักต่อเลยทันที เมื่อทั้งเธอและเขาปรับลมหายใจมาเป็นปกติแล้ว เพราะตอนนี้เธอก็ให้ความร่วมมือ ไม่ปฏิเสธหรือต่อต้านเขาอีก จนเขาที่บอกว่าจะหลั่งนอกให้เธอ แต่เขากลับทำในสิ่งที่ตรงข้าม ปล่อยใส่ตัวเธอทุกครั้ง จนฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี และเธอได้หลับคาอกแกร่งของเขา เขาจึงยอมปล่อยให้เธอนอน
“ตื่นมา เรามีเรื่องคุยกันยาวยัยตัวแสบ ฟอดดด”
เขาหอมแก้มเธอไปฟอดใหญ่ แล้วจัดท่าทางให้เธอในท่าที่สบาย จึงดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แล้วผล็อยหลับตามกันไป เพราะความเหน็ดเหนื่อย
ช่วงสายของวัน
ธีรเมธลืมตาขึ้นมา แขนแกร่งคว้านหารอบ ๆ ก็ไม่พบร่างของคนเจ้าเนื้อที่นอนกกกอดแล้ว เขาจึงลุกขึ้นมากวาดมองไปยังรอบ ๆ ห้องนอน ที่เขามีความสุขกับหญิงสาวบนที่นอนกว้างของเขาอย่างเร้าร้อน แต่ตอนนี้กลับไร้เธออยู่แล้ว มีเพียงแค่คราบน้ำกามผสมกับหยดเลือดสีจาง ๆ เปรอะเปื้อนเป็นวงกว้างเต็มผ้าปูที่นอนที่เธอทิ้งไว้ให้
เขาเดินเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ก่อนที่จะออกมาถามคนงานสนิทอย่างนิกรที่กำลังรดน้ำต้นไม่อยู่ที่หน้าบ้านของเขา เพราะไม่รู้ว่าเธอได้หนีเขาออกไปตอนไหน และทำไมเขาถึงหลับสนิทไม่รับรู้อะไรขนาดนี้
เมื่อได้คำตอบจากลูกน้องคนสนิทแล้ว จึงเดินกลับขึ้นมาดูผลงานของตัวเองอีกครั้ง แล้วนั่งลงที่ขอบเตียงนอน พร้อมกับความคิดมากมายที่ตีตื้นเข้ามาพร้อมกัน
เขามีอะไรกับเธอ ซึ่งเป็นสาวบริสุทธิ์ที่ไร้การป้องการ แถมปล่อยในตัวเธอทุกรอบ แล้วแบบนี้เธอจะรู้จักวิธีป้องการหรือเปล่า ช่องทางการติดต่อก็ไม่มี เขานั่งขบคิดอยู่นาน ครั้นกำลังจะเดินออกจากห้องนอนไป แต่สายตาดันไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง จึงก้มลงหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่า...
“เอมิกา คณารักษ์ เลขประจำตัว... โรงเรียนสตรีมัธยม... ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 เกิด 6 กุมภาพันธ์ 25…” ซึ่งก็คือบัตรประจำหอพักนักเรียนของเธอนั้นเอง
“หึ เก่งนี้ เรียนภาษาเสียด้วย...6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25XX แต่นี้มันวันที่ 1 กุมภาพันธ์เอง อีกตั้ง 5 วัน จะถึง 18 ปี...ซวยแล้ว!!!” เมื่อทบทวนไล่คำนวณวันเดือนปีเกิดของเธออีกครั้ง กลับต้องใจเมื่ออายุของเธอยังไม่ถึงสิบแปดตามที่เธอบอกเขาเลย
“ยัยตัวแสบ! ไหนเธอบอกว่าอายุ 18 ปีแล้วไง อย่าให้เจอน่ะ ฉันจะจัดการเธอหนัก ๆ แน่” เขาขบกร่ามแน่น เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนเค้นถามอายุของเธอก่อนเข้าสถานบันเทิง
มิน่าเธอถึงบอกว่า เธอเข้าสถานบันเทิงไม่ได้ เพราะอายุยังไม่ถึงยี่สิบ แต่นี้เธอก็ยังไม่ถึงสิบแปดเสียด้วยซ้ำ แต่เขากลับกล้าเปิดบริสุทธิ์เธอ เสียเชิงให้เด็กจนได้
เขาพึ่งจะเย้ยหยันอคิราห์ว่าให้ระวังเรื่องนี้มาหมาด ๆ เมื่อทราบอายุของหญิงสาวว่ายังไม่ถึงยี่สิบปี แต่เขากลับเป็นคนพรากผู้เยาว์เสียเอง แถมยังสดไร้การป้องกันแต่อย่างใด แถมปล่อยในทุกรอบ เกิดผู้ปกครองเธอเอาความขึ้นมา มีหวังประตูห้องขังพร้อมต้อนรับเขาอย่างเต็มที่
“ยัยตัวแสบ!!!” เขาได้แต่สบถก้นด่าเธอออกมาอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ภายในห้อง
เรื่องนี้จะไม่มีใครเด็ดขาด เขาต้องตามหาเธอด้วยตัวเอง ขืนคนอื่นรู้มีหวังเขาโดนล้อแน่ เกิดมาจนอายุตั้งสามสิบสอง กลับเสียเชิงให้เด็กอายุเพียงแค่สิบแปด รู้ถึงไหนมีหวังโดนล่อยันลูกบวชแน่
อีกด้าน
“ซี๊ดดด โคตรแสบเลย” เธอสูดปากฝืนเดินอย่างเจ็บปวด
เอมิกาตื่นขึ้นมาในช่วงเช้า เมื่อเผลอหลับคาอกแกร่งของเขา เธอรีบลุกขึ้นออกจากห้องของเขาอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าเขาจะตื่นมาเจอเธอในสภาพนี้ ตอนนี้สติของเธอกลับมาเต็มร้อยแล้ว เธอรู้สึกอายไม่กล้าสู้หน้าเขา จึงรีบใส่เสื้อผ้าถึงแม้ร่างกายจะเจ็บระบมไปทั้งตัว
เธอฝืนร่างกายเดินลงมาจากบันได เมื่อเปิดประตูออกมากลับไม่พบใครอยู่บริเวณนั้น นอกเสียจากไร่ชาอันแสนกว้าง เธอไม่รู้จะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร และเมื่อกำลังจะก้าวเท้าเดินออกมาจากบ้าน กลับได้ยินเสียงคนงานคุยกัน
เธอกวาดสายตามองไปที่โรงจอดรถ เมื่อเจอเข้ากับรถเป้าหมายที่คนงานจะใช้ เธอจึงรีบสาวเท้าปืนขึ้นไปหลบที่ท้ายรถคันนั้นทันที ซึ่งก็คือรถกระบะที่บรรทุกสิ่งของมากมายที่เตรียมเข้าไปส่งในเมือง
เมื่อคิดถึงเรื่องราวของคืนอันเร้าร้อน ใบหน้าจิ้มลิ้มร้อนผาวแดงระเรื่อขึ้นมาราวกับลูกตำลึง บวกกับอากาศข้างนอกที่ร้อนอบอ้าวมากพอสมควร
“แม่หนูเป็นอะไรไหมลูก” เสียงหญิงวัยทองที่เดินกำลังจะเดินขึ้นกลับที่รถพอดี จึงถามเธอขึ้นมาทันที เมื่อสังเกตุเห็นใบหน้าที่ซีดเผือกของเธอ
“หนู...” สติของเธอดับวูบไปทันที ที่เธอจะได้ตอบหญิงวัยทองออกไป