บทย่อ
เพราะคำว่าบุญคุณ และครอบครอบครัวค้ำคอเธอจึงยอมรับงานสวมรอยเป็นคู่หมั้นหนุ่มแปลกหน้า..แต่ความฉิบหายดันมาเยือนเมื่อคู่หมั้นตัวจริงของเขาดันปรากฏตัวขึ้น
บทที่1 ตกกระไดพลอยโจน
"สู้ ๆ เมษยา..เธอต้องทำได้"
หญิงสาวเจ้าของใบหน้าเรียวสวยในชุดเดรสสีแดงพึมพำให้กำลังใจตัวเองอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยความตื่นเต้นระคนกังวล
อีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เธอต้องทำงานที่สำคัญมาก ๆ นั่นคือการสวมรอยเป็นคู่หมั้นของบุตรชายผู้มีพระคุณ ซึ่งเธอไม่ได้อยากทำสักนิดเพราะรู้เต็มอกว่าการสวมรอยเป็นคนอื่นมันผิดกฎหมาย และต้องทำสิ่งผิดบาปอย่างทำให้คนรัักกันต้องเลิกกัน
แต่ทว่าเพราะความจำเป็นบางอย่างทำให้เธอตกกระไดพลอยโจนเดินเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เรียกความกล้า และความมั่นใจให้ตัวเอง ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์
"มาแล้วเหรอ" เสียงทักทายจากเจ้าของบ้านอย่างคุณหญิงสาริกาดังขึ้นทันทีที่เธอเดินเข้าไปถึงห้องโถงใหญ่
"สวัสดีค่ะคุณสาริกา" เธอยกมือไหว้ไปตามมารยาททั้งที่ความจริงหมดความเคารพ และความศัรทธาในตัวสาริกาไปแล้ว
ก่อนหน้านี้เธอยกให้สาริกาเป็นผู้มีพระคุณ เธอเคารพนับถือสาริกามากเพราะท่านยื่นมือเข้ามาช่วยในวันที่เธอกับครอบครัวลำบาก
เธอยังจำเหตุการณ์ในคืนนั้นเมื่อเดือนก่อนได้ดี..
เธอ แม่ และน้องสาวกำลังหนีหัวซุกหัวซุนจากเจ้าหนี้ของพ่อเลี้ยงเฮงซวยที่จะจับเธอ แม่ และน้องสาวไปทำงานที่ซ่องชดใช้หนี้
คืนนั้นพวกเธอวิ่งหนีกันท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา แต่ทว่าก็หนีไม่รอดเพราะน้องสาวต่างพ่อที่เป็นโรคหัวใจตั้งแต่แรกเกิดดันอาการกำเริบจนไม่สามารถวิ่งหนีต่อได้
พวกเธอถูกแกงค์ทวงหนี้โหดตามทัน และจับตัวไว้ได้ ตอนนั้นเธอโคตรรู้สึกอัปยศอดสูในชีวิตคิดว่าทุกอย่างคงจบสิ้นลงแล้ว
เธอกับแม่ถูกพวกแกงค์ทวงหนี้โหดลากตัวไป ขณะที่น้องสาวต่างพ่อถูกปล่อยทิ้งให้นอนหายใจรวยรินอยู่บนถนนราวกับหมา
มันเป็นภาพที่เจ็บปวดหัวใจที่สุด เธอรักน้องสาวมากด้วยเป็นคนเลี้ยงดูมาตั้งแต่อ้อนแต่ออดเพราะผู้เป็นแม่ต้องทำงาน
นาทีนั้นเธอได้แต่วิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย หรือไม่ก็ขอให้หลุดพ้นจากเหตุการณ์เลวร้ายนี้ไปได้
เหมือนสวรรค์จะเมตตาเธอกับครอบครัวอยู่บ้างเพราะจู่ ๆ ก็มีรถหรูคันหนึ่งวิ่งฝ่าสายฝนมา เธอจึงไม่รอช้าวิ่งเข้าไปยื่นขวางหน้ารถแล้วขอความช่วยเหลือทำให้ได้พบกับสาริกา
เธอขอร้องอ้อนวอนคนแปลกหน้าอย่างสาริกาจนท่านยอมช่วยด้วยการจ่ายหนี้จำนวนหนึ่งล้านให้ แล้วยังช่วยพาน้องสาวเธอส่งโรงพยาบาล
ในวันที่น้องสาวเธอต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจด่วนก็เป็นสาริกาที่ยื่นมือเข้าช่วยเรื่องค่ารักษาอีกครั้ง แค่นั้นไม่พอท่านยังช่วยเหลือเรื่องที่พักอาศัยและหางานให้แม่เธอทำด้วย
เธอซาบซึ้งในบุญคุณของสาริกามากเทิดทูนให้เธอเป็นนางฟ้า และสัญากับตัวเองแน่วแน่ว่าจะต้องตอบแทนบุญคุณให้ได้
ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าทุกอย่างที่สาริกาทำล้วนมีผลประโยชน์แอบแฝงตั้งแต่ต้น
มารู้ก็สายไปเสียแล้ว..
สาริกาเอาเรื่องบุญคุณมาอ้างให้เธอทำในสิ่งที่ผิด พอปฏิเสธก็โดนท่านขู่ว่าจะส่งเธอกับครอบครัวกลับไปให้พวกเจ้าหนี้
ซึ่งแน่นอนว่าเธอยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้จึงจำใจต้องทำตามที่สาริกาต้องการ คือการสวมรอยเป็นคู่หมั้นในวัยเด็กของบุตรชายท่านที่กลับมาทวงคำสัญญา
จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้บุตรชายของท่านกับคนรักที่เป็นแม่หม้ายลูกติดเลิกกันเพราะท่านรับไม่ได้ที่บุตรชายเพียงคนเดียวเลือกผู้หญิงมีตำหนิ
"นั่งสิ" เสียงของสาริกาดังขึ้นอีกครั้งทำให้เมษาหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนจะเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟา
สาริกาไล่สายตามองเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างพึงพอใจในความว่านอนสอนง่ายของเด็กสาวที่ยอมแต่งหน้า ทำผม แต่งตัว และทำตามคำสั่งของเธอทุกอย่าง
จากเด็กกะโปโลกลายเป็นสาวสวยสะพรั่ง เธอคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ยอมลงทุนช่วยไว้ในคืนนั้น
เธอไล่สายตามองเด็กสาวอยู่อย่างนั้นครู่ใหญ่ แล้วจึงเอ่ยต่อ
"อย่าลืมที่คุยกันไว้ล่ะ จำเอาไว้ว่าเธอชื่อลียาเป็นคู่หมั้นของลูกชายฉัน อีกสักพักลูกชายฉันกับแฟนคงจะมาแล้ว"
"ค่ะ" เมษาขานรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าสวนทางกลับหัวใจที่มันเต้นแรงสิ้นเชิงจนเธอต้องประสานมือกันบนหน้าตักแน่นพยายามข่มความรู้สึกหลากหลายที่เริ่มประเดประดังเข้ามา
ขณะเดียวกันก็ได้แต่ภาวนาขอให้ตัวเองทำงานนี้ได้สำเร็จภายในวันเดียวด้วยเถอะจะหลุดพ้นไปจากคนใจร้ายอย่างสาริกาสักที