ตอนที่ 1
เห้อ...
มิรินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินตามหลังเพื่อน ๆ ออกไปที่โรงจอดรถ เธอยืนมองเฌอเบลล์ที่กำลังขึ้นรถมาร์ตินด้วยแววตาเศร้า ทั้งที่มันควรจะเป็นภาพที่คุ้นชิน แต่พอรู้ว่าเฌอเบลล์รู้สึกยังไงกับมาร์ติน ก็อดจะเสียใจไม่ได้ มิรินยังคงจ้องมองทั้งสอง ก่อนที่ชายหนุ่มจะรู้สึกถึงการถูกจ้องมอง และหันมาที่รถของเธอเช่นเดียวกัน มิรินรีบเปิดประตูเข้าไปในรถสปอร์ตคันหรูของตัวเองทันที เพราะกลัวว่ามาร์ตินจะรู้ว่าเธอแอบมองอยู่
รองเท้าส้นสูงขนาดสองนิ้วเหยียบลงที่คันเร่งรถด้วยความเร็วสูงโดยไม่สนใจสายตาเพื่อน ๆ ที่มองตาม
"ยัยริน รีบไปไหนอะ ทำไมต้องขับรถเร็วขนาดนั้น"
"นัดเด็กไว้เปล่า เห็นมีเด็กปีสองมาวอแว"
เจเลอร์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีหยอกล้อ ต่างจากอีกคนที่เอ่ยแทรกขึ้นมาทันที
" มิรินไม่ใช่คนแบบนั้น"
น้ำเสียงนิ่งเรียบโดยมาร์ตินดังขึ้น ก่อนที่จะขับรถออกไปด้วยความเร็วไม่ต่างกัน
ภายในห้องนอนสีขาวสะอาดตา ตกแต่งแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง มีร่างสวยในชุดนอนสีหวานเดินวนไปวนมาด้วยท่าทางร้อนรน เรียวปากเล็กก็บ่นพึมพำราวกับนางเอกกำลังท่องบทละครหลังข่าว
“ฉันขอโทษนะ จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้คิดอย่างที่พูด ฉันไม่ได้คิดแบบที่พูดออกไปจริง ๆ นะ”
“ฉันชอบนายนะ แต่ที่ฉันพูดออกไปแบบนั้นก็เพราะ...เพราะอะไร เพราะอะไร โอ๊ย! จะบ้าตาย ทำไมแกปากพล่อยแบบนี้”
มิรินดึงทึ้งหัวตัวเองอย่างแรงโทษฐานพูดไม่คิดจนทำให้มาร์ตินเข้าใจผิด สายตาผิดหวังที่เขามองมาที่เธอเพียงเสี้ยววินาทีนั้นมันฝังใจเธอมาก ๆ ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกว่ามันมีบางอย่างซ่อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น
เพล้ง!
เสียงที่ดังมาจากด้านนอกทำให้ความคิดฟุ้งซ่านหายไปจากใจของมิรินชั่วขณะ และไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งคำถามอะไร เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นมารัว ๆ
ก๊อก ๆ ๆ
“ริน ยัยริน เปิดประตูหน่อย”
ตามมาด้วยเสียงของพี่สาวที่ดูจะร้อนรนผิดสังเกต จนมิรินต้องรีบเดินไปเปิดประตู
“เกิดอะ....”
มิรินกำลังเอ่ยปากถาม ทว่ามิรากลับพุ่งตรงเข้าไปยังตู้เสื้อผ้าของเธอ
“อย่าพึ่งถาม รีบไปเก็บของเร็ว”
มิราเปิดตู้เสื้อผ้าของน้องสาวแล้วดึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาอย่างรีบร้อน
“เก็บทำไมคะ แล้วเกิดอะไรขึ้น”
“หยุดบ้าสักทีมารี จะพาลูกไปไหนดึกดื่นปานนี้”
เสียงของผู้เป็นพ่อที่ดังเล็ดลอดผ่านช่องประตูเข้ามาทำให้มิรินเลิกสนใจพี่สาวแล้วเดินออกไปดู
“ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน คุณเอาเวลาที่ห้ามฉันไปจัดการเรื่องของตัวเองเถอะ หรือไม่ก็ตามไปง้อนังเมียน้อยของคุณ เผื่อหล่อนจะรับเลี้ยงดูคนที่ไม่เหลืออะไรอย่างคุณ”
มารีตะคอกใส่หน้าสามีอย่างเหลืออดโดยไม่รู้ว่ามีลูกสาวคนเล็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อนได้ยืนฟังอยู่
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณพ่อคุณแม่”
มิรินเอ่ยถามออกไปด้วยท่าทางสุดช็อกกับภาพที่เห็นตรงหน้า เธอมองผู้เป็นพ่อสลับกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของแม่ ในหัวของเธอในตอนนี้มีแต่คำถามมากมายไปหมดจนเธอแทบจะทนฟังคำตอบไม่ไหว สุดท้ายเธอก็ได้รู้ความจริงว่าพ่อนอกใจแม่ ไปมีเมียน้อย แค่นั้นไม่พอเพราะท่านยังล้มละลายและติดหนี้การพนันอีกด้วย
ไม่จริงใช่ไหม! หัวใจดวงน้อยแตกสลายกลายเป็นเสี่ยง ๆ เป็นครั้งที่สองของวันเมื่อผู้เป็นแม่ให้เธอเลือกว่าจะอยู่กับพ่อหรือจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับแม่
“ไม่ หนูเลือกไม่ได้” มิรินส่ายหน้ารัว ๆ ขณะที่น้ำตาไหลอาบสองแก้ม ไม่นานร่างสวยก็ทรุดลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงและไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิต
"มิริน! ไปกับแม่ แกจะอยู่กับพ่อที่มันสารเลวแบบนี้ไปทำไม พ่อแกมันทรยศความรักของพวกเรานะ"
"นี่คุณ หยุดพูดแบบนี้กับลูกนะ ถึงผมจะเลว แต่ผมก็รักลูกไม่น้อยไปกว่าคุณ"
ทรงยศเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเดือดดาล เมื่ออดีตภรรยาเอ่ยให้ร้าย ให้ลูกเกลียดชังผู้เป็นพ่ออย่างเขา
"หรือว่ามันไม่จริง ถ้าคุณรักลูก คุณจะมีอีตัวนั้นทำไม!"
กรี๊ด...!! มิรินกรีดร้องขึ้น ก่อนจะวิ่งขึ้นที่ห้องของตัวเองก่อนจะร่ำไห้ออกมาอย่างหนัก เรื่องราวร้าย ๆ ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มแก้จากตรงไหน แต่ที่แน่ ๆ เธอจะไม่มีทางทิ้งพ่อของเธอไปเด็ดขาด ในขณะที่เธอกำลังนั่งร่ำไห้ด้วยความเสียใจ อยู่ ๆ มิรา พี่สาวของเธอก็เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับสวมกอดน้องสาวอย่างแผ่วเบา
"ไปด้วยกันนะริน ถ้ารินอยู่ที่นี่ รินจะลำบากนะ"
มิรา พยายามพูดจาหว่านล้อมผู้เป็นน้องให้ไปกับแม่และเธอ เพราะถ้าหากน้องสาวของเธอยังอยู่ที่นี่ อาจจะไม่ได้มีชีวิตที่ดีแบบนี้อีกแล้ว
"ไปเมกากับคุณแม่เถอะนะ ตั้งตัวได้เมื่อไหร่เราค่อยกลับมาดูแลคุณพ่อ"
"ริน ทิ้งคุณพ่อไม่ได้ พี่มิรา รินทิ้งคุณพ่อไม่ได้"
มิรินร่ำไห้ออกมาอย่างหนัก ก่อนจะสวมกอดผู้เป็นพี่ จริง ๆ มิรา รู้เรื่องนี้มาสักพักแล้ว แต่ไม่อยากบอกให้น้องสาวรับรู้ เพราะมิรินควรจะตั้งใจเรียน และยังเด็กเกินกว่าจะรับรู้ปัญหาเหล่านี้
"รินทิ้งคุณพ่อไปไม่ได้ รินสงสารคุณพ่อ ตอนนี้คุณพ่อไม่เหลือใครแล้วนะพี่มิ พี่ช่วยคุยกับคุณแม่ได้ไหม อย่าไปจากคุณพ่อเลยนะคะ รินขอร้อง"
มิรินพยายามเอ่ยขอร้องพี่สาว เธอไม่อยากให้ทุกคนทิ้งพ่อไปในยามที่เจอกับปัญหา ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้
"ถ้ารินตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ต่อ พี่ก็แล้วแต่รินนะ แต่พี่ขอพูดตรง ๆ นะ พี่รับรู้ปัญหาของคุณพ่อ
คุณแม่มาตลอด และพี่จะไม่มีวันให้อภัยพ่อ"
มิราเดินลากกระเป๋าออกจากห้องน้องสาวทันที ก่อนจะเดินตามผู้เป็นแม่ขึ้นรถไป โดยมีสายตาของผู้เป็นพ่อยืนมองเหตุการณ์ทุกอย่าง หากวันนั้นเขาไม่เลือกทำร้ายครอบครัวด้วยการนอกใจ ทุกอย่างคงไม่แย่แบบนี้ มิราลูกสาวคนโตคงไม่เกลียดเขามากขนาดนี้
มิรินมองรถที่แม่และพี่สาวนั่งค่อย ๆ ขับเคลื่อนออกไป เธอร้องไห้ออกมาน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ก่อนหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า
ทรงยศค่อย ๆ เดินย่างกรายขึ้นมาบนห้องของลูกสาวคนเล็ก ก่อนจะปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มของลูกอย่างแผ่วเบา อย่างน้อยก็ยังมีมิรินที่อยู่เป็นกำลังใจให้เขา อาจจะดูเห็นแก่ตัวทั้งที่ลำบาก แต่กลับอยากให้ลูกอยู่ด้วย แต่มิรินจะเป็นกำลังใจสำคัญในการสู้ชีวิตหลังจากนี้ของเขา
ทรงยศกดจูบลงที่ขมับของลูกสาวเบา ๆ ก่อนที่หยดน้ำตาของผู้เป็นพ่อจะค่อย ๆ หลั่งไหลออกมาด้วยความเสียใจที่เผลอทำร้ายครอบครัวโดยไม่รู้ตัว