บทที่ 8 สมควรถูกเสียบ (ประจาน)
ไม่ทันไรน้ำเสียงอ้อแอ้ของคนข้างกายก็เหมือนจะเงียบไป วิคเตอร์เหลือบมองก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาเมื่อคนเมาหลับคอพับไปเสียแล้ว
ยัยตัวภาระเอ๊ย หาเรื่องทำคนอื่นลำบากได้ตลอด
"นี่เธอ! ยัยขี้เมา ตื่นก่อน จะถึงบ้านเธอแล้ว"
"อื้ออ ยุ่งน่า" เธอปัดมือหนาที่เขย่าแขนตนเองออก ใบหน้าสวยมุ่ยลงหันหน้าหนีไปอีกด้านขยับกายนอนให้สบาย
"จะมานอนบนรถฉันไม่ได้นะ นี่! ตื่นเดี๋ยวนี้"
"..."
ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอเข้าออกเท่านั้น
"อะไรของยัยนี่วะ" วิคเตอร์งึมงำด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิด ชะลอรถสปอร์ตของตัวเองหน้าประตูรั้วขนาดใหญ่ มองใบหน้าเธอสลับกับตัวบ้านอย่างลังเล
"นี่ยัยเปี๊ยก! ตื่น ถึงบ้านเธอแล้ว"
"แจ๊บๆ~"
"ไอ้วิคเตอร์เอ๊ย อยู่ดีไม่ว่าดี เอาตัวไปวุ่นวายกับยัยบ้านี่ทำไมวะ" มือหนายีเส้นผมตนเองจนผมเส้นยาวด้านบนที่มัดรวบไว้หลุดลุ่ย
ก๊อก ก๊อก
ระหว่างที่กำลังตัดสินใจว่าควรทำยังไงกับอันดามันดี ก็มีเสียงเคาะกระจกฝั่งคนขับดังขึ้น ร่างสูงหันมอง หรี่ตาพินิจชายผมสั้นเตียนที่ยืนด้อมๆ มองๆ ก่อนจะยอมลดกระจกลง
"คุณ จอดขวางประตูไม่ได้นะครับ ขยับเลื่อนออกหน่อย"
"ฉันมาส่งยัยนี่" ว่าจบก็ขยับตัวให้ชายคนดังกล่าวเห็นหญิงสาวที่หลับอยู่เบาะข้างตน
"คุณอันดามันนี่!"
"เออ เปิดประตูรั้วซะ"
"ครับๆ ได้ครับ"
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเห็นคุณหนูของบ้านในรถคันนั้น หรือเพราะน้ำเสียงดุดันพร้อมรังสีที่คนตัวสูงแผ่ออกมา ทำให้พลทหารรับใช้รีบเปิดประตูรั้วเหล็กให้สปอร์ตหรูขับเข้ามาจอด
วิคเตอร์ลองเขย่าแขนเธออีกครั้ง ซึ่งก็ได้สิ่งตอบรับเป็นการปรือตามองด้วยความงงงวยแล้วทำท่าจะหลับต่อ
ร่างสูงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกรอดๆ ระดับความอดทนเริ่มลดน้อยถอยลงเมื่อต้องมารับมือกับคนไม่มีสติ
เขาไม่รอช้าเปิดประตูฝั่งคนขับลงไป เตรียมลงไปกระชากหญิงสาวหน้าไม่อายให้ออกจากรถเขาเสียที ชายหนุ่มดึงประตูฝั่งคนนั่งออก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมเริ่มฉุนเฉียว
"ยัยบ้าลงมา! เลิกมาทำตัวเป็นแม่ย่านางรถฉันเสียที"
"อื้อออ~ ปวดหัว" เสียงอันดังปลุกคนเมาขึ้นมาจากนิทรา แต่สติที่น้อยนิดก็เหมือนจะทำให้ระดับการรับรู้เธอเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
"อย่ามาอืดอาดยืดยาด ลงมา!"
"อุ้ม~ เดินไม่ไหวอ่า"
"ยัยนี่!"
วิคเตอร์กัดฟันแน่นหลบสายตา เมื่อคนตัวเล็กส่งยิ้มปัญญาอ่อนมาให้พร้อมชูมือมาทางเขา แม้จะพยายามส่งสายตากดดันหญิงสาวแค่ไหนเธอก็ยังดื้อด้านไม่เลิก ปากกระจับคว่ำลงพร้อมเอ่ยเสียงออดอ้อนเร่งเร้าให้เขาอุ้ม
มาเฟียหนุ่มพ่นลมออกจมูกอย่างหมดหนทาง ถือเสียว่าทำบุญทำทานก็แล้วกัน เมื่อปลอบใจตัวเองเสร็จก็ค้อมกายช้อนประคองสาวตัวเล็กลงจากรถในท่าเจ้าสาว
"วี้~ เค้าลอยได้"
"อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้น เดี๋ยวก็ตกมาคอหักหรอก"
"วิ่งเลยๆ"
"..."
วิคเตอร์กลอกสายตาระอา แต่ก็เลิกสนใจพฤติกรรมคนเมา ก้าวผ่านพลทหารที่ยืนมองด้วยความตกใจ ถือวิสาสะเข้าไปยังตัวบ้านโดยไม่ได้รับเชิญ
ด้านในตัวบ้านหลังใหญ่ถูกตกแต่งสถานที่เพื่อเตรียมงานในเช้าวันรุ่งขึ้น ประดับประดาด้วยดอกไม้ตามจุดต่างๆ แม้ห้องส่วนใหญ่จะถูกปิดไฟไว้ แต่ก็ยังมีแสงไฟจากทางเดินช่วยให้คนมาใหม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
"ทางไหน" เขาก้มหน้าถามหญิงสาวในอ้อมกอด
"ขึ้นๆ" อันดามันชี้นิ้วไปทางบันไดไม้ปาร์เกต์เชื่อมไปสู่ชั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งวิคเตอร์ก็ยอมเดินไปทางนั้นแต่โดยดี
แม้ใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจจะบูดบึ้งตลอดเวลา แต่ในหัวสมองกลับกำลังประมวลรูปร่างคนที่อุ้มไปด้วย
ตัวเบาหวิวจนแทบไม่ต้องใช้แรงเลย ยัยนี่กินข้าวกินปลาบ้างหรือเปล่า
ใบหน้าของเธอแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้อุณหภูมิร่างกายเธอร้อนกว่าปกติเล็กน้อย เนื้อนุ่มบดเบียดแนบชิดผิวกายชายหนุ่มผ่านเนื้อผ้า แม้จะบอกตัวเองว่าให้มองทางข้างหน้า แต่สายตาไม่รักดีก็แอบวนเวียนอยู่กับก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ยั่วเย้าสายตา กระเพื่อมไหวตามจังหวะก้าวเดิน
"ซ้ายหรือขวา" เขาถามขึ้นเมื่อเดินขึ้นมาสู่ชั้นสองแล้วมีทางแยกออกเป็นสองฝั่ง
"ขวา"
พอเธอว่างั้นขาแกร่งก็ก้าวขวา แต่เธอก็ร้องเปลี่ยนทิศทางอีก
"ไม่ เลี้ยวซ้าย"
"เอาไงแน่ สติดีอยู่ไหม หรือแยกซ้ายขวาไม่ออกแล้ว"
"อืมมมม"
สายตาหยาดเยิ้มจ้องมือตัวเองยกซ้ายขวาด้วยความสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือซ้ายแล้วชี้ไปยังประตูสีขาวบานหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
"ข้างนี้ๆ ประตูนั้นเลย~"
วิคเตอร์ระบายลมหายใจเป็นคำตอบ ก่อนจะก้าวตรงไปยังทางที่คนตัวเล็กชี้ เขาบิดลูกบิดหมุนเปิดประตูแม้จะอุ้มอันดามันไปด้วย ภายในห้องมืดสนิท แต่ก็ยังได้แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างให้ความสว่างบ้าง จึงมองเห็นเตียงนุ่มที่ตั้งชิดริมหน้าต่างบานใหญ่
"เตียงจ๋าาาา~"
"เลิกดิ้นสักที ถ้าหล่นจริงฉันจะขำให้"
"ส่งทางนั้น~"
"เรื่องมากฉิบหาย"
เมื่อมาถึงใกล้เตียง คนตัวเล็กก็ดีดตัวลงสู่ที่นอนอย่างไม่สนใจว่าชุดที่สวมจะร่นขึ้นจนอวดเรือนร่างไปถึงไหนต่อไหน คว่ำหน้ากลิ้งไปกลิ้งมาอย่างมีความสุข
พรึ่บ
"เฮ้ย!" มาเฟียหนุ่มหลุดปากร้องออกมา เมื่อถูกคนที่นอนอยู่กระชากมืออย่างแรงจนเสียหลักล้มลงเตียง
อันดามันคลี่ยิ้มหวานหยดย้อย อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายยังตั้งตัวไม่ไหวพลิกร่างขึ้นคร่อมชายหนุ่มเอาไว้แทน หัวใจแกร่งกระหน่ำรัวจ้องคนตัวเล็กอย่างแตกตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก
"ทำบ้าอะไร ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ!"
"ให้รางวัลไง ฝรั่งรู้จักบ้านเค้าจริงด้วย น่าร้ากกก~"
ยิ่งเธอเลื่อนใบหน้าลงมาใกล้ขึ้น อัตราการทำงานของหัวใจมาเฟียร้ายก็เหมือนจะเร็วขึ้นตาม ดวงตาเธอกลมโต น้ำในตาหล่อเลี้ยงจนมันฉ่ำเยิ้มเป็นประกายไม่ต่างจากกวางน้อยใสซื่อ แต่ท่าของทั้งคู่ในตอนนี้ทำวิคเตอร์ไม่แน่ใจว่าใครเป็นเหยื่อกันแน่ หากยัยนี่เป็นกวางก็เป็นลูกกวางที่ขี้ยั่วที่สุด
ปลายกระโปรงเดรสรัดรูปเลื่อนขึ้นสูง ทำให้คนที่นอนตาค้างอยู่มองเห็นแพนตี้ลูกไม้เย้ายวนได้จากมุมนี้ด้วยซ้ำ ลำกายชายหนุ่มแข็งขืนอย่างไม่ตั้งใจ
ยัยตัวแสบสมควรถูกเสียบประจาน
"ลุก!" วิคเตอร์ข่มอารมณ์ปั่นป่วนสั่งเสียงเข้ม แต่อันดามันก็ไม่สนใจ ใช้ปลายจมูกคลอเคลียหยอกล้อแก้มสากของคนตัวสูง
"นายตัวหอมจังเลย~"
เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อหญิงสาวด้านบนก้มซุกไซ้ต้นคอ พลางสูดกลิ่นกายเขาเข้าเต็มปอด มือไม้ตัวเองก็ดูเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ควรวางไว้ตรงไหนดี หากลูบเธอคืนบ้างจะผิดบาปมากหรือเปล่า
สายตาทั้งคู่สบประสานท่ามกลางความมืดและแสงเงาจันทร์ ทำให้อกซ้ายมาเฟียหนุ่มคันยิบๆ แปลกประหลาด เขาหลุบมองปากกระจับที่อยู่ห่างริมฝีปากเขาไม่กี่เซ็นต์ด้วยความลุ้นระทึก
แต่ก่อนที่มันจะได้สัมผัสกัน คนตัวเล็กก็ฟุบหน้าทิ่มลงกับหมอนข้างซอกคอคนด้านล่าง ราวกับถูกสับสวิตช์กลางอากาศ เข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว ปล่อยคนตัวสูงให้นอนตัวแข็งค้างเติ่งที่เดิม
ยัยบ้านี่น่าตายนัก กล้าหลับตอนนี้ได้ยังไง!
"นี่ เฮ้ย! ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ เธอมาทำให้มันแข็งแล้วจะชิ่งหลับแบบนี้ได้ยังไง!"
"ฟี้~"
วิคเตอร์หลับตาปรับลมหายใจ ข่มอารมณ์ความรู้สึกร้อนรุ่มภายในที่ไหลทะลักเตรียมพุ่งทะยานให้กลับเป็นปกติ พยายามไม่สนใจกลิ่นกายหวานหรือเรือนร่างเย้ายวนที่ใช้เขาเป็นที่นอน ค่อยๆ ดันคนตัวเล็กให้ลงไปนอนบนเตียงดีๆ ไม่ลืมใช้ผ้าห่มหนาคลุมท่อนล่างที่อล่างฉ่าง เห็นชัดไปยันสีกางเกงชั้นใน พร้อมลุกกายขึ้นเตรียมออกไปจากห้องนอนเธอ
ไม่ลืมตวัดมองว่าที่คู่หมั้นที่หลับฝันดีอีกครั้งด้วยสายตาคาดโทษ
ยัยผู้หญิงหน้าไม่อาย สมควรถูกเสียบซ้ำๆ แล้วค่อยตัดหัวประจาน!
"ฮึ่ย ความประทับใจแรกไม่เหลือแล้วยัยบ้า จบงานหมั้นอย่าหวังว่าจะได้เห็นหน้าฉันอีก"
เส้นผมหนาถูกยีจนยุ่ง บ่นพึมพำขณะเดินออกจากประตูห้องที่ถูกเปิดทิ้งไว้ เขาเลี้ยวออกมาจากห้องก็ต้องชะงักตัวแข็ง เมื่อพบหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้ เธอมีสีหน้าแตกตื่นตกใจเช่นกัน
หัวสมองมาเฟียหนุ่มขาวโพลน ยืนนิ่งค้าง ไม่ได้คาดคิดถึงเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน กำลังจะนึกหาคำอธิบายว่าเหตุใดเขาจึงออกมาจากห้องหญิงสาวกลางดึกแบบนี้
"วิคเตอร์ใช่ไหมลูก?" นายหญิงของบ้านหรี่ตามองหนุ่มแปลกหน้าอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจขณะเอ่ยถาม แปลกใจอย่างถึงที่สุด ไม่รู้มาก่อนว่าทั้งคู่รู้จักกัน
"คะ...ครับ พอดีผมเจอยัย...เจอเธอเมาอยู่ เลยพามาส่งบ้าน"
"ตายแล้ว ลูกคนนี้! คืนวันสำคัญแบบนี้ยังกล้าออกไปกินเหล้าอีก ยังไงแม่ก็ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะที่อุตส่าห์พาน้องมาส่ง"
"ครับ ไม่เป็นไร ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"ได้จ้ะๆ ขอบใจมากเลยนะ"
สิมิลันคลี่ยิ้มหวานส่งให้ด้วยความเอ็นดู แม้ท่าทางอีกฝ่ายจะดูแข็งกระด้างไปบ้าง แต่เขาก็มีน้ำใจ ใส่ใจลูกสาวหัวดื้อของตนก็ทำให้สิมิลันเบาใจได้มาก คิดว่าอีกฝ่ายจะต่อต้านมากกว่านี้เสียอีก
มาเฟียหนุ่มค้อมกายเคารพคนอาวุโสกว่าอย่างเก้ๆ กังๆ แล้วรีบเดินผ่านเธอไปเพื่อให้พ้นจากสถานการณ์น่ากระอักกระอ่วนให้เร็วที่สุด
ท่อนขาแกร่งก้าวอย่างรีบร้อน เมื่อกลับขึ้นรถก็ต้องคว้าบุหรี่ขึ้นมาจุดดับความปั่นป่วนภายใน พลางบ่นพึมพำในใจด้วยความหงุดหงิด
แม่งเอ๊ย สายตาแม่ยัยเปี๊ยกดูโคตรปลื้มใจ คงไม่ได้คิดว่าเขาหลงเสน่ห์ยัยตัวแสบหรอกนะ
พลทหารชำเลืองมองท่าทางสับสนของหนุ่มลูกครึ่งด้วยความงงงวย กว่ารถสปอร์ตสีแดงจะเคลื่อนตัวออกไปบุหรี่ที่คนขับจุดสูบก็หมดไปสองมวนแล้ว
ดูท่าชีวิตอันแสนสงบสุขของวิคเตอร์ต่อจากนี้คงมีแต่ความวุ่นวายแน่นอน