บทที่ 6 แค่ว่างเลยแวะมา
ผับใหม่ใจกลางเมือง
อันดามันก้าวลงมาจากแท็กซี่ กวาดสายตามองด้านนอกของผับใหม่ด้วยความสนใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนเพื่อบอกว่าเธอมาถึงแล้ว คุยกันเล็กน้อยก็กดวางสาย สรุปได้ว่ายังไม่มีใครมาถึงร้านสักคนทำให้เธอต้องเข้าไปก่อน
"5 คนค่ะ" เธอแจ้งกับพนักงานหน้าร้านหลังจากถูกการ์ดตรวจบัตรเช็กกระเป๋าเรียบร้อย
"เอาเป็นโต๊ะนั่งหรือยืนคะ"
"ยืนค่ะ"
จะมาเที่ยวทั้งทีเธอก็ไม่อยากนั่งหงอยๆ อยู่กับโต๊ะ ต้องโยกต้องเต้นมันถึงจะสนุก
ร่างเล็กสวมกางเกงขายาวเอวสูงสีน้ำเงิน ด้านบนเป็นเสื้อครอปสายเดี่ยวตัวเล็กสีขาวสะอาดตา อวดเอวบางคอดกิ่วด้วยความภาคภูมิใจเดินตามพนักงานไปถึงโต๊ะ พลางมองการตกแต่งของร้านไปด้วย
เวลาสองทุ่มและเป็นร้านใหม่ทำให้ยังมีคนไม่มากนัก การตกแต่งก็ถือว่าหรูหรามีระดับ เป็นผับชั้นเดียวกว้างขวาง โซนสำหรับคนไม่ชอบเบียดเสียดกับใครก็เป็นโซฟากลมสีขาวตั้งล้อมโต๊ะไว้ชิดกำแพงร้านฝั่งหนึ่ง
เธอจัดการเปิดเหล้าอย่างไม่รู้สึกเก้อเขินใดๆ แม้จะมายืนอยู่เพียงคนเดียว ระหว่างที่กลุ่มเพื่อนกำลังเดินทางมาก็มีเหล่าชายหนุ่มหลายคนแวะเข้ามาพูดคุยทำความรู้จักบ้าง แต่ระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดยังต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่ ทำให้คนตัวเล็กไม่มีกะใจจะหยอกล้อ
"หิมะตกแน่ๆ มึงมาคนแรก" จ๊ะจ๋าเดินเข้ามาพร้อมกับการ์ตูนทักขึ้น
"อีชากับกะเทยล่ะ"
"ชาไปหาที่จอดอยู่ อีกะเทยติดผู้จ้า เลตแน่นอน"
"ลำไย แล้วมาเร่งกู" อันดามันเบะปากขณะเติมเหล้าให้ตัวเอง
ไม่ถึง 5 นาทีเพื่อนสาวคนสุดท้ายในกลุ่มก็เดินเข้ามาพร้อมผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เธอแนะนำตัวว่าชื่อเมฆ เป็นคนที่บริษัทเดียวกันซึ่งกำลังคุยๆ กันอยู่ ไม่มีใครว่าอะไรที่เพื่อนพาผู้ชายมาทำความรู้จัก มีแซวบ้างตามประสา ทั้งกลุ่มเป็นกันเองกับชายหนุ่ม ไม่นานเขาก็หายเกร็ง
"พวกมึง สรุปกูตกลงหมั้นแล้วนะ" อันดามันเอ่ยขึ้นมากลางวง ทำเพื่อนฝูงแตกตื่นตกใจยกใหญ่
"เฮ้ย! ไหนค้านแทบตาย สรุปตกลงง่ายๆ งี้เหรอ"
"เมาท์ด่วน เป็นไงมาไง"
"ใจเย็น กำลังจะเล่านี่ไง"
"อีเดซี่งอแงแน่นอน"
"ปล่อยมัน สายเอง...เอ้า พร้อมแล้วลุย" การ์ตูนยกยิ้มสะใจ พลางเร่งให้หญิงสาวเปิดปากเล่า
"แม่ก็มายื่นข้อเสนอให้นิดหน่อย บอกแค่หมั้นกันชั่วคราว ถ้าพวกท่านกลับมาจากต่างประเทศจะถอนหมั้นก็จะตามใจ แถมจะช่วยคุยกับพ่อให้ด้วย ว่าหลังจากนี้จะไม่หาเรื่องมาบังคับอะไรกูอีก"
"ก็ไม่แย่นี่ ถือว่าได้ศึกษาดูใจด้วย ไม่เวิร์กก็ค่อยว่ากัน" จ๊ะจ๋าพยักหน้าตาม
"แล้วทำไมต้องหมั้นแค่ช่วงเขาไม่อยู่ด้วยวะ"
"แม่บอกไม่มีใครอยู่บ้าน ไอ้พีพีก็จะไปอยู่หอ เลยอยากให้กูย้ายไปอยู่กับคู่หมั้น" ร่างเล็กหันไปตอบคำถามณชา
"หูยยยยย คือจะส่งมึงไปอยู่บ้านผู้ชายเลยว่างั้น"
"กูว่าไม่เกิน 3 วัน เสร็จอีอันแน่นอน" การ์ตูนหัวเราะร่า ทำนายเอาไว้เรียบร้อย
"จริง!"
"ถึงตอนนั้นอย่ามาติดใจ ร้องไม่ยอมถอนหมั้นให้กูเห็นนะ"
"นี่เพื่อนไง เห็นกูเป็นคนยังไงกันแน่วะ" เธอหน้ามุ่ยกอดอกไม่พอใจที่ถูกเพื่อนรักสบประมาท
"ไหนๆ ก็ไหนๆ ลองสักทีดิ๊" จ๊ะจ๋าสาวเป๋อประจำกลุ่มกระซิบบอกด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ซุกซน แม้ตัวเองจะไร้ประสบการณ์เช่นกัน
"ลองอะไร"
"เซ็กซ์ไง จะได้รู้ว่าเข้ากันได้ไหม นิสัยดีเซ็กซ์ห่วยก็ไม่ได้นะ ชีวิตคู่เรื่องนี้ก็สำคัญเถอะ"
"นี่ พูดอะไรกันเกรงใจเมฆหน่อยเถอะ" ณชาแทรกเสียงเข้ม ย้ำเตือนให้สาวๆ ในโต๊ะรู้ว่ายังมีหนุ่มคนนอกยืนฟังบทสนทนานี้ด้วย
จ๊ะจ๋าหันมาส่งยิ้มแหยให้ชายหนุ่ม พร้อมส่งสายตาขอโทษขอโพยไปทางเขา
"ขอโทษนะ เราลืมตัว"
"ไม่เป็นไรครับ"
"เบื่อจังเลย ชาก็ดันเป็นคนเรียบร้อยคนเดียวในกลุ่มเสียด้วย ไม่ค่อยเข้าใจเลยพูดอะไรกัน" ณชาเอ่ยเสียงเล็กเสียงน้อยพลางหันไปอ้อนหนุ่มข้างกาย ทำเพื่อนทุกคนพร้อมกันหันไปด่าด้วยความหมั่นไส้
"จ้า! อีเรียบร้อย แม่ชีมากกกกกกกก"
ทั้งหมดหันมาสนใจกับเครื่องดื่มตรงหน้า ลูกค้าก็ทยอยมาเรื่อยๆ ไม่นานบรรยากาศในร้านก็ดูคึกคัก ดีเจเปิดเพลงสไตล์ฮิปฮอปจังหวะเร้าอารมณ์ หลังแอลกอฮอล์เข้าปากอันดามันก็เริ่มเลื้อยร่อนเอวไปตามเสียงเพลงอย่างสนุกสนาน
ลีออนโอบประคองเอวหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เขาเลือกนั่งที่บริเวณโซฟา ก่อนสายตาคมจะเหลือบไปเห็นร่างหญิงสาวคนหนึ่งที่ค่อนข้างโดดเด่น มุมปากแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเธอเอาไว้พร้อมกดส่งไปให้เพื่อนรัก ก่อนจะหันมานั่งกระดิกเท้าคลอเคลียสาวข้างกายอย่างอารมณ์ดี
ผ่านไปเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง มาเฟียเจ้าสำราญก็หัวเราะลั่นเมื่อพบเพื่อนสนิทร่างสูงเดินหน้าบึ้งตรงเข้ามาหา
"ฮ่า ฮ่า เชี่ยมาจริงดิ อะไรกัน หลงเสน่ห์ว่าที่คู่หมั้นเหรอวะ" เขาถามออกไปอย่างแทบไม่เชื่อสายตาพลางกลั้นขำ
"กูแค่เบื่อๆ อยู่แถวนี้พอดีเลยแวะมาเหอะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับยัยนั่น"
วิคเตอร์อธิบายแก้ต่างให้ตัวเองเสร็จก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ตีหน้านิ่งไม่สนใจสายตาล้อเลียนของลีออน รินเหล้าเติมใส่แก้วให้ตนเองด้วยท่าทางเรียบเฉย
"ของขวัญวันเกิดปีนี้เอาปลอกคอไหม หางมึงเริ่มงอกแล้ว"
"หางเหี้ยอะไร เดี๋ยวได้เจอตีนกู"
"ฮ่า ฮ่า แซวนิดแซวหน่อยทำเป็นฉุนเฉียวใส่ ดูทำน้องมิ้นกลัวเลย" ว่าจบก็หันไปกระชับเอวสาวให้ขยับมาใกล้ชิด ใช้ปลายจมูกโด่งซุกไซ้แก้มเนียนอย่างหยอกล้อ
"อ๊ายยยย คุณลีออนทะลึ่งอ่า"
"น้องมิ้นไม่รู้หรอก ว่าถ้าพี่ลีออนทะลึ่งจริงๆ เป็นยังไง"
"อยากรู้ใจจะขาดแล้วค่ะ"
"เฮอะ!" วิคเตอร์แค่นเสียงในลำคอด้วยความหงุดหงิด ขัดอารมณ์ชายหนุ่มหญิงสาวที่นัวเนียกัน
"ให้กูช่วยหาสาวมานั่งด้วยไหมล่ะ เอาคนนั้นดีไหม ที่ผมสั้นๆ ตัวเล็กๆ ใส่เสื้อขาว~" สายตาซุกซนเหลือบไปมองทางอันดามันขณะบรรยายลักษณะของเธอ
"ไม่!"
"ไม่ปฏิเสธ?"
"ไม่เสือก!" วิคเตอร์กระแทกเสียงตอบด้วยอารมณ์คุกรุ่นจากการถูกเพื่อนแซวไม่เลิก คว้าแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่มดับอารมณ์ร้อนรุ่มในใจ
"ครับ คร้าบบบบ~ ไม่ยุ่งก็ได้ เชิญมึงนั่งเฝ้าเจ้านายไปนะหมาน้อย"
"ไอ้ลีออน" เขาเรียกชื่อเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง แววตาคมดูดุดันเอาจริง แต่ลีออนก็ไม่ได้เกรงกลัวสักนิด ยิ้มระรื่นลอยหน้าลอยตา
วิคเตอร์บอกกับตัวเองรอบที่แปด เหตุผลที่เขาโผล่มาผับนี้เพราะตนเองกำลังเบื่อหน่ายและไม่มีอะไรทำอยู่พอดี ไม่เกี่ยวข้องกับหญิงสาวตัวเล็กสักนิด แม้เขาจะต้องคว้ากุญแจรถขับตรงออกมาจากคอนโดหลังจากเตรียมอาบน้ำนอนแล้วก็ตาม
มาเฟียหนุ่มให้ลูกน้องตามดูพฤติกรรมเธอได้เพียง 2 วัน ก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำเรื่องงี่เง่าไร้สาระ แถมต้องมาทนรำคาญกับสายตากะลิ้มกะเหลี่ยราวรู้ทันความคิดของลูกน้องยามต้องมารายงาน สุดท้ายจึงต้องยกเลิกไป
สายตาเอาเรื่องเหลือบมองไปที่ร่างบางเป็นระยะ จับจ้องทุกการกระทำราวกับเธอเป็นนักโทษ พลางก่นตำหนิเธอในใจ
'ยัยขี้เมา ออกเที่ยวได้ทุกวัน ไม่เห็นได้เรื่อง แม่คิดยังไงจับหมั้นกับผู้หญิงเหลวไหลแบบนี้'
หรือตอนที่เธอเซเกือบล้มจนต้องคว้าแขนหนุ่มโต๊ะด้านหลังเอาไว้เพื่อพยุงตัว
'เฮอะ คออ่อนแล้วยังไม่เจียม หาเรื่องอ่อยผู้ชายชัดๆ แม่ง! ยัยเปี๊ยกนี่สมควรถูกจับมาลงโทษจริงๆ เป็นพ่อแม่จะฟาดให้ก้นลาย ส่งสายตาหวานเชื่อมแบบนั้นให้ผู้ชายได้ไง!'
"เอ้า! จ้องขนาดนั้น กินเข้าไปเลยไหม"
"ฮะ!" วิคเตอร์เหมือนหลุดออกจากภวังค์หันมามองหน้าเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ
"มึงเล่นจ้องเขาขนาดนั้น เลยถามว่าจะกินเข้าไปหรือไง"
"กินบ้ากินบอ กูไม่ได้จ้อง! ก็แค่มองไปเรื่อย ขี้เหล้าขนาดนั้นกระเดือกไม่ลงหรอก" เขาแก้ตัวกลับน้ำขุ่นพลางแสร้งขยับเปลี่ยนท่าหันไปมองรอบร้าน ทำเพื่อนแทบกลั้นรอยยิ้มล้อเลียนไว้ไม่ไหว
"ถ้าชอบก็เข้าไปคุยสิวะ นั่นคู่หมั้นมึง ใจคอจะไม่ทำความรู้จักอะไรกันบ้างเลยเหรอ"
"ใครชอบ! อย่ามาพูดมั่วๆ อีกอย่างทำไมกูต้องเข้าหาก่อนด้วย ไม่ได้เต็มใจหมั้นสักหน่อย"
"ตามใจ ฟอร์มเยอะแบบนี้ระวังหมาตัวอื่นคาบไปแดกก่อนแล้วกัน"
"เหอะ! ได้ก็ดี กูไม่อยากเอาชีวิตไปผูกกับผู้หญิงแบบนี้เหมือนกัน" คำพูดแฝงแววประชดถากถางขณะหันไปมองพฤติกรรมของเธออีกครั้งด้วยแววตาไม่พอใจ
"หึหึ แล้วจะคอยดู ไอ้พวกปากเก่งแบบนี้ เป็นหมามาหลายรายแล้ว"
"เฮอะ ก่อนจะสอนคนอื่นเอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อน"
"กูมีความสุขดี ขอบใจที่เป็นห่วง"
สองมาเฟียมองหน้ากันด้วยสายตาดุดันกันราวกับเกลียดชังมาตั้งแต่ชาติปางก่อน จนมิ้นหญิงสาวที่นั่งข้างลีออนขยับกายออกห่างเตรียมวิ่ง ด้วยความกลัวว่าจะถูกลูกหลงไปด้วย แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็หันกลับไปสนใจแก้วเหล้าตัวเอง
เวลาเกือบเที่ยงคืน
"กูกลับก่อน" วิคเตอร์หันมาบอกกับเพื่อนเสียงเรียบและลุกออกจากโต๊ะไป โดยไม่รั้งรอให้ลีออนส่งสายตาล้อเลียนใดๆ มาอีก
หนุ่มอารมณ์ดีได้แต่กระตุกยิ้มรับชมเรื่องสนุกๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น จับจ้องแผ่นหลังกว้างของเพื่อนเดินออกนอกร้าน ตามหลังกลุ่มของอันดามันที่เพิ่งกลับไปก่อนหน้าไม่ถึง 2 นาที
ร่างกำยำสอดส่ายสายตาอยู่สักพักก็พบหญิงสาวที่กำลังเมาแอ๋โบกไม้โบกมือให้เพื่อนที่มาส่งขณะปีนขึ้นรถยนต์คันหนึ่งด้วยความทุลักทุเล สายตาโหดเหี้ยมจ้องตรงไปยังตำแหน่งคนขับรถ อารมณ์ความโกรธเกรี้ยวไร้ที่มาก็ไหลพล่านทั่วร่างเมื่อพบชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเธอนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ไม่รู้ว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกันก่อนที่รถยนต์คันนั้นจะเคลื่อนตัวออกไป
ไม่รอช้าวิคเตอร์คว้ารีโมตปลดล็อกประตูรถสปอร์ตสีแดงของตัวเอง เหยียบคันเร่งตามรถคันหน้าไม่ให้คลาดสายตา
"ยัยผู้หญิงกร้านโลกหน้าไม่อาย กล้ากลับบ้านกับผู้ชายสองต่อสองได้ไง ฉันถอนหมั้นเธอแน่!" ร่างสูงก่นด่าพฤติกรรมของเธอไปตลอดทาง สายตาก็จับจ้องที่รถยุโรปสีบรอนซ์เงินไม่วางตา
จนรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่หน้าประตูรั้วเหล็กสูง ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไป วิคเตอร์ชะลอความเร็วลง ขับช้าๆ ไปเทียบที่หน้าประตูเพื่อมองไปยังด้านในพื้นที่บ้าน ก็พบอันดามันเปิดประตูด้านหลังลงมาก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าบ้านหลังใหญ่ โดยชายหนุ่มที่ทำหน้าที่คนขับนำรถไปจอดที่โรงรถและแยกไปอีกทาง
"เฮ้อออออ~"
ร่างสูงถอนหายใจออกมา อารมณ์เดือดพล่านสงบลงอย่างไร้สาเหตุ ไม่รู้เพราะโล่งใจหรือผิดหวังกันแน่ ตอนแรกคิดว่าอันดามันจะไปมีสัมพันธ์กับชายคนดังกล่าวตนจึงได้ขับรถตามมาดูให้เห็นกับตาเพื่อจะได้มีข้ออ้างไปยกเลิกการหมั้นหมายกับมารดา นั่นคือสิ่งที่วิคเตอร์สะกดจิตบอกตัวเองเพื่ออธิบายการกระทำแปลกประหลาดของตนในช่วงนี้ แต่สุดท้ายชายคนนั้นเป็นเพียงคนขับรถของเธอเท่านั้น
รถสปอร์ตสีแดงจอดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ทำไมเจ้าของรถจึงรั้งรอจนสาวตัวเล็กเดินเข้าบ้านไปแล้วถึงค่อยขับออกไป มุมปากชายหนุ่มระบายยิ้มสบายใจ ก่อนรถสีแดงจะพุ่งทะยานหายไปในความมืด โดยไม่มีใครรับรู้ถึงวีรกรรมหน้าแตกของเขาในวันนี้