แค่คนเคยรู้จัก
//สวนสาธารณะ//
แก้วกานดาเดินออกมาจากบริษัทวลินดากรุ๊ป ท่ามกลางสายตาของผู้คน เพราะเธอดูสวยสะดุดตา แต่ทว่านายแพทย์หนุ่มกลับมองเธอเป็นเพียงแค่คนที่พรากดวงใจไปจากเขาเท่านั้น
ลูคัสอยากสะกดรอยตามหญิงสาวทุกฝีก้าว ทั้งที่มีมาลิคคอยรายงาน ซึ่งเขายังอยากเห็นเธอผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยตาตัวเองมากกว่าสิ่งใด แน่นอนสาเหตุที่แก้วกานดาถูกปฏิเสธ จากทุกที่ที่เธอไปสมัครงาน ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมดคงไม่พ้นนายแพทย์หนุ่มอย่างลูคัส
“เธอดูน่าสงสารมากเลยนะครับนาย”
“น่าสงสารเหรอ... หึ!” เสียงแค่นหัวเราะออกมาจากลำคอ ช่างเป็นดั่งเสียงคำรามของเจ้าป่า เขายังคงนั่งอยู่ในรถ เพื่อจับจ้องไปที่หญิงสาวร่างเล็ก ซึ่งเวลานี้เธอได้นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ บริเวณสวนสาธารณะ อย่างกับคนสิ้นหวัง
“จะทำยังไงดี ถ้าช่วยแม่ขายขนม รายได้คงไม่พอใช้แน่ ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินค่าอยู่ ที่สำคัญค่าเทอมยัยกิ่งนี่สิเรื่องใหญ่เลย ยังไงเราก็ต้องหาเงินสำรองเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินอีก”
แก้วกานดานั่งบ่นพึมพำอยู่คนเดียว พลางถอนหายใจออกมา ก่อนจะมองออกไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย ขณะที่ชายร่างสูงใหญ่ใส่สูทผูกไทเดินเข้ามาใกล้ๆ คนที่กำลังจะหมดหนทางไปต่อ
“คุณไปพบผมทำไม ต้องการอะไร แก้วกานดา” เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้น ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง แต่เต้นแรงในที่นี้ มันไม่ใช่ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน แต่มันคือความหวังเดียวที่แก้วกานดาคิดว่าเขาจะช่วยเธอได้
“คุณเหมันต์...” หญิงสาวเรียกชื่อเขาออกมาเบาๆ พลางช้อนตาขึ้นไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของอดีตคนเคยรักกัน ด้วยความรู้สึกห่างเหิน เมื่อสิ่งดีๆ ที่เคยมีเริ่มเลือนลางจางหายไป
“ผมมีเวลาไม่มาก พอดีว่าผ่านมาทางนี้ แล้วเห็นคุณนั่งอยู่ก็เลยแวะเข้ามาทัก คุณสบายดีนะ” ชายหนุ่มกำลังโกหก เขาขับรถตามเธอมาต่างหาก โชคดีที่วันนี้วลินดาไม่ได้เข้าบริษัท
ซึ่งสาเหตุที่เหมันต์ตามหญิงสาวออกมา เพราะชายหนุ่มกลัวว่าแก้วกานดาจะไปหาที่บริษัทอีก ซึ่งถ้าหากภรรยาและพ่อตาของเขารู้คงกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
“ก็ดีค่ะ ฉันสบายดี ยินดีด้วยนะคะที่คุณได้แต่งงานกับคุณวลินดา” แก้วกานดาส่งยิ้มบางๆ ให้กับเหมันต์ ราวกับว่าเธอไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ภายในใจมันบอบช้ำเสียจนเกินเยียวยา
“ผมต้องไปแล้ว คุณวลินดากำลังรอผมอยู่” เหมันต์ไม่อยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์ ซึ่งเขาก็ไม่ใช่ผู้ชายใจดำ ถึงขนาดที่จะไม่เห็นใจแก้วกานดา
“เดี๋ยวก่อนค่ะ”
“มีอะไร ผมคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก เพราะสถานะที่มีในเวลานี้ ผมไม่ใช่ผู้ชายโสด” เหมันต์ยังคงคิดว่าแก้วกานดาตัดใจจากเขาไม่ได้ ชายหนุ่มจึงพยายามอธิบาย พลางยกข้อมือขึ้นมา เพื่อดูเวลาจากนาฬิกาเรือนแพง
“ฉันกำลังตกงาน ถ้าหากฉันจะขอร้องให้คุณช่วย คุณพอจะฝากงานให้ฉันได้บ้างหรือเปล่า งานอะไรก็ได้ ฉันไม่มีที่พึ่งแล้วจริงๆ” เธอยอมลดศักดิ์ศรีขอความช่วยเหลือจากเหมันต์ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว แก้วกานดาก็ไม่อยากข้องแวะกับเขาเลยสักนิด
“ผมคงช่วยคุณไม่ได้จริงๆ”
“ฉันก็น่าจะรู้คำตอบตั้งแต่แรก” หญิงสาวลุกขึ้นยืน พลางเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้ม ทั้งที่เธอพยายามกลั้นเอาไว้สุดกำลัง แต่พอเจอหนทางตัน ก็มิอาจทนกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป
บทสนทนาของคนทั้งคู่อยู่ภายใต้สายตาคม ที่ฉายแววคมกล้าออกมาราวกับคมดาบ ที่อยากเฉือนเธอออกให้เป็นชิ้นๆ
ลูคัสยังคงจับจ้องไปที่แก้วกานดา เขาอยากรู้เหมือนกันว่า เธอจะใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนยังไง เพื่อให้เหมันต์เปลี่ยนใจ ยอมช่วยเหลือให้เธอได้งานทำ
“นายครับ ผมพนันเลยว่าคุณแก้วกานดาคงได้งานทำก็คราวนี้แหละ” มาลิคพอจะเดาสีหน้าของเหมันต์ออก เมื่อเขากำลังใช้ความคิดประหนึ่งตัดสินใจลำบาก ที่จะจากแก้วกานดาไป ทั้งที่เขาพอจะช่วยหญิงสาวอยู่ได้บ้าง
“ต่อให้เธอได้งานทำ ฉันก็จะทำให้เธอตกงาน” คราวนี้แววตาของลูคัสจ้องมองไปที่หญิงสาวร่างเล็กเย็นเยียบชวนให้หนาวสะท้าน ก่อนจะแปลเปลี่ยนฉายแววแผ่รังสีอัมหิต คุกคามชีวิตของแก้วกานดาออกมาอย่างผู้ที่มีชั้นเชิงเหนือกว่า เขาจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้เธอได้เจอกับหายนะ
ทางด้านเหมันต์ ถึงแม้ชายหนุ่มจะไม่อยากข้องแวะกับแก้วกานดาแล้ว แต่เมื่อเห็นน้ำตาของอดีตคนรัก เขาก็อดที่จะยอมใจอ่อนไม่ได้ แต่ทว่าที่นั่นอาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเธอ ซึ่งในทางกลับกันเหมันต์กำลังคิดว่า แก้วกานดาผ่านร้อนผ่านหนาวอยู่ในเรือนจำมาตั้งหลายปี เธอคงรู้วิธีการเอาตัวรอดได้
“เก็บนามบัตรนี้ไว้ ถ้าหากคุณอยากได้งานทำ แต่ผมไม่รับประกันว่าที่นั่นจะเหมาะกับคุณหรือเปล่า ถ้าคิดว่าทำได้ก็บอกกับเขาว่าผมแนะนำมา ครูซคือเพื่อนของผมเอง ขอตัวนะแก้วกานดา หวังว่าเราคงไม่เจอกันอีก”
ช่างเป็นคำบอกลาที่น่าประทับใจเหลือเกิน แก้วกานดาหยิบนามบัตรขึ้นมาดูด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ก่อนที่แววตาของเธอจะมีความกังวลแทรกเข้ามาแทน ราวกับคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังถาโถมโหมซัดสาดเข้ามาสู่ภายในจิตใจของเธอ
เมื่อสถานที่ในนามบัตร มันคือผับที่เธอไม่คุ้นเคย ที่สำคัญชีวิตนี้แก้วกานดาแทบจะไม่ได้ก้าวเข้าไปสัมผัส ในบรรยากาศแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ สิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยภัยรอบกาย แต่มันคือทางเลือกสุดท้ายสำหรับหญิงสาว ที่ถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า
“นายครับ คุณครูซโทรมาบอกว่าคุณท่านหายตัวไป” มาลิคกดรับโทรศัพท์ หลังจากที่ครูซต่อสายหาเขา เพราะสองพี่น้องไม่ค่อยลงรอยกัน ก่อนที่ลูกน้องคนสนิทจะรีบรายงานลูคัส เรื่องที่คุณนายเรไรหายไป
“ฮ่ะ! ไอ้ครูซ ไอ้บ้าเอ๊ย!” นายแพทย์หนุ่มถึงกับสบถขบกรามแน่น เมื่อครูซคอยสร้างแต่ปัญหาให้กับเขาได้แทบทุกวี่ทุกวัน ซึ่งชายหนุ่มเป็นลูกพี่ลูกน้องที่นายแพทย์อย่างลูคัส ไม่สามารถพึ่งพาอะไรได้สักอย่าง นอกจากกินกับเที่ยวและก็ใช้เงินเก่ง
ครูซไม่สนใจงานที่โรงแรมและบริษัท ยิ่งโรงพยาบาลเขาไม่ก้าวเท้าเข้าไปเหยียบเลยด้วยซ้ำ นอกจากผับที่เขาชอบเป็นชีวิตจิตใจ จึงทำให้ครูซขยันเข้าไปดูแล ถึงแม้ว่าหุ้นส่วนอย่างเหมันต์จะไม่ค่อยมีเวลาไปช่วยก็ตามที เขาก็สามารถบริหารจัดการได้ดี