บทที่ 5
“ไปผิดร้านว่ะ ก็นายบอกไม่เคลียร์เองนี่หว่า เจอกันรอบหน้าก็แล้วกันนะ” วริศวางสาย แล้วถอนใจเฮือก พลางมองร่างบางที่นอนสลบไสลอยู่บนโซฟา หลังจากทำคราบเลอะเทอะให้เขาแล้ว เจ้าหล่อนก็หลับไปเสียดื้อๆ
‘เด็กบ้า! เป็นน้องเป็นนุ่งคงจะจับตีก้นไปแล้ว ไปเมาแบบนั้นคนเดียว ดีนะไม่มีใครพาออกไป’
วริศคิดในใจ ก่อนจะทรุดลงนั่งข้างๆ แล้วมองรินพรอย่างจนปัญญา ว่าจะทำอย่างไรกับเจ้าหล่อนดี เขาพาเธอมาที่คอนโดมิเนียมของเขา ให้นอนบนโซฟาตัวโตที่อยู่ในห้องรับแขก แล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวเองเรียบร้อยแล้ว เดินกลับมาดูเธอ รินพรก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น สงสัยจะเมามาก นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนกับมัญชุภา บางทีเขาอาจจะใจดำปล่อยเธอทิ้งไว้ตรงนั้น ก็ปากเสียขนาดนั้นนี่นา
แต่ยังไงเขาก็คงปล่อยเธอไว้ตรงนั้นไม่ได้หรอก วริศถอนใจ ถึงแม้จะทำตัวห้าวขนาดไหน แต่เจ้าตัวก็ยังเป็นผู้หญิง สังคมสมัยนี้ด้วย จิ้งจอกยามค่ำคืนมีเยอะ รินพรเองก็ไม่ได้หน้าตาขี้ริ้ว ติดจะสวยใสมากเสียด้วยซ้ำไป แม้จะทำตัวห้าวแบบไหน แต่ความน่ารักตรึงใจของเจ้าตัว ก็ยังมองเห็นได้สะดุดตาทั้งชายหญิง
เสียงเจ้าตัวพึมพำอ้อแอ้ดังขึ้นอีกรอบ ทำให้เขาต้องโน้มตัวลงไปฟัง ว่ารินพรพูดบ่นอะไร เผื่อเขาจะได้รู้สาเหตุ ที่ทำให้เธอมากินเหล้าเมามายอยู่แบบนี้
“ทำไมใครๆ ทิ้งแน็ตไปหมดกันนะ เกลียดผู้ชาย แน็ตเกลียดจังเลย ชอบมาแย่งความรักของแน็ต”
“อะไรทำให้เป็นแบบนี้นะ โดนแย่งแฟนหรือไงกันแม่คุณ แล้วทำไมต้องทำตัวเป็นแมนด้วย” วริศส่ายหน้าช้าๆ มือใหญ่ไล้ปัดผมที่มาระแก้มนิ่มให้อย่างเบามือ นัยน์ตาคมกริบแอบมองคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง อย่างพิจารณาทีละส่วน
เครื่องหน้าที่ประกอบกัน บนใบหน้ารูปไข่ของเจ้าตัว ละมุนหวาน ขนตาดกงอนเป็นแพ จมูกรั้น ริมฝีปากอิ่มแดงเรื่อ แก้มใสแดงน้อยๆ เพราะพิษเหล้า ยิ่งมองวริศก็ยิ่งนึกเสียดาย แทนผู้ชายหลายๆ คน ที่เจ้าตัวเลือกที่จะเป็นสาวห้าว แถมประกาศเลยว่า ยังไงก็ไม่ใช่ผู้หญิงเด็ดขาดเสียด้วย
มือใหญ่ไล้เพลินไปที่แก้มอิ่ม ระไปตามคางมน ริมฝีปากอิ่มได้รูป วริศมองแล้วตาปรอย เหตุการณ์ที่ปะทะกันริมทะเล วูบเข้ามาในความทรงจำ
‘ฉันไม่ใช่ผู้หญิง’ รินพรตะโกนใส่หน้าเขา หลังจากที่เธอและเขาปะทะคารมกัน รินพรไม่พอใจที่วริศทำท่าดูแลมัญชุภาจนออกนอกหน้า เธอโกรธเขาแทนสักทอง ที่เธอนับถือเหมือนกับพี่ชายคนหนึ่ง เธอจึงไม่ชอบและหวงแทนสักทอง เมื่อมีโอกาสรินพรจึงไม่พลาดที่จะแขวะเขาทำจนวริศที่เป็นคนใจเย็นต้องโมโห เมื่อเธอเล่นเอาเขาไปเปรียบเป็นหมาหวงก้าง ที่คอยเฝ้ามัญชุภา แถมเป็นหมาดำเสียด้วย
วริศหรี่ตา มองเครื่องหน้าสวยหวานจิ้มลิ้มของเธอ ใครบอกกัน หน้าตาหวานน่ารักขนาดนี้ถ้าไม่ทำตัวห้าวๆ ทอมบอย คงจะมีผู้ชายมาจีบแบบหัวกระไดไม่แห้งแน่ๆ
‘ใช่สิ !’
“ไม่ใช่’
‘ถ้าอย่างนั้นผมจะทดสอบดู’ วริศว่า เขากระชากรินพรเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนที่สาวห้าวจะทันตั้งตัว ริมฝีปากได้รูปของเขา ก็กดลงมาบนริมฝีปากอิ่มของเธออย่างรวดเร็ว รินพรถึงกับทำตาโตแล้วผลักไสเขาเป็นพัลวัน แต่วริศไม่ยอมปล่อย เขาบดริมฝีปากเขากับริมฝีปากนุ่ม และย้ำจูบหวานอย่างลืมตัว เมื่อได้แตะต้องเข้ากับร่างบาง ที่ประกาศว่าตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงนั่น...
นึกมาถึงตรงนี้ ความหวานละมุนที่เคยได้รับจากริมฝีปากนุ่ม มันทำให้ประกายตาของวริศเปลี่ยนไป มันอ่อนโยนลงแบบที่เจ้าตัวไม่เข้าใจ ใบหน้าคมเข้มโน้มลงไปใกล้กับใบหน้าหวานอย่างลืมตัว ค่อยเคลื่อนใกล้ทีละนิดกับจุดมุ่งหมายที่แสนหวานนั้น
“อ้วก!” รินพรลุกพรวดขึ้นอ้วกใส่หน้าของวริศอีกรอบ จนชายหนุ่มต้องเอามือปาดอาเจียนของเธอออก ดีนะที่คราวนี้มีแต่น้ำใสๆ วริศโมโหมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แถมเจ้าหล่อนก็ซบลงมาหาเขาทั้งตัว ทั้งเธอและเขาเลอะอาเจียนไปหมด
“เด็กบ้า! จะทำยังไงดีนะ ปล่อยไว้แบบนี้ได้ที่ไหนกัน” วริศขมวดคิ้ว แล้วมองร่างบางที่ซบลงมาหาเขาทั้งตัว ก่อนจะถอนใจเฮือก แล้วตัดสินใจอุ้มร่างของรินพร ไปที่ห้องน้ำในห้องนอนของเขา วริศเปิดน้ำจนเต็มอ่าง พลางค่อยๆ หย่อนแม่ตัวแสบลงไปในน้ำ อาบน้ำให้แบบนี้เลยละกัน เลอะอาเจียนไปหมดทั้งตัว ปล่อยทิ้งไว้ได้ที่ไหนกัน แถมเธอยังเอามาเลอะเขาอีกรอบเสียด้วย
“ถ้าเป็นผู้ชายไปเลยจริงๆ ก็ดีสินะ เฮ้อ...จะว่าเราฉวยโอกาสไหมเนี่ย” วริศบ่นพึมพำ รินพรส่งเสียงอืออา ทั้งที่ตาไม่ได้ลืม แล้วสำลักเมื่อวริศเปิดน้ำฝักบัวล้างหน้าให้ เธอแค่ปรือตามองเขา แถมยิ้มหวานให้อีกต่างหาก
“เย็นดีจังเลย”
“เฮ้อ...เมาอะไรนักหนานะ แม่ตัวแสบ”
ชายหนุ่มอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อรินพรยิ้มทั้งที่ตาหลับ ขนาดโดนน้ำเย็นจัดเจ้าตัวก็ยังไม่ฟื้น แสดงว่าเมามาก เมื่อล้างตัวให้รินพรเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลังเลที่จะทำอย่างไรกับร่างบางต่อ ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ก็คงไม่ได้ เขาคิดก่อนจะถอนใจเฮือก แล้วเดินออกมานอกห้องน้ำ ลังเลนิดหน่อยเมื่อคว้าเสื้อเชิ้ตสีเข้มในตู้ออกมา กับกางเกงขาสั้น เขาเดินกลับมาที่ห้องน้ำ ที่มีรินพรนอนเปียกปอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในอ่างน้ำ มือใหญ่เอื้อมปิดสวิตซ์ไฟให้ดับลง ก่อนจะเดินตรงเข้าหาเธอ แสงพอเห็นสลัวเพราะไฟในห้องนอนเปิดทิ้งไว้ลอดเข้ามาตามช่องประตู วริศถอนใจเมื่อเอื้อมมือปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนของรินพร ริมฝีปากได้รูปบ่นพึมพำ
“ขอโทษนะ แต่พี่ไม่มีทางเลือกจริงๆ พี่หลับตาแล้วนะ ไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง ตื่นมาจะอาละวาดไหมเนี่ย แต่ยังไงก็ปล่อยไว้ไม่ได้ เดี๋ยวเป็นปอดบวมตายพอดี”