บทที่ 8 เซ็นสัญญา
“คุณมุกดา คุณพ่อของคุณต้องการการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนจริง ๆ ผมเห็นว่าเขาอาการไม่ค่อยดีจริง ๆ คุณควรที่จะพิจารณาข้อเสนอของผมสักหน่อย” ไม่รู้ว่านัทธ์เดินเข้ามาตั้งแต่ตอนไหน เขาพูดกับมุกดา
มุกดามองดูบิดาของตัวเอง แล้วก็นึกถึงคำที่พยาบาลเพิ่งจะพูดไป เธอเช็ดน้ำตา แล้วหันไป เผชิญหน้ากับนัทธ์
“ได้ ฉันจะแต่ง ไม่ว่าคุณชายของคุณจะเป็นคนร่างกายไม่ครบสมประกอบ และไม่ว่าเขาจะมีโรคอะไรที่เปิดเผยไม่ได้ ฉันก็จะแต่ง แต่ตอนนี้ฉันต้องการเงินหนึ่งล้านและรีบจ่ายให้กับทางโรงพยาบาล ให้พวกเขาหาหัวใจที่เหมาะสมเพื่อปลูกถ่ายหัวใจให้กับพ่อของฉัน!” มุกดาไม่มีทางให้ถอยอีกแล้ว เธอทำได้แค่เพียงนำตัวเองไปแลกกับความปลอดภัยของพ่อ
“ได้ นี่ไม่ใช่ปัญหา ผมจะรีบโอนเงินให้” นัทธ์เห็นมุกดารับปากแล้ว เขาก็วางใจ แล้วควักโทรศัพท์ออกมา จิ้มปลายนิ้วไปเบาๆ
“เอาล่ะคุณมุกดา จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว โอนเงินเสร็จแล้วครับ ผมยังโอนเกินไปให้อีกสามแสน คุณวางใจเถอะ” นัทธ์เก็บมือถือ แล้วพูดกับมุกดา
สำหรับคนที่มีเงิน เรื่องทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นง่ายดายอย่างนี้ มุกดายังไม่ทันจะพูดว่าขอบคุณ หมอและพยาบาลต่างก็เข้ามาแล้ว
“รีบเปลี่ยนเป็นยาที่ดีที่สุดให้กับคุณณิชพนเร็ว ตอนนี้ได้ติดต่อเรื่องหัวใจแล้วนะครับ ถ้ามีข่าวอะไรผมจะแจ้งให้คุณมุกดาทราบ”
คุณหมอคนนั้นก็คือคนที่เพิ่งจะเร่งให้มุกดาจ่ายเงินคนนั้นนั่นเอง
มุกดามองคนเหล่านี้ พอมีเงินแล้ว อะไร ๆ ก็พูดดีไปหมด แม้แต่ท่าทีของหมอคนนั้นก็ยังดูเปลี่ยนไปมาก
“เอาล่ะ จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ขอเชิญคุณมุกดาไปกับผมเถอะ” นัทธ์พูดกับมุกดาอย่างมีมารยาทมาก
มุกดาหันไปมองบิดาของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง พอมียาดีแล้ว เธอก็วางใจลงไปเยอะเลย
“ได้!” มุกดาตามนัทธ์ออกไปจากห้องผู้ป่วย
มองดูรถยนต์เบนท์ลีย์สุดหรูคันนั้น มุกดาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคนมีเงินคนนั้นถึงได้สนใจตนเองขึ้นมา ในใจของเธอกลับยิ่งแน่ใจแล้วว่า คุณชายอะไรนั่น ถ้าไม่ได้ร่างกายไม่สมประกอบ ก็คงจะมีหน้าตาที่พบเจอผู้คนไม่ได้
รถขับวนในเมืองหลวงหนึ่งรอบ สุดท้ายก็มาถึงที่วิลล่าในเขตชานเมือง รถขับเข้าไป นัทธ์เปิดประตูรถออก เพื่อให้มุกดาลงจากรถ
วิลล่าหลังนี้ จะพูดอย่างไรดี พื้นที่ประตูที่เปิดโล่งนั้น ขนาดใหญ่เท่ากับลานกว้าง ทั่วทั้งคฤหาสน์ทำให้คนเกิดความรู้สึกกดดันบางอย่าง
สำหรับมุกดาแล้ว ความกดดันนั้นทำให้เธอหายใจแทบไม่ออก
เมื่อเดินตามนัทธ์เข้ามาในคฤหาสน์ ภายในคฤหาสน์แห่งนั้นเรียกได้ว่าทำมาจากเงินจริง ๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์และโคมไฟที่ประดับตกแต่งนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่มุกดาไม่เคยเห็นมาก่อน
เพียงแต่มุกดาไม่ได้สนใจสิ่งพวกนี้ ตอนนี้เธอรู้สึกสนใจอยู่นิดหน่อยก็คืออยากจะดูว่าสรุปแล้วสามีของเธอคนนี้ขี้เหร่สักแค่ไหนกัน
“คุณมุกดา เชิญคุณนั่งลงก่อน เดี๋ยวผมจะไปเอาสัญญามาให้คุณเซ็น” นัทธ์ให้มุกดานั่งลงบนโซฟาอิตาลีราคาแพงสูงลิ่ว แล้วยังเรียกให้คนมารินน้ำให้มุกดาด้วย
เขาไปที่ห้องหนังสือ ก่อนจะหยิบสัญญาออกมาเตรียมให้พร้อม
“คุณมุกดา คุณลองดูสักหน่อย ถ้าคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรละก็ อย่างนั้นก็เซ็นเถอะ” นัทธ์ยื่นสัญญาให้มุกดา มุกดารับสัญญามา แล้วมองดูอย่างตั้งใจ
ในสัญญานั้นไม่ได้เขียนข้อตกลงไว้มากนัก เพียงแค่บอกให้มุกดาแต่งงานกับคุณชายตระกูลนี้ จากนั้นคุณชายตระกูลนี้จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของมุกดา
กำหนดการแต่งงานมีระยะเวลาสองปี หลังจากสองปีผ่านไป ชายหญิงทั้งคู่ก็จะได้รับอิสระกลับคืนมา ฝ่ายชายจะจ่ายค่าชดเชยให้กับฝ่ายหญิงอีกสิบล้าน
เพียงแต่ในตอนท้ายมีเพิ่มอีกหนึ่งข้อคือ ภายในสองปีนี้ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะต้องทำเหมือนเป็นคู่สามีภรรยากันจริง ๆ แล้วยังต้องจดทะเบียนสมรสกันอีกด้วย
มุกดามองดูแวบหนึ่ง สัญญานี้เป็นประโยชน์กับตน พิเศษกว่านั้นคือหากเลิกรากันยังให้เงินตนเองอีกสิบล้านด้วย เมื่อเทียบกับผู้ชายเฮงซวยอย่างธีรเมทแล้วยังดูมีฐานะกว่ามาก และนั่นก็หมายความว่า สองปีนี้ มุกดาจะต้องให้ชีวิตอยู่กับคนอัปลักษณ์ แต่หลังจากสองปีผ่านไป เธอก็จะเป็นอิสระแล้ว
“คือว่าลุงคะ คุณชายของคุณปฏิบัติต่อฉันแบบนี้ เขาจะไม่เสียเปรียบมากหรอกเหรอ?” มุกดาถือสัญญาไว้ในมือ แล้วถามนัทธ์
แน่นอนว่าต้องเสียเปรียบอยู่แล้ว เพียงแต่ คุณชายก็ทำเพื่อรับมือกับคนในครอบครัวที่จะบังคับให้แต่งงาน ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้โชคดีก็คงไม่หล่นลงมาใส่หัวคุณหรอก
แต่นัทธ์ไม่มีทางพูดอย่างนั้นออกมาหรอก
“ไม่ ไม่เลย คุณเองก็ต้องทุ่มเทด้วยไม่ใช่เหรอ? เวลาสองปีนี้ถือว่าเป็นยุคทองสำหรับคุณเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” นัทธ์พยายามพูดให้น่าฟัง
ในเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้เสียผลประโยชน์อะไร อีกอย่างนี่ก็ถือว่าเป็นโชคก้อนใหญ่ที่หล่นลงมาจากฟ้าด้วยเช่นกัน
ตอนนี้มุกดาไม่มีอะไรให้ต้องเสียอีกแล้ว ตนเองไม่มีอะไรสักอย่าง แล้วคุณชายก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับตน ก็แค่นอนร่วมกัน ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ก็ได้ อย่างไรเสียขอเพียงให้คุณพ่อหายดี อะไรก็ดีหมดแหละ
มุกดาลงชื่อของตัวเองเสร็จแล้ว จากนั้นค่อยยื่นสัญญาให้กับนัทธ์
“คุณมุกดา สิ่งของของคุณผมนำมาให้ทั้งหมดแล้ว ก็คือของที่คุณทิ้งไว้ในโรงแรมนั้นนั่นเอง คุณลองดูสิว่า ข้างในมีสิ่งของอะไรสูญหายไปหรือเปล่า ส่วนห้องของคุณอยู่ด้านบนห้องที่สองตรงหัวมุม ได้ทำความสะอาดให้คุณไว้เรียบร้อยแล้ว” นัทธ์ยื่นกระเป๋าถือของมุกดาส่งให้กับเธอ
มุกดามองแวบหนึ่ง โทรศัพท์มือถือของตนเอง บัตรประชาชน เงินหลายร้อยเหรียญยังอยู่ ไม่มีอะไรหายไป
“ขอบคุณนะคะ ไม่มีอะไรหายไปค่ะ” มุกดาแสดงความขอบคุณกับนัทธ์
พูดกันเป็นเวลานานแล้ว จู่ ๆ มุกดาก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตนยังมีเรื่องที่สำคัญมากที่ยังไม่ได้ถามคุณลุงที่อยู่ตรงหน้าท่านนี้