บทที่ 6 คนหลอกขายยันต์(2)
ผู้หญิงมองเฉินโม่อย่างประเมิน วัยรุ่นตรงหน้ายังใส่ชุดนักเรียน เห็นได้ชัดว่าเป็นนักเรียนมัธยมปลาย แต่ผู้หญิงไม่ได้สัมผัสถึงความอ่อนเยาว์จากตัวของเฉินโม่เลยสักนิด กลับรู้สึกกดดันเหมือนเผชิญกับผู้อาวุโสที่เฉลียวฉลาด
"ฉันเชื่อนาย พูดมาสิ ยันต์นี้เท่าไร ฉันจะซื้อ!" ผู้หญิงมองเฉินโม่ ด้วยสีหน้าแน่วแน่
เฉินโม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ยังไม่เชื่อเขา แต่ตอนนี้เขาต้องการเงินอย่างเร่งด่วน
เฉินโม่ถอนหายใจแล้วพูดว่า "ยันต์ตั้งจิตสามหมื่น ยันต์สะอาดจิตสองหมื่น ส่วนที่เหลือหนึ่งหมื่น"
"สามหมื่น! ทำไมนายไม่ไปปล้นเลยล่ะ!"
ไม่รอให้ผู้หญิงตอบ จู่ๆ มีผู้หญิงผมสั้น สวมแจ็กเก็ตหนังสีแดง กางเกงฮีทเทค รองเท้าบูทหนังยาวถึงเข่าสีแดง พุ่งออกมาจากด้านข้าง มองเฉินโม่ด้วยสีหน้าดูหมิ่น และก่นด่าออกมา
หน้าตาของผู้หญิงคนนี้ พอๆ กับผู้หญิงผมยาว ที่สวมชุดขนเป็ดสีขาวก่อนหน้านี้ หุ่นโอเวอร์มาก แต่ราศีกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ทั้งตัวมีออร่าความแข็งแกร่ง เกรี้ยวกราดเอาแต่ใจ แผ่ออกมา
"ฉันจะบอกให้นะเสี่ยวอวิ๋น ทำไมเธอถึงเชื่ออะไรแบบนี้ ไม่ดูสภาพเขาบ้าง เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลาย"
"เธอดูยันต์บ้าๆ ของเขาสิ แค่วาดมั่วๆ แล้วเอามาหลอกเงิน อีกทั้งตั้งสามหมื่น ให้ฟรีฉันยังไม่เอา แถมยังเปลืองแรงเอาไปทิ้งถังขยะด้วย!" ผู้หญิงผมสั้นดึงจินเพ่ยอวิ๋นขึ้นมา มองเฉินโม่อย่างโมโห ราวกับแน่ใจว่าเฉินโม่เป็นพวกหลอกลวงไปทั่ว
ผู้หญิงเสื้อขาวอย่างจินเพ่ยอวิ๋นโดนเธอด่าไปหนึ่งยก สีหน้าดูกระอักกระอ่วน เธอรู้ว่าเพื่อนสนิทคนนี้พูดมีเหตุผล แต่เธอก็ยังอยากซื้อมาลองดู
จินเพ่ยอวิ๋นดึงเพื่อนสนิทของตัวเอง แล้วพูดอย่างเศร้าใจว่า "เซิ่งหนาน อาการป่วยของย่าฉัน ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ อาการกำเริบก็บ่อยขึ้นด้วย ขนาดผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาที่ดีที่สุดในยานจิงยังจนปัญญา ฉันก็จนปัญญาเหมือนกัน จึงอยากลองซื้อกลับไปลองสักใบ คิดเสียว่าพอเป็นความหวังสักเล็กน้อย!"
หลี่เซิ่งหนานมีสีหน้าไม่ได้ดั่งใจ รีบพูดออกมาว่า "เสี่ยวอวิ๋น ฉันรู้ว่าตั้งแต่เด็ก ย่ารักเธอมาก เธออยากให้ย่าดีขึ้นเร็วๆ แต่เธอจะโดนหลอกแบบนี้ไม่ได้ เธอดูยันต์พวกนั้นของเขาสิ เธอเคยเห็นการวาดสัญลักษณ์บนกระดาษขาวไหม ถึงเป็นคนหลอกลวงต้มตุ๋น อย่างน้อยก็ต้องเป็นมืออาชีพด้านนี้หน่อยสิ!"
ทุกคนล้วนรู้ดี ถึงเป็นยันต์แบบทั่วไปที่สุด ล้วนวาดบนกระดาษเหลือง แต่ยันต์พวกนี้ของเฉินโม่ล้วนวาดบนกระดาษขาว ดูเหมือนจะไม่เข้าท่าจริงๆ ไม่แปลกที่หลี่เซิ่งหนานแน่ใจว่าเขาเป็นคนหลอกลวง
คำพูดของหลี่เซิ่งหนานทำให้ผู้บำเพ็ญแดนดั่งเทพของสำนักเสวียนเต๋าอย่างเฉินโม่ที่แม้แต่จักรวาลโดนทำลายล้าง ก็ไม่สะทกสะท้าน หน้าแดงขึ้นมา
เฉินโม่เอือมระอา คิดว่าเขาอยากใช้กระดาษขาวเหรอ เพราะเงินที่เหลือติดตัวมีไม่พอให้ซื้อกระดาษเหลือง แต่ถึงแม้เป็นกระดาษขาว ก็ไม่มีผลกระทบกับประสิทธิภาพของยันต์พวกนี้สักนิด เรื่องนี้เฉินโม่ยังมีความมั่นใจ
คนที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณรอบๆ เห็นเรื่องสนุก ก็อดมองแล้วหัวเราะเยาะเฉินโม่ไม่ได้ ทำให้ความหวังเล็กน้อยของจินเพ่ยอวิ๋นเกือบแตกสลายไป
แต่เมื่อคิดถึงย่าที่สูญเสียสติ แววตาจินเพ่ยอวิ๋นฉายแววแน่วแน่
"เซิ่งหนาน ฉันตัดสินใจแล้ว เธอไม่ต้องเกลี้ยกล่อมฉัน ถึงฉันโดนหลอก เพื่อย่า ฉันจะลองดู"
เธอมองเฉินโม่ แล้วพูดอย่างเด็ดขาด "คุณผู้ชาย ฉันจะเอายันต์ตั้งจิตใบนั้น"
"ฉันมีเงินสดติดตัวไม่มาก ฉันใช้วีแชทโอนให้นายละกัน!"
หลี่เซิ่งหนานเอามือหนึ่งกุมหัว สีหน้าเอือมระอา แววตาที่มองเฉินโม่ เหมือนมีดอันแหลมคม เธอเกลี้ยกล่อมจินเพ่ยอวิ๋นไม่ได้ จึงหันไปโกรธเฉินโม่แทน
เฉินโม่ไม่สนใจเธอสักนิด สีหน้าไม่ยินดียินร้าย มองจินเพ่ยอวิ๋นแล้วถามว่า "เธอมีเงินสดติดตัวเท่าไร"
จินเพ่ยอวิ๋นเปิดกระเป๋าสะพายข้างแบบผู้หญิง แล้วพูดว่า "มีแค่หนึ่งหมื่น"
"หนึ่งหมื่นก็ได้ ฉันบอกไปแล้ว คนที่รู้จักของล้ำค่านี้ไม่ต้องใช้เงินสักแดงก็เอาไปได้ แต่คนที่ไม่รู้จักของล้ำค่านี้ เงินมากเท่าไรก็ไม่ขายให้ แต่ช่วงนี้ฉันต้องใช้เงินด่วน เอาเงินเธอมาหนึ่งหมื่น ถือเป็นต้นทุนละกัน"
จินเพ่ยอวิ๋นยื่นเงินสดให้เฉินโม่ เฉินโม่ไม่แม้แต่จะนับ ใส่ลงไปในกระเป๋าทันที จากนั้นจึงพูดว่า "เห็นแก่ความกตัญญูอันดีงามของเธอ ยันต์ใบอื่นๆ ฉันให้เธอด้วย หลังจากกลับไป เอายันต์แปะไว้บนหน้าผากผู้ป่วย ตะโกนออกมาว่า 'เริ่ม' ก็พอแล้ว!"
จินเพ่ยอวิ๋นยิ่งรู้สึกว่าเฉินโม่ลึกล้ำจนยากจะคาดเดา อดมั่นใจในยันต์พวกนี้ขึ้นมาไม่ได้ "ขอบคุณคุณผู้ชายมาก!"
แต่หลี่เซิ่งหนานที่อยู่ข้างๆ กลับมีสีหน้าไม่พอใจ มองเฉินโม่อย่างโมโห แล้วพูดว่า "ถ้ายันต์บ้าบอพวกนี้ไม่ได้ผล ไม่ว่านายจะซ่อนตัวอยู่มุมไหน ฉันจะจัดการนายให้ได้!"