บทที่ 2 เกิดใหม่มัธยมหก(2)
"ชาติที่แล้วฉันติดรวยจนเป็นนิสัย ขนาดมหาลัยที่เป็นมาตรฐานก็ยังสอบเข้าไม่ได้ ผู้เป็นแม่อย่างหลี่ซู่เฟินต้องใช้เงิน ฉันถึงเข้ามหาวิทยาลัยระดับกลางแห่งหนึ่งได้"
"ต่อมาฉันไปร่วมงานศพยาย โดนพี่น้องรุ่นเดียวกันในตระกูลแม่เล่นงานจนเกือบตาย จึงละอายใจต่อความผิด แล้วกล้าที่จะแก้ไข ฮึกเหิมใฝ่หาความก้าวหน้า แต่เพราะความสามารถและอายุ จึงทำให้การประสบความสำเร็จมีขีดจำกัด"
"หลังจากพ่อแม่ตายไป ฉันรับช่วงต่อบริษัทของแม่ แต่โดนตระกูลว่านวางแผนร้ายโจมตี บีบจนฉันกระโดดตึกฆ่าตัวตาย โชคดีที่กษัตริย์เซียนตงหวาผ่านมาดาวไอกา จึงช่วยชีวิตเอาไว้ และพาฉันเข้าสู่หนทางบำเพ็ญเซียน"
"ฉันท้อแท้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเข้ากับจิตใจผู้บำเพ็ญเซียนได้พอดี ทำให้ผลการฝึกตนของฉันก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ระยะเวลาสั้นๆ เพียงหกร้อยปี ก้าวเข้าสู่ช่วงกลายเทพ ระยะที่สามแดนดั่งเทพ สามารถกลายเทพนับพันนับหมื่น ท่องจักรวาลและดวงดาวบนท้องฟ้า"
"อาจารย์กษัตริย์เซียนตงหวาเสียดายความสามารถของฉัน จึงให้ลูกสาวที่ตัวเองรักที่สุด อย่างศิษย์น้องหญิงลั่วหลีมาเป็นคู่ฝึกฝนของฉัน เราคบอยู่ด้วยกัน กลายเป็นคู่ที่ทำให้เทพเซียนมากมายอิจฉา แต่สุดท้ายเพราะศิษยน้องหญิงมีใจที่อยากรู้มากเกินไป เข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม ทำให้สูญเสียทั้งสองคน"
"ใช่ ในเมื่อฉันกลับมาเกิดใหม่ได้ งั้นศิษย์น้องหญิงที่มีผลการฝึกตนสูงกว่าฉันหนึ่งแดน จะกลับมาเกิดใหม่บนดาวไอกาได้หรือเปล่า"
เฉินโม่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
แต่เขาก็รีบใจเย็นลง
"แม้ศิษยน้องหญิงจะกลับมาเกิดใหม่บนดาวไอกาเหมือนกัน จากพละกำลังของฉันในตอนนี้ ไม่มีทางหาเจอได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำในตอนนี้คือยกระดับพละกำลัง เอาผลการฝึกตนกลับมา ไม่งั้นอย่าว่าแต่หาศิษย์น้องหญิงเลย ขนาดเอาตัวเองให้รอดยังยาก"
เขาไม่ใช่วัยรุ่นงมงายไม่รู้ความ เป็นกบในกะลาบนดาวไอกาแห่งนี้อีกแล้ว เขารู้ถึงโลกบำเพ็ญเซียนมากมาย ถึงเป็นมหาบุคคลจิตปฐม ก็สามารถทำลายล้างโลกได้อย่างง่ายดาย
มีเพียงพละกำลัง ถึงจะเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง
"ชาติที่แล้ว ฉันเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ คนที่ฉันแอบรักอย่างอานเข่อเยว่ ดูหมิ่นฉันมาก คู่หมั้นอย่างเอียนชิงเฉิงถอนหมั้น ตระกูลของแม่มองฉันเป็นสวะ ตระกูลของพ่อมีเพียงคุณปู่เฉินกั๋วเหลียงรักฉัน ฉันใช้ชีวิตอย่างหดหู่ใจมาก"
"มองกับตาตัวเองว่าพี่เวินฉิงที่เอ็นดูฉันยอมถวายตัวให้ศัตรูตัวฉกาจของฉันอย่างว่านเหวินโยวเพื่อปกป้องฉัน ฉันทำได้เพียงดื่มจนไม่ได้สติในงานแต่งของพี่"
"มองพ่อแม่ตายไปทั้งคู่ โดยที่ฉันไม่สามารถทำอะไรได้ มองบริษัทที่รับช่วงต่อจากแม่ โดนตระกูลว่านโจมตีเรื่อยๆ ฉันกลับทำได้เพียงสิ้นหวัง และฆ่าตัวตาย"
"แต่สวรรค์กลับให้ฉันได้กลับมาเกิดใหม่ และเกิดใหม่ในช่วงม.6 ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สุด"
"ชาตินี้ ฉันจะชดเชยความเสียใจทั้งหมด ปกป้องคนสนิทและเพื่อนที่รักฉัน พวกคนที่รังแกดูหมิ่นฉัน พวกนายคงคิดไม่ถึงว่าคนอย่างเฉินโม่ จะกลับมาเกิดใหม่สินะ......"
แววตาของเฉินโม่ยิ่งลุกวาวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนพระอาทิตย์ลอยขึ้นมาอีกครั้ง สว่างไสวไปทั่ว!
"พ่อ แม่ พี่เวินฉิง ชาตินี้ผมจะไม่ให้ใครรังแกพวกท่านอีก! ตระกูลว่าน ตระกูลหลี่ พวกนายรอได้เลย เฉินโม่กลับมาแล้ว!"
ในห้องเรียน แววตาของเฉินโม่แน่วแน่ขึ้นเรื่อยๆ ลมปราณอันแกร่งกล้าแผ่ซ่านออกจากตัวเขา ทำให้วิญญาณและจิตใจของเขาเปลี่ยนไปทันที!
หวางลี่มองเฉินโม่ที่อยู่ข้างหน้าอย่างตกใจ เธอรู้สึกเหมือนเฉินโม่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่แตกต่างไปอย่างไร เธอไม่สามารถอธิบายได้ แต่เธอจำได้ว่าเฉินโม่ยังไม่ตอบเธอ
"เฉินโม่ ทำไมนายถึงไม่สนใจคำพูดของครู"
"ถ้านายอยากสอบต่อ ก็ทำตัวว่าง่ายหน่อย ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!"
เฉินโม่มองหวางลี่ ยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า "ไม่จำเป็นแล้ว!"
พูดจบ เขาก้าวออกจากห้องเรียน ท่ามกลางความตกใจของครูทั้งสองคนและนักเรียนทั้งห้อง
การสอบสำคัญมาก แต่ในเมื่อเขากลับมาเกิดใหม่แล้ว ต่อไปการสอบเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือ ฟื้นฟูผลการฝึกตนให้เร็วที่สุด
ถ้าจำไม่ผิด จากความทรงจำของเขาในชาติที่แล้ว พรุ่งนี้เขาจะตามแม่ไปร่วมงานศพของยายที่ยานจิง
ถึงงานศพนี้จะผ่านไปแล้วหกร้อยปี แต่เฉินโม่ยังจำได้ดี เพราะในงานศพครั้งนี้ เขาเจอการเล่นงานครั้งใหญ่ที่สุดในชาติที่แล้ว และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาฮึกเหิมใฝ่หาความก้าวหน้าอีกด้วย
มองเฉินโม่เดินออกไปอย่างสง่างาม หวางลี่โมโหฟึดฟัด "สอนแล้วไม่จำจริงๆ!"
อานเข่อเยว่ส่ายหน้าเบาๆ ความผิดหวังในแววตามีมากขึ้นอีก
เจิ้งหยวนฮ่าวมีสีหน้าดูหมิ่น กำจัดเฉินโม่ออกจากการเป็นคู่แข่งของเขาแล้ว คนที่ยอมทิ้งแม้กระทั่งการสอบ ไม่เหมาะสมที่จะเป็นคู่แข่งของคนอย่างเจิ้งหยวนฮ่าว