3
Chapter 3
“เราไม่เคยโฆษณาให้มาเล่นเสียหน่อย มันมาเล่นของมันเอง ช่วยไม่ได้” เขายักไหล่ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าตลาด เริ่มเก็บค่าแผงขายของที่ตลาด
“ถ้าเราไม่เปิดจะมีคนมาเล่นไหม” เธอยังเถียงไม่ลดลด อยากเถียงให้ชนะเขานี่แหละ
“เราไม่เปิดคนอื่นก็เปิด” เขาตอบคนที่เดินตามมาติดๆ ก่อนจะยื่นมือไปรับเงินจากแม่ค้า ตลาดที่นี่เปิดขายทุกวัน ทำเลดีมากเพราะอยู่ใกล้โรงพยาบาล โรงเรียนและศูนย์ราชการ สินค้าจึงขายดี จึงทำให้มีรายได้ทุกวัน บางวันก็ให้ลูกน้องมาเก็บ แต่ถ้าวันไหนเขาว่างก็จะมาเก็บเอง
“คนอื่นทำไม่ดีเราก็ไม่เห็นต้องไปทำตาม”
“ได้ข่าวว่าอยากทำนมให้เท่าลูกมะพร้าวไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่เอาเงินพวกนี้ทำ แล้วจะเอาเงินที่ไหนทำ เราน่ะไม่ต้องไปอิจฉาคนอื่นเขาหรอก เดี๋ยวเฮียให้เงินไปทำเอง อยากให้ใหญ่กว่าลูกมะพร้าวก็ได้” เขาพูดอย่างจริงจังจนน่าหมั่นไส้
“ที่ไหนกันเฮีย ใครจะไปทำนมน่าเกลียดเท่าลูกมะพร้าว” อัญชัญเหวใส่ เป็นเรื่องธรรมดาที่สองหนุ่มสาวจะเถียงกันคอเป็นเอ็นในทำนองนี้ แม่ค้าพ่อค้าแถวนี้จึงเห็นเป็นเรื่องชินตา แถมยังเอ็นดูเสียด้วยซ้ำ ที่ดินตรงนี้สมัยก่อนไม่ใช่ของแดนตะวัน เขาทุ่มเงินซื้อเพราะเห็นว่าทำเลดี ก่อนจะมาเปิดเป็นตลาด แต่ก่อนจะได้มาก็ต้องแย่งชิงกับศัตรูคู่แค้นเพราะอีกฝ่ายก็อยากได้ที่ดินตรงนี้เหมือนกัน
“อ้าว... จริงเหรอ ไม่เห็นรู้เลย ได้ยินมาว่าจะไปทำนม อย่างว่าละ นมแบนเหมือนไข่ดาว”
“บอกว่าไม่แบนเหมือนไข่ดาวยังไงเล่า” เธอกระทืบเท้าเร่าๆ ที่โดนสบประมาทว่านมแบนเหมือนไข่ดาว เขาหัวเราะลงลูกคอ มีความสุขที่ได้แกล้งยายเด็กแสบ
“มองตรงไหนก็แบน เห็นที่นูนก็มีอยู่อย่างเดียว”
“อะไรนูน” เธอถามกลับอย่างทันกัน
“พุงไง” เขาพูดแล้วยิ้มใส่ตา เธอเม้มปากสีหน้าโมโห
“เฮีย! เดี๋ยวได้อัญเป็นเมียจะไม่พูดแบบนี้” เธอพูดอย่างหมายมาด
“ใครจะไปเป็นผัวเธอยายเด็กบ๊อง” เขาหันมาจิ้มหน้าผากคนน่ารักแต่แสบเหลือร้าย ก่อนจะดึงเธอมากอดเอาไว้ เพื่อหลบรถเข็นผักที่กำลังจะชนเอา คนปากร้ายเอ่ยถามคนในอ้อมแขนเบาๆ ด้วยท่าทีเป็นห่วงเป็นใย
“เป็นยังไงบ้าง”
“เป็นห่วงอัญเหรอ” คนถามทำหน้าฟิน
“เปล่า กลัวรถเข็นผักเขาพัง ต้องชดใช้เขาอีก”
“เฮียน่ะ!” อัญชัญกระทืบเท้าอย่างโมโห คนตัวสูงเดินลิ่วๆ นำหน้าเธอไปเสียแล้ว
หลังจากเก็บค่าแผงขายของเสร็จ แดนตะวันก็ไปที่บ่อนของพี่ชาย อัญชัญตาวาวทันที เธออยากไปเล่นอยู่เหมือนกัน
ที่บ่อนมีไก่ชนแต่จะแยกไปอยู่อีกฝั่ง มีวัวชนอยู่ที่สนามวัวชนซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก ละแวกเดียวกันมีรับแทงบอลสารพัด แหล่งอบายมุขชั้นดีที่แดนตะวันต้องช่วยพี่ชายอย่างสุริยันต์ดูแล
“อัญจะเล่น” คนที่ตามมาถึงบ่อนหน้างอเมื่อโดนห้ามไม่ให้เล่น
“ไม่ได้!” แดนตะวันเสียงแข็ง
“ทำไม ทำไม ทำไมอัญเล่นไม่ได้”
ชายหนุ่มทำหน้ายุ่ง อัญชัญเล่นทีไรหมดตูดทุกที ตอนนี้เธอติดหนี้บ่อนมหาศาล ถ้าเล่นแล้วเอาเงินเข้าบ่อนเขาจะไม่ว่าอะไรสักคำ!
พี่ชายของเขาบ่นจนหูชา!
“เฮีย! อัญจะเล่น”
“หนี้เก่าจ่ายหรือยัง” เขาเดินหนี ยายเด็กแสบเดินตาม ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
“เงินของเฮียก็คือเงินของอัญนั่นแหละ”
“แล้วเงินของอัญล่ะ” เขาหันมาถาม ก่อนโบกมือให้ลูกน้องที่กำลังจะเดินตามออกไปก่อน
“เงินของอัญก็คือเงินของอัญค่ะ”
“บรรลัยละแบบนั้น ขัดส้วมสิบชาติยังไม่พอใช้หนี้เลย” เขานั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะตัวใหญ่ ก่อนจะมองออกไปด้านนอก ตรงนี้เขาสามารถเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน
“เฮีย!”
“รำคาญจริงโว้ย บอกว่าไม่ให้เล่น”
“เฮีย!”
“เคยได้ยินไหมการพนันมีความเสี่ยง โปรดตัดสินใจก่อนลงทุน”
“ไม่เคยได้ยิน”
“เล่นเสียหมดตูด กู้เงินไปอีก เสียให้คนอื่นแบบนี้เดี๋ยวก็เจ๊งหรอก เฮียยันต์บ่นหูชาแล้วนี่!” พี่ชายของเขาบ่นจนแทบเอาสำลีอุดหู
“แค่ไปแทงสูงต่ำก็ได้”
“บอกว่าไม่ให้เล่น ถ้าอยากเล่นนักไปขัดห้องน้ำเลยไป” เขาเดินหนีออกมาด้านนอก อัญชัญหน้างอ ก่อนจะค่อยๆ ย่องหนี แต่โดนดึงคอเสื้อเอาไว้จากทางด้านหลัง
“โอ๊ย! อะไรของเฮียนี่ ชอบทำรุนแรงกับผู้หญิงบอบบางอย่างอัญเรื่อยเลย” เธอหน้างอใส่
“อย่ามาเฉไฉ เงินค่าเช่าบ้านกับเงินค่าเช่าแผงอยู่ไหน ต้องเอาไปซื้อวัตถุดิบทำเหล้าเถื่อน อย่าอมๆ รีบเอาออกมาเร็วๆ” เขาพูดอย่างรู้ทัน
“เกลียดพวกรู้ทัน” เธอทำปากยื่นหน้างอ ก่อนจะเดินตามเขาต้อยๆ ไปชะโงกดูคนในบ่อนเล่นกัน
“เล่นได้แต่อย่าให้ผีพนันเข้าสิง นี่ยิ่งกว่าสิง” เขาสอน เธอทำเป็นหูทวนลม แต่เอาจริงๆ เธอไม่ค่อยเห็นเขาเล่นการพนัน นอกจากมีคนมาท้า และเล่นกันแบบจัดเต็ม แดนตะวันเล่นไพ่เก่งเป็นชีวิตจิตใจ ไม่เคยแพ้ใคร แต่เขาเล่นเพราะอยากเล่น ไม่ได้เล่นเพราะอยากได้เงิน เขารวยอยู่แล้ว ทรัพย์สมบัติมากมายทั้งที่ดิน ที่นาและบ้านเช่าหลายหลัง ขายเหล้า(เถื่อน)กลั่นก็มีเงินเข้าทุกวัน ไหนจะเงินค่าเช่าแผงขายของในตลาดอีก วันๆ หนึ่งแทบไม่หวาดไม่ไหว ยิ่งวันหวยออกไม่ว่าจะหวยไทยหวยเทศเขารับเละแทบจะทุกวัน
“ไม่เล่นก็ได้ ชิ!”
“นายน้อยครับมีคนโกง” ชิตพงศ์ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของแดนตะวันเข้ามารายงานเจ้านายหนุ่ม ลูกน้องของแดนตะวันจะสุภาพกับแดนตะวันมากๆ เพราะค่อนข้างเกรงกลัวบารมีของเจ้านาย เขายืนกุมมือและก้มหน้าให้เสมอเวลาพูดด้วย แดนตะวันรักลูกน้องมากแต่ถ้าคนไหนไม่ซื่อสัตย์หรือโกง เขาก็พร้อมที่จะจัดการแบบไม่ให้เหลือซาก
ร่างสูงของแดนตะวันสง่าผ่าเผย แววตาดุดัน ใบหน้ายามโกรธนั้นน่ากลัว เธอเองยังกลัวในบางครั้ง แต่ก็ทำใจดีสู้เสือเอาตัวรอดมาได้เสมอยามทำให้เขาอารมณ์ไม่ดี เพราะจริงๆ แล้วเธอรู้ว่าเขาใจดีกับเธอแค่ไหน
เวลาอยู่กับเธอเขามักยิ้มอยู่เสมอ...
“จัดการมันซะ” น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมของแดนตะวันทำให้อัญชัญลอบกลืนน้ำลายลงคอ เธอรู้นิสัยของเขาดี แดนตะวันพูดคำไหนคำนั้น บางครั้งเขาก็โหดเกินไป แต่เธอเคยได้ยินเขาพูดว่าหากไม่ทำอะไรเด็ดขาดก็จะไม่มีใครเกรงกลัว สุริยันต์พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของแดนตะวันโหดกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า
เสียงโอดโอยด้านหลังของบ่อนทำให้ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นักเล่นหน้าเก่าที่เข้ามาจะรู้ดี จึงไม่มีใครกล้าโกง แต่นักเล่นหน้าใหม่นั้นโดนมานักต่อนักแล้ว คนที่รู้กิตติศัพท์ไม่มีใครกล้าเลยสักคนเดียว
“เฮีย...” เสียงอ่อยที่เรียกอยู่ทางด้านหลังและดึงเสื้อของเขาอยู่ทำให้แดนตะวันหันไปมอง สายตาของเขาที่มองเด็กสาวนั้นอ่อนโยน แม้จะติดรำคาญไปบ้างก็ตามที
ลูกน้องทุกคนรู้ดีว่าอัญชัญคือผู้หญิงต้องห้าม ที่ห้ามแตะต้องแม้แต่ปลายก้อย แม้เจ้านายทั้งสองจะเถียงกันแทบเป็นแทบตาย แต่แดนตะวันนั้นทั้งรักทั้งหวงอัญชัญเป็นอันมาก จึงไม่มีใครกล้าแม้แต่จะมองอัญชัญด้วยสายตาแทะโลม
“อะไร”
“จะอยู่ดึกไหม”
“ง่วงแล้วเหรอ”
“อือ... ง่วง” คนง่วงหาวหวอดๆ เสียงคนในบ่อนดังอื้ออึงไปทั่ว คนที่ชนะหน้าบานยิ้มแฉ่ง คนที่แพ้ก็หงุดหงิดหน้าจ๋อย แต่เธอรู้ดีว่าผีพนันเข้าสิงยังไงก็หมดตัววันยังค่ำ ดีไม่ดีมาติดหนี้บ่อนอีก อยากได้ของอะไรที่บ่อนมีหมดเพราะคนพวกนี้เอามาจำนำแม้แต่หม้อหุงข้าว
“ง่วงก็นอน เฮียขออยู่ต่ออีกหน่อย” เขาบอกก่อนจะตบหน้าตัก คนง่วงนอนเดินไปนอนบนโซฟาที่เขานั่งอยู่ ก่อนจะหนุนตักอุ่นๆ นั้นทันที
แดนตะวันรู้สึกผิดปกติก็ตอนที่ยายตัวแสบซุกหน้าเข้ากับหน้าตักของเขาหนักขึ้น แถมมือ!