บท
ตั้งค่า

ตอนที่2(เจ้าหญิง อัยย์ญาดา)

14:30น.

คฤหาสน์ราชนาโยวงศ์ติชัย

เจ้าหญิง อัยย์ญาดา....

“ว้าวน่าตาน่าทานมากเลยค่ะคุณหนู^_^”ป้าพันเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงชื่นชม นั่นทำให้ฉันยิ้มกว้างขึ้นด้วยความดีใจ

“จริงเหรอคะ?”ฉันเอ่ยถามป้าพัน ป้าพันก็พยักหน้าเห็นด้วย

“งั้นน้องหญิงจัดไปเป็นของว่างให้คุณพ่อกับคุณแม่เลยดีไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามป้าพันไปอย่างขอความคิดเห็น

“ดีค่ะ ใกล้ได้เวลาทานของว่างของคุณท่านทั้งสองแล้ว^_^”ป้าพันเอ่ยบอกฉัน ฉันก็พยักหน้าเข้าใจและรีบหันไปหยิบจานน่ารักๆมาใส่ลูกชุปสีสวยและหลากหลายรูปแบบที่ฉันเป็นคนทำเองกับมือ เพราะเมื่อหลายวันก่อน คุณแม่ได้ทำขนมลูกชุปอันนี้เอาไปทำบุญและฉันเห็นว่าพระสงฆ์ท่านชอบฉัตรมาก ฉันเลยขอให้คุณแม่ช่วยสอนฉัน

“เก่งเหมือนคุณหญิงไม่มีผิดเพี้ยนเลยนะคะคุณหนู^_^”ป้าพันเอ่ยชมฉัน ฉันก็หันไปยิ้มให้ท่านและหันกลับมาตั้งอกตั้งใจจัดถาดขนมให้ดูสวยงามและน่าทาน

“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ^-^”ฉันเอ่ยขึ้นพลางย่ืนชื่นชมลูกชุปฝีมือของฉันเอง

“ยกไปเลยดีไหมคะ?”

“ดีค่ะ^_^”ฉันตอบป้าพันไปอย่างเห็นด้วยและท่านก็ช่วยยกถาดขนมออกมาไปจัดไว้ยังศาลาที่อยู่ที่สวนข้างบ้านของฉันที่ตรงนั้นร่มเย็นและบ่อนำ้ใสสะอาดมีฝูงปลาสวยงามพากันแหวกว่ายอยู่ในนำ้กันอย่างมีความสุข ฉันชอบไปนั่งตรงนั่งเป็นประจำเลย

“โรงเรียนเปิดพรุ่งนี้แล้วสินะคะคุณหนู?”ป้าพันเอ่ยถามฉันขึ้นในขณะที่ท่านช่วยฉันจัดโต๊ะของว่างให้คุณพ่อกับคุณแม่ทาน

“ใช่ค่ะ^_^”ฉันตอบป้าพันไป

“เหงาแย่เลยนะคะคุณหนูไม่อยู่”ป้าพันพูดขึ้น ฉันจึงละสายตาจากแก้วนำ้ที่รินนำ้ใส่ไว้เต็มแก้วแล้วไปมองหน้าท่าน

“เหงาอะไรละคะน้องหญิงไปเรียนแค่ไม่กี่ชั้วโมงเอง ตอนเย็นน้องหญิงก็จะกลับมาช่วยป้าพันทำอาหารเย็นเหมือนเช่นทุกวันนะคะ^_^”ฉันเอ่ยบอกป้าพันไปพลางยื่นแขนเข้าไปกอดแขนท่านและซบศีรษะลงไปบนไหล่ของท่านอย่างออดอ้อน

“คุณหนูของป้า”ป้าพันเอ่ยขึ้นและจับมือฉันไปกุมไว้ ฉันรักป้าพันและเคารพท่านมากเพราะที่เป็นคนที่ช่วยคุณแม่ของฉันเลี้ยงฉันมา

“เจ้าหญิงคะ^_^”เสียงหวานๆของคุณแม่เวียงพิงค์เอ่ยเรียกฉันมาแต่ไกล ฉันจึงค่อยๆหันไปมองท่านก็พบกับคุณแม่และข้างกายมีคุณพ่อที่เดินโอบเอวคุณแม่ของฉันเข้ามาที่ศาลาหลังเล็กนี้

“คุณแม่ขาคุณพ่อขา^_^”ฉันเอ่ยเรียกพวกท่านไปและออกไปยืนรอรับท่านทั้งสอง

“วันนี้ทำอะไรให้พ่อทานครับคนสวย^_^”คุณพ่อเจ้าสัวเอ่ยขึ้นพลางยื่นมือมาลูบศีรษะของฉันและยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น

“ลูกชุปค่ะ^_^”ฉันตอบคุณพ่อไปพลางเข้าไปยืนตรงกลางระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ของฉันและกอดแขนท่านทั้งสองให้เดินเข้าไปในศาลาเพื่อจะได้ชื่นชมกับลูกชุปที่ฉันทำ

“ว้าวน่าตาน่าทานมากคะเจ้าหญิง^_^”คุณแม่เอ่ยขึ้นพลางหันมามองฉัน ฉันก็ยิ้มกว้างให้ท่าน

“ใช่เลยไหนพ่อขอลองทานนะ?”คุณพ่อเอ่ยบอกฉัน ฉันก็รีบพยักหน้าหงึกๆให้ท่าน

“ทานแล้วนะครับ^_^”คุณพ่อหยิบไม้จิ้มจิ้มไปที่ลูกชุปรูปผลไม้ส้มสีส้มสดใสที่ฉันปั้นเองกับมือและลงสีเองกับมือด้วยเช่นกัน คุณพ่อหันมายิ้มให้ฉันและยื่นลูกชุดเข้าไปในปากของท่านและท่านก็เบิกตาโตขึ้น ฉันเองก็ยกมือขึ้นมากุมไว้ตรงหน้าอกเพื่อรอลุ้นคำตอบของคะณพ่อโดยมีคุณแม่ลูบศีรษะฉันเพื่อให้กำลังใจ

“เป็นอย่างไรบ้างคะคุณพ่อ?”ฉันเอ่ยถาทคุณพ่อไปด้วยนำ้เสียงลุ้นๆท่านก็เหลืิบตาชำเลืองไปมองคุณแม่ของฉันที่นั่งอยู่ข้างหลังฉันและท่านทั้งสองก็หันกลับมามองหน้าฉันและยิ้มให้ฉัน

“อร่อยมากครับลูกสาวอร่อยไม่มีที่ติเลย^_^”คุณพ่อเอ่ยชมฉันพลางยื่นมือมาลูบศีรษะของฉันอย่างเอ็นดู

“เดี๋ยวคุณแม่ขอลองชิมบ้างนะคะ?”คุณแม่ของฉันเอ่ยขึ้นบ้าง ฉันก็หันไปมองหน้าท่าน

“ได้เลยค่ะคุณแม่^_^”ฉันพยักหน้าตอบคุณแม่ไปและท่านก็ยื่นมือไปจิ้มลูกชุปรูปองุ่นสีม่วงสวยใสที่ฉันเป็นคนปั้นเองกับมือขึ้นมาเข้าปากและเคี้ยวอย่างนุ่มนวล ฉันก็หันไปมองหน้าคุณพ่อที่ท่านเองก็มองคะณแม่ของฉันด้วยสีหน้าลุ้นๆเหมือนกันกับฉัน เพราะคุณแม่ของฉันท่านทำอาหารและขนมเก่งมากค่ะ

“ทำไมทำหน้าแบบนั่นละคะ?”คุณแม่เอ่ยถามฉันทันทีหลังจากที่ท่านเคี้ยวลูกชุปหมดท่านก็ยื่นมือมาเกี่ยแก้มนวลของฉันอย่างนุ่มนวล

“ก็เจ้าหญิงลุ้นมากหนิคะคุณแม่”

“กลัวแม่บอกไม่อร่อยเหรอจ๊ะ?”คุณแม่เอ่ยถามฉัรอย่างยิ้มๆนั่นยิ่งทำให้ฉันเริ่มเบะปากจะร้องแล้ว

“โอ๋ๆลูกจ๋าขนมของลูกอร่อยมากจ๊ะ^_^”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางหยิกแก้มฉันเบาๆ นั่นยิ่งทำให้ฉันยิ้มกว้างขึ้นอย่างดีใจและหันไปกอดคุณพ่อ

“น้องหญิงสอบผ่านแล้วค่ะคุณพ่อ^_^”

“ดีใจด้วยจ๊ะลูก”คุณพ่อบอกฉันพลางยื่นแขนหนาของท่านมาโอบไหล่ของฉัน ฉันก็ซบศีรษะลงไปบนไหล่กว้างของคุณพ่อ

“งั้นทีนี้น้องหญิงก็สามารถทำขนมไปให้คุณย่าทานได้แล้วใช่ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณแม่ที่มัวแต่จิ้มลูกชุดของชิ้นแล้วชิ้นเล่า

“ใช่จ๊ะเจ้าหญิง^_^”คุณแม่หันมาตอบฉัน ฉันก็ยิ้มให้ท่านและเราสามคนก็นั่งทานขนมลูกชุปและนำ้มะนาวที่ฉันเป็นคนคั้นเองและปั้นเองกับมือ เราสามคนนั่งคุยเล่นกันไปมาและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ฉันเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงดูฉันอย่างกับเจ้าหญิงเหมือนชื่อของฉัน ฉันรักและเคารพท่านทั้งสองมาก

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจ้าหญิง อัยย์ญาดา ราชนาโยวงศ์ติชัย อายุ18ปีค่ะ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายโรงเรียนนานาชาติQ ฉันเป็นลูกคนสุดท้องน้องคนสุดท้ายค่ะคริๆที่จริงคุณแม่กับคุณพ่อมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชาย นาย อัธพัตฒ์ ราชนาโยวงศ์ติชัยอายุ20ปี พี่ชายของฉันอายุมากกว่าฉันสองปีค่ะ และตอนนี้เขาก็เรียนมหาลัยแล้ว มหาลัยของคุณพ่อฉันนะคะอยู่ปีสองคณะแพทยศาสตร์ พี่ชายฉันอยากเป็นคุณหมอเหมือนคุณแม่ของฉัน คุณแม่ของฉันท่านเองก็เป็นคุณหมอประจำการอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนJS หรือโรงพยาบาลของคุณพ่อของฉันนั่นเองแหละค่ะ ส่วนตัวของฉัน ฉันตั้งใจจะเรียนคณะบริหารธุรกิจค่ะ เพราะฉันเป็นคนกลัวเลือดมากเห็นเลือดไม่ได้เลย เห็นแล้วมือไม้อ่อนจะเป็นลมค่ะ ฉันก็เลยเลือกที่จะเรียนคณะบริหารธุรกิจเพื่อเอามาช่วยคุณพ่อบริหารธุรกิจของคุณพ่อ

วันต่อมา

คฤหาสน์ราชนาโยวงศ์ติชัย

7:00น.

“เจ้าหญิงครับ”เสียงนุ่มละมุนของพี่ชายเอ่ยเรียกฉันขึ้นจากทางข้างหลัง ฉันที่กำลังนั่งทานข้าวต้มอยู่ต้องละสายตาจากชามข้าวต้มไปมองเขา พี่ชายสวมเสื้อนิสิตสีขาวสะอาดตาผูกเนคไทสีดำอย่่ทงเรียบร้อยตามด้วยกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำรัดรูปทำให้พี่ชายของฉันดูดีขึ้นมาเป็นกอง จากปกติเขาก็หล่ออยู่แล้วยิ่งทำให้เขาดูดีขึ้นมากไปอีก

“ขาพี่ชาย^_^”ฉันขานรับพี่ชาย พี่ชายเดินยิ้มร่าเริงเข้ามาหาฉันและนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆฉัน

“พี่ดีใจจังที่จะได้ไปรับไปส่งน้องอีก^_^”พี่ชายเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงดีใจและยื่นมือมาลูบผมฉันอย่างเอ็นดู ฉันก็ยิ้มและไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าก้มตาเพื่อทานข้าวต้มต่อ เพราะฉันจะต้องไปโรงเรียนวันนี้โรงเรียนของฉันเพิ่งจะเปิดเทอมเป็นวันแรกหลังจากที่หยุดช่วงซัมเมอร์ไป ที่พี่ชายบอกว่าพี่ดีใจที่จะได้ไปส่งฉันที่โรงเรียนอีกครั้งก็คือเมื่อปลายเดือนก่อนพี่ชายพาฉันขับรถสปอร์ตด้วยความเร็วเกินทำให้โดนตำรวจเรียกหาผู้ปกครอง คุณแม่ตกใจและเป็นห่วงฉันมาก ท่านจึงไม่อนุญาตให้พี่ชายไปรับไปส่งฉันไปโรงเรียนอีกเป็นอันขาด แต่พี่ชายไปอ้อนวอนขอร้องคุณแม่ท่าไหนไม่รู้ท่านถึงอนุญาตให้ไปรับไปส่งฉันได้เหมือนเดิม

“น้องหญิงของพี่ยิ่งโตยิ่งน่ารัก พี่ชักจะอยากให้คุณพ่อย้ายน้องกลับไปเรียนโรงเรียนหญิงล้วนอีกซะแล้วสิ”พี่ชายแขนขึ้นมากอดอกพลางเอ่ยบอกฉัน ฉันก็ขมวดคิ้วงุนงงใส่เขา

“ไม่เอานะคะพี่ชาย น้องหญิงไม่อยากห่างจากคุณพ่อคุณแม่อีกแล้ว”ฉันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงอแงเพราะโรงเรียนประจำที่คุณพ่อกับพี่ชายส่งฉันไปอยู่มันอยู่ต่างจังหวัดถึงโรงเรียนนั่นไม่มีผู้ชายกเลยสักคนแม้กระทั่งภารโรงยังเป็นผู้หญิงเลย ฉันร้องไห้คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกวันและดูเหมือนคุณพ่อกับคุณแม่และพี่ชายเองก็คิดถึงฉันพวกท่านจึงไปรับฉันกลับ ทำให้ฉันเรียนโรงเรียนนั่นได้แค่มัธยมต้นแค่นั่นเอง

“ได้เวลาแล้วค่ะเจ้าหญิง”เสียงคุณแม่เอ่ยขัดสนทนาของฉันกับพี่ชาย

“ค่ะคุณแม่”ฉันเอ่ยขึ้นและลุกขึ้นยืนและกำลังจะเก็บชามข้าวต้มแต่ก็โดนป้าพันห้ามไว้ซะก่อน

“แหะๆๆน้องหญิงลืมค่ะ^_^”ฉันหันไปบอกป้าพันและยกมือขึ้นไหว้ท่าน

“สวัสดีนะคะป้าพันน้องหญิงไปโรงเรียนก่อนนะคะ^_^”

“ค่ะคุณหนู^_^”

“ไปครับน้องหญิง^_^”

“ค่ะพี่ชาย^\^”

“กระโปรงสั้นไปรึป่าวลูก?”ทันทีที่ฉันกับพี่ชายเดินออกมาถึงหน้าบ้านก็พบกับคุณแม่และคุณพ่อที่มายืนรอส่งเราทั้งสองคนไปโรงเรียน ฉันก็ก้มมองสำรวจกระโปรงของฉันทีาเป็นเครื่องแบบยูนิฟอร์มของโรงเรียนนานาชาติที่ฉันเรียน เสื้อนักเรียนสีขาวแขนยาวผูกโบว์ลายสก๊อตกับกระโปรงลายสก๊อตเหมือนกันและมีเสื้อสูทของโรงเรียนสีชมพูสวมทับอีกทีแต่ตอนนี้อยู่ที่พี่ขายของฉัน เขาเป็นคนอาสาถือออกมาให้ฉัน

“ไม่หนิคะคุณพ่อ สงสัยเจ้าหญิงสูงขึ้นมั่งคะ”ฉันตอบคุณพ่อไป

“แล้วเสื้อละลูก เสื้อรัดไปรึป่าว?”คุณพ่อยืนกอดอกพิจารณาชุดเครื่องแบบนักเรียนของฉัน

“หนูผิงว่าไม่นะคะท่านเพราะชุดของลูกก็เป็นแบบนี้ทุกปีและท่านเองก็ถามแบบนี้ทุกปี”คุณแม่หันไปเอ่ยบอกคุณพ่อทำให้คุณพ่อของฉันรีบหันไปมองคุณแม่ทันที

“แต่ปีนี้ลูกเป็นสาวแล้วนะหนูผิง”คุณพ่อเอ่ยขึ้น ทำให้คุณแม่บกมือขึ้นมาปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก

“ลูกก็เป็นสาวขึ้นทุกปีนั่นแหละคะท่าน”คุณแม่เอ่ยบอกคุณพ่อ คุณพ่อก็หน้างอใส่คุณแม่ ฉันจึงหันไปมองพี่ชายที่ตอนนี้เขาก็มองฉันเช่นกัน

“พี่ว่าสั้นไปจริงๆนั่นแหละน้องหญิง เอาอย่างนี้ครับคุณพ่อคุณแม่เดี๋ยววันนี้หลังเลิกเรียนผมไปรับน้องและจะพาน้องไปซื้อเครื่องแบบที่ไม่รัดกุมแบบนี้ครับ!”พี่ขายเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงมั่นใจ ฉันจึงพูดอะไรไม่ได้นอกจากทำตาปริบๆมองคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายที่พากันพิจารณาเสื้อผ้าของฉัน

“เอาแบบนั้นก็ได้ตามชายเลย แต่พ่อขอให้ยาวถึงตาตุ่มน้องไปเลยได้ก็ยิ่งดี”คุณพ่อเอ่ยบอกพี่ชาย นั่นทำให้ฉันหันไปมองคุณแม่ด้วยความตกใจ ที่โรงเรียนของฉันกระโปรงนักเรียนของฉันยาวกว่าเพื่อนแล้วน่ะ

“โอเคครับคุณพ่อ!”พี่ชายเอ่ยขึ้นและเขาก็ก้มหน้ามองนาฬิกาที่ข้อมือของเขา

“ใกล้ได้เวลาแล้วครับน้องหญิง”พี่ชายหันมาบอกฉันฉันก็พยักหน้าเข้าใจและเดินเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่และกอดท่านทั้งสอง

“ตั้งใจเรียนนะลูกรัก”คุณแม่เอ่ยบอกฉัน ฉันก็ยกมือขึ้นไหว้สวัสดีคุณแม่

“ค่ะ สวัสดีค่ะคุณแม่สวัสดีค่ะคุณพ่อ”ฉันยกมือไหว้สวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่

“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”พี่ชายเองก็ยกมือไหว้ท่านทั้งสองเช่นกัน

“ขับรถดีๆนะลูก”คุณแม่เอ่ยกำชับพี่ชาย พี่ชายก็ยกมือขึ้นมาทำท่าตะเบ๊ะ

“รับทราบครับคุณหญิงแม่!”พี่ชายเอ่ยขึ้นเสียงดังและหนักแน่นทำให้คุณแม่ยิ้มขำ

“โชคดีลูกทั้งสอง”คุณพ่อเอ่ยขึ้นบ้าง ฉันก็ยิ้มให้ท่านและพยักหน้าให้ท่านเช่นกัน

“น้องหญิงไปก่อนนะคะ”ฉันเอ่ยบอกคุณแม่และโบกมือบ๊ายบายท่าน

“จ้าลูก^_^”คุณแม่ก็ยกมือขึ้นมาบ๊ายบายฉัน ฉันเดินขึ้นรถสปอร์ตราคาเหยียบสิบล้านบาทสีนำ้เงินแดงของพี่ชายโดยที่ทีพี่ขายของฉันเป็นคนเปิดประตูให้

“คาดเบลท์ด้วยครับเจ้าหญิง”พี่ชายหันมาบอกฉัน ฉันจึงมองหน้าพี่ชายอย่างกล้าๆกลัวๆ

“ไหนพี่ชายบอกว่าจะไม่ขับเร็วยังไงละคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่ชายไปและก็เอื้อมมือไปจับสายเบลท์มาคาดรัดตัวให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย พี่ชายหันมายิ้มให้ฉัน

“ไม่เร็วครับพี่สัญญา^-^”พี่ชายเอ่ยบอกฉันและเขาก็ค่อยๆขับรถออกมาจากบ้านคุณพ่ออย่างช้าๆตามที่เขาพูด แต่พอพ้นรั้วบ้านคุณพ่อพ้นสายตาคุณแม่เท่านั้นแหละ

“กรี๊ดดดดดดดดพี่ชายยยยยยย”ฉันกรี๊ดร้องด้วยความกลัวเมื่อพี่ชายเหยียบคันเร่งมิดและใส่เกียร์อย่างแรงเหมือนในหนังเดอะฟาสยังไงยังงั้น แต่นี้มันคือชีวิตจริงน่ะพี่ชายไม่ใช่ในหนัง น้องหญิงจะตายไหมคะ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel