บทที่ 8 สนองให้สักคืน
00:59 น
“อื้ออ~ รถจอดไว้ตรงหนายยน้า”
เท้าเรียวเดินโซซัดโซเซอยู่ตามลานจอดรถพร้อมกับกุณแจรถหรูในมือ แล้วทำไมหัวเธอถึงได้มึนตึบขนาดนี้กันนะ มองไปทางไหนก็เหมือนโลกมันหมุนตามไปหมด ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ไปยืนยันหนักแน่นกับเพื่อนว่ากลับเองได้ แล้วให้เพื่อนไปต่อกับหนุ่มหล่อในผับ ก็เธอมันนักซัพพอร์ตเพื่อนนี่นา
“คันนี้รึเปล้าว้า หรือว่าคันน้าน~”
ร่างเล็กโซเซไปเรื่อย สองพวงแก้มนวลแดงระเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่กระดกเข้าคอไม่รู้กี่แก้วต่อกี่แก้ว
“อื้ออ ทำมายมันเปิดม่ายออกว้า!”
มือเล็กพยายามดันประตูตรงหน้าเปิดออกด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่ก็ไม่สำเร็จ จนเธอต้องหน้ามุ่ยหงุดหงิดอยู่คนเดียว ก่อนเสียงของคนมาใหม่ที่ฟังดูจะเมาไม่ต่างจากเธอดังขึ้นมาไกล้ๆ
“เฮ้ย ทำไรกับรถผมครับคนสวย หรือว่าอยากกลับด้วยกัน หึๆ”
เธอรีบหันมองตามเสียง ก็พบกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่ยืนทำหน้าทำตาหื่นใส่เธออยู่ ไม่พอยังทำท่าจะกระโจนเข้ามาหาเธอ จนร่างเล็กที่ยืนประคองตัวตรงยังไม่ได้ เกือบจะเซล้มหงายหลัง ทว่าไม่ทันที่จะล้มลงก็มีมือหนาของใครบางคนเข้ามารับร่างเธอเข้าไปแนบกับตัวเองไว้อย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“อ่ะ ค่าที่คนของกูไปแตะรถมึง ได้แล้วก็ไสหัวไปซะ”
เสียงทุ้มดุดันของร่างสูงที่กอดเอวเธอไว้แน่นเปร่งขึ้นอย่างเด็ดขาด พร้อมกับเงินปึกใหญ่ปลิวผ่านหน้าเธอโยนไปให้ผู้ชายตรงหน้า
“เหอะ ถือว่าเงินมันเยอะพอหรอกนะ!”
แล้วดูเหมือนชายตรงหน้านั้นก็จะร้อนเงินใช่เล่น เมื่อเงินปลิวไปหา เขาก็รับมันแล้วยอมไสหัวออกไปตามที่อีกคนสั่งทันที
“หึ เมาไม่เป็นท่าขนาดนี้ยังจะทำซ่า”
“อื้ออ ปล่อยนะ!”
ร่างเล็กดิ้นพล่านจะออกจากพันธนาการของคนร่างกำยำที่โอบเธอไว้แน่นจนอึดอัด ทว่าแทนที่เขาจะยอมปล่อย กลับยิ่งรัดเธอแน่นกว่าเดิมอย่างถือวิสาสะ
“ยืนตรงยังทำไม่ได้ก็เงียบปากแล้วอยู่นิ่งๆไป!”
เขาเอ็ดเธอเสียงดุแต่ดูเหมือนคำพูดเขาจะไม่ได้เข้าไปในหูของคนเมาสักนิด เมื่อเธอยังคงดื้อดึงที่จะดิ้นพล่านออกจากอ้อมกอดเขาอยู่นั่น จนมาเฟียหนุ่มต้องตัดความรำคาญโดยการเปลี่ยนมายกร่างเล็กขึ้นพาดบ่า
“ว้ายย!!”
ไม่ปล่อยให้เธอได้โวยวายต่อ เท้ายาวก็พาเธอเดินดุ่มๆไปยันรถตัวเองทันที
“ว้ายย เบาๆเส้ หัวฉันปลิว”
ร่างเล็กบ่นอุบอยู่ด้านหลัง ก็เขาเล่นพาดเธอลงบนไหล่แบบนั้นจนหัวเธอแกว่งไปมาอยู่ข้างหลัง คนยิ่งอยากอ้วกอยู่ วุ้ย!
ฟึ่บ!
“นั่งนิ่งๆ”
พอเขายัดเธอใส่เบาะหน้ารถเสร็จก็ทำการคาดเข็มขัดนิรภัยให้ แต่ที่เธอไม่เข้าใจคือทำไมต้องสั่งเสียงดุด้วย บอกดีๆไม่เป็นรึไงกัน หน้าตาก็ออกจะหล่อ แต่กลับทำนิสัยหยาบกระด้างเลวทรามเหมือนแฟนเก่าเธอไม่มีผิด เธอคิดแบบนั้น
“อื้อ ไปคอนโดxxx นะคะ”
เธอบ่นออกมาเสียงอู้อี้ในขณะที่รถคันหรูกำลังเคลื่อนไปตามท้องถนนยามดึกของเมืองหลวงอิตาลี
“หึ คิดว่าฉันเป็นคนขับรถเธอหรือไงยัยบื้อ”
เขาพึมพำออกมาอย่างเหลืออด แล้วดูการแต่งตัวที่แทบจะโชว์ทุกส่วนเว้าโค้งที่มีนั่น มันช่างชักจูงไปในทางเรื่องบนเตียงได้ดีจริงๆ
“ทำมายหน้าคุณดูคุ้นๆ~”
อยู่ๆเธอก็เหมือนละเมอ หันมามองเขาด้วยสีหน้าหวานเยิ้มจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ แม่งแค่สายตาก็โครตยั่วละ…
“คุ้นสิ เพราะฉันกำลังจะเป็นผัวเธอในอีกไม่กี่นาทีนี้ไงล่ะ”
เสียงทุ้มเอ่ยตอบเธออย่างภาคภูมิใจ ในขณะที่แววตาคมยังคงจดจ่ออยู่กับหนทางด้านหน้าที่เขากำลังจะพาเธอไป
“ก็แล้วปาย~ ฉ้านก็นึกว่าผัวเก่า”
ก็ในความคิดเธอตอนนี้หน้าเขาช่างดูเหมือนผู้ชายคนนั้น แต่เขาบอกว่ากำลังจะเป็นผัวในคืนนี้ ไม่ใช่ผัวเก่าก็แล้วไป เพราะเตียงเดียวที่เธอจะไม่ยอมขึ้นคือเตียงของผัวเก่า!
“หือ?”
เขาถึงกับหันหน้ามามองเธอแว็บหนึ่งด้วยหัวคิ้วขมวดยุ่ง นี่เธอเมาจนเผลอเอาเขาไปเทียบกับแฟนเก่าตัวเองเลยอย่างนั้นเหรอ เหอะ แล้วเดี๋ยวจะได้รู้ว่าเขามันทั้งแซ่บทั้งใหญ่กว่าผัวเก่าเธอขนาดไหน จะเอาให้ไม่มีหน้าเอาผู้ชายต้อยๆคนไหนมาเปรียบเทียบกับเขาได้อีกเลยคอยดู
.
.
.
“บ้านนี้มัน…”
เมื่อก้าวเท้าลงรถ แววตาคู่สวยก็ทอดมองไปยันเพ้นท์เฮ้าส์ตรงหน้า คิ้วบางก็พลันขมวดยุ่งอย่างคุ้นเคย ทำไมบ้านมันถึงได้เหมือนกันเป๊ะกับสิ่งที่มีอยู่ในความทรงจำเธอขนาดนี้
“ทำไม ใหญ่ไปเหรอ”
ร่างสูงที่เดินตามมาหยุดยืนประกบอยู่ด้านหลังเธอด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ เธอคงจะยืนอึ้งอยู่เพราะบ้านเขามันทั้งใหญ่และหรูสินะ แหงสินี่มันเพ้นท์เฮ้าส์ที่เขาออกแบบเองกับมือ
ทว่าในหัวของคนตัวเล็กตอนนี้มันสวนทางกับความคิดเขาอย่างสิ้นเชิง ร่างเล็กที่ยืนนิ่งเหมือนชะงักไปชั่วครู่หลังจากที่ได้ยินเสียงเขาไกล้ๆ ก่อนเธอจะรีบหันควับไปมองเขา สติที่กระเจิงเมื่อครู่เหมือนจะกลับเข้ามาทันที เมื่อสายตาสบเข้ากับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าชัดๆ
“คุณ!!”
ทำไมถึงกลายเป็นอิตานี่อีกแล้ว? นี่เธอปล่อยตัวเองเมาจนเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ ถึงได้ยอมนั่งนิ่งๆมากับเขาจนถึงเพ้นท์เฮ้าส์ที่ไกลกับผับเป็นชั่วโมงน่ะ!
“ทำไม!?”
ร่างโปร่งขยับเข้ามาชิดเธออย่างไม่กลบเกลื่อนเจตนา แถมยังทำหน้าทำตาเหมือนภูมิใจนักหนา แทนที่จะแสดงความรู้สึกผิดออกมาบ้าง แต่เขากลับทำเหมือนในหัวไม่เคยแม้แต่จะนึกคิดถึงเรื่องที่ตัวเองกระทำต่อเธอไว้เลยสักนิด
มันหมายความว่ายังไงกับการที่พาเธอกลับมายันเพ้นท์เฮ้าส์หลังนี้?
สถานที่ๆเต็มไปด้วยความทรงจำในอดีต ที่เขาและเธอใช้เวลาพลอดรักอยู่ด้วยกันมานานนับสามปีเต็ม ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลงไม่เป็นท่า ด้วยนํ้ามือของเขาเอง
แล้วตอนนี้เขากลับพาเธอมาเหยียบที่นี่อีกครั้ง ด้วยจุดประสงค์อะไร เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด เพื่อที่จะตอกยํ้าเธออย่างนั้นเหรอ? หรือเพื่อที่จะพามารำลึกความหลัง แล้วหลังจากนั้นก็ทำกับเธอเหมือนเดิมอีก?
“มันหมายความว่ายังไง”
เธอถามเขาออกไปด้วยแววตาไม่เข้าใจปนความเจ็บลึก ไม่รู้เพราะยังเมาไม่สร่างเต็มที่ หรือเพราะอะไรที่เธอต้องรู้สึกปวดหน่วงขึ้นมาในอกดื้อๆ ทั้งที่คนตรงหน้าเธอนั้นไม่แม้แต่จะฉายแววรู้สึกอะไรเหมือนเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“อะไร?”
“พาฉันมาที่นี่ทำไม”
“หึ ที่ถามนี่ไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งโง่?”
คำพูดเขามันเสียดเข้ากลางอกจนจุก เธอคงจะโง่จริงๆนั่นแหละ ที่ครั้งหนึ่งเคยตกหลุมรักผู้ชายคนนี้หัวปักหัวปำ รักจนไม่เผื่อใจสักนิด รักเขายิ่งกว่าชีวิตเสียอีก แถมยังไม่เคยดูออกเลยว่าสิ่งที่เขาทำให้เธอมันหลอกลวงทั้งหมด จนมาถึงวันนี้ เขายังทำตัวไม่รู้สึกรู้สาอยู่เลย กลับกันกับเธอที่เหมือนจะยังโง่ไม่หายสักที
“หึ ถ้าคุณอยากจะเอาฉันจนทนไม่ไหวถึงขั้นต้องฉวยโอกาสแบกกลับมาเพ้นท์เฮ้าส์ด้วยขนาดนั้น เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา งั้นฉันจะช่วยสนองให้คุณสักคืนก็ได้”
