EP 9 : ถูกหลอก!
EP 9
...“ของขวัญ”...
ฉันกลับมาที่บ้าน พร้อมกับคุณแม่คนใหม่ของฉัน ตลอดระยะทางที่นั่งรถกลับมาฉันไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ร้องไห้ ฉันเห็นคุณพ่อร้องไห้ ฉันยิ่งเจ็บแต่ฉันไม่อยากกลับไปในตอนนี้จริงๆ ฉันยังยอมรับในสิ่งที่คุณพ่อทำกับฉันไม่ได้ ในเหตุการณ์วันนั้นทุกภาพความทรงจำยังคงอยู่ ท่านไม่เคยฟังฉันเลยนอกจากน้องสาวของฉัน ก็ให้เขาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ฉันเป็นตัวภาระของครอบครัวฉันต้องเดินออกมา
“ของขวัญตัดสินใจถูกแล้วแหละลูก”คุณแม่ลูบหัวของฉันเบาๆ ก่อนที่จะยื่นกระดาษทิชชูให้กับฉันได้เช็ดน้ำตา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณแม่ถึงรักและเอ็นดูฉันทั้งๆที่เพิ่งรู้จักฉันได้แค่ไม่นาน
“ค่ะของขวัญจะไม่กลับไป”
“แต่แม่เชื่อว่าไม่นานครอบครัวของขวัญจะต้องตามหาขวัญเจอแน่ๆ”
“ต่อให้เจอขวัญก็ไม่กลับไปหรอกค่ะ”
“ของขวัญอยากไปอยู่ไกลๆไปพักผ่อนในที่สบายๆไหมลูก”จู่ๆคุณแม่คนใหม่ของฉันมองหน้าของฉัน และก็ถามพูดถึงเรื่องพักผ่อนฉันก็อยากไปนะ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน
“พักผ่อนในที่สบายๆที่ไหนหรอคะ คุณแม่”
“แม่มีบ้านพักต่างอากาศอยู่กลางเกาะสวยมากๆเลยนะลูก ผู้คนเงียบสงบมีแต่คลื่นทะเลน้ำสีฟ้า”ฉันต้องเบิกตากว้างขึ้นมาทันทีพอพูดถึงทะเลฉันอยากไปมากๆ
“คุณแม่จะพาขวัญไปพักผ่อนจริงๆหรอคะ”
“แน่นอนจ๊ะ”คุณแม่มองที่แขนของฉันก่อนที่จะใช้นิ้วชี้รูปตามผิวกายของฉันเบาๆ
“ทำไมคุณแม่ถึงชอบจับรูปผิวของขวัญคะ”
“ก็ขวัญเป็นผู้หญิงที่สวย ผิวพันดีถ้าขวัญมีลูก ลูกของขวัญคงจะน่ารักมากๆเลย ว่าแต่ขวัญเคยมีแฟนหรือยัง”ฉันส่ายหน้าให้กับคุณแม่ ฉันไม่เคยมีแฟนเลยเพราะคิดเสมอว่าฉันควรโตก่อน เรียนให้จบก่อนทำความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว และค่อยคิดเรื่องแฟน
“ไม่ค่ะ”
“แม่ขอถามตรงๆนะ เคยมีอะไรกับใครหรือยัง”? ฉันเริ่มไม่เข้าใจคำถามของคุณแม่ ที่เขาพยายามจะถามฉัน ว่าฉันมีแฟนหรือยังหลังจากนั้นก็ถามว่าฉันเคยมีอะไรกับใครหรือยัง แต่ฉันก็เลือกที่จะตอบตามความจริง โดยที่ส่ายหน้าเพราะฉันไม่เคยมีอะไรกับใครจริงๆ
“ไม่เคย”
“ดีแล้วล่ะลูก เราเป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว”
“ค่ะ”
“แม่จะพาไปเกาะที่แม่ซื้อไว้ ไปอยู่ที่นั่นมีแต่ความสงบ และความสวยงามไปพักผ่อนนะลูกและถ้าอยากกลับไปหาครอบครัว ก็ค่อยกลับมา ในวันที่เราสบายใจ”ฉันยิ้มให้กับคุณแม่ก่อนที่จะยกมือทั้งสองข้างพนมขึ้นแล้วๆกราบลงบนตักคุณแม่
“ขวัญขอบคุณคุณแม่มากๆนะคะ ขวัญไม่รู้จะตอบแทนคุณแม่ยังไง ที่ช่วยเหลือขวัญ”
“เดี๋ยวขวัญก็ได้ตอบแทนแม่ลูก”เดี๋ยวขวัญก็ได้ตอบแทน ฉันยิ่งไม่เข้าใจคำพูดของคุณแม่อีกเช่นเดิม แต่ก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ
“ไปพักผ่อนนะวันพรุ่งนี้แม่จะพาออกเดินทางไปที่เกาะ”ฉันพยักหน้าให้กับคุณแม่และขึ้นมาบนห้อง ที่คุณแม่ให้ฉันอยู่ ในความรู้สึกดีใจที่จะได้ไปทะเล และไปเที่ยวเกาะด้วย แต่อีกใจก็คิดถึงบ้านถ้าฉันได้ไปทะเลกับครอบครัว ฉันคงมีความสุขมากสินะ แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้นอกจากฝันลมๆแล้งๆ
“ขวัญขอโทษนะคะ ที่ขวัญเป็นลูกที่ไม่ดีของครอบครัว ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆในการใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีขวัญอยู่ในนั้น”ฉันยกมือปาดน้ำตาตนเองอีกครั้ง ยิ่งคิดยิ่งน้อยใจ เกิดมาบนกองเงินกองทองอยู่กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบก็จริง แต่ฉันไม่เคยมีความสุขเลย
ตัด!!
เช้าวันต่อมา คุณแม่ให้ฉันเก็บกระเป๋าเอาไปแต่เฉพาะชุดที่คุณแม่ซื้อใหม่ให้
“เพร๊ง”ในขณะที่ฉันลุกขึ้นจากเตียง แต่มือของฉันไปปัดโดนแจกัน ที่ตั้งอยู่ข้างโคมไฟ หล่นลงพื้นเหมือนกับมีลางบอกเหตุอะไรสักอย่าง หรือว่าฉันคิดไปเองนะ
“ซุ่มซ่ามจริงๆขวัญเอ้ย”ฉันบ่นพึมพำให้กับตนเอง ก่อนที่จะวางกระเป๋าเสื้อผ้าที่ชั้นเก็บเพื่อที่จะออกเดินทางลง และก้มเก็บแจกันที่มันแตก
“อุ๊บ”ต้องสะดุ้งเพราะว่าเศษแจกันนั้นบาดนิ้วของฉัน แต่โชคดีนะแค่นิดเดียวมีเลือดออกมาซิบๆ
“ของขวัญไม่ต้องเก็บลูก เดี๋ยวให้แม่บ้านมาเก็บ ดูซิเลือดเลยไปลงข้างล่างเดี๋ยวแม่เอายาทำแผลให้”คุณแม่คนใหม่ของฉันเป็นห่วงฉันมาก แค่เห็นเลือดนิดเดียวท่านก็กังวล และรีบหายามาทาให้ ซึ่งแตกต่างจากคุณแม่ของฉัน ที่ไม่ค่อยสนใจฉันนอกจากน้องสาว
“ทำไมคุณแม่ถึงรักขวัญละคะ ทั้งๆที่เราเพิ่งรู้จักกัน”ฉันมองหน้าคุณแม่คนใหม่ของฉัน และเอ่ยถามอีกครั้ง ฉันอยากรู้ว่าทำไมท่านถึงรักฉันทั้งๆที่เราไม่รู้จักกันเลยก่อนหน้านี้
“ทุกอย่างย่อมมีเหตุผล”คุณแม่ท่านยิ้มแต่ไม่ได้มองหน้าฉัน ทุกอย่างย่อมมีเหตุผลความหมายของท่านหมายถึงอะไร
“ทำแผลเสร็จแล้ว เราออกเดินทางกันดีกว่าขวัญ”ฉันพยักหน้าให้กับคุณแม่ โดยที่ลุกและประคองท่านเดินมาที่รถ
“ทำตัวให้ดีนะขวัญ”ในขณะที่ฉันหลับแต่ฉันได้ยินเสียงคุณแม่คนใหม่ของฉันพูดโดยที่ใช้มือลูบหัวฉันเบาๆ ทำตัวให้ดีฉันเริ่มกลัวกับคำพูดของคุณแม่คนใหม่ฉันขึ้นเรื่อยๆ ทำไมความรู้สึกของฉันในตอนนี้เริ่มอยากกลับบ้าน
“คุณผู้หญิงครับไปจอดที่เดิมเลยใช่ไหม”
“ใช่แล้ว เดี๋ยวจะมีคนมารอรับ”เป็นเสียงคุณแม่กับคนขับรถที่กำลังคุยกัน
“ใครมารอรับหรอคะ”ฉันลืมตาและมองหน้าคุณแม่ ท่านยิ้มให้กับฉันและเอามือมาจับแก้มฉันเบาๆ
“ก็ต้องเป็นเรือที่มารอรับสิคะของขวัญ เราจะข้ามเกาะนะลูก ไม่ใช่ขับรถไปก็ถึง”คุณแม่ของฉันหัวเราะเล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้มก็จริงอย่างที่คุณแม่บอกเราต้องข้ามเกาะ
เวลาผ่านไป!
ตลอดระยะทางฉันนั่งรถมาก็เหมือนจะเมารถ คุณแม่เลยให้ฉันทานยาแก้เมาก็เลยหลับมาตลอดทางเลย จนมาสะดุ้งตื่นอีกครั้งรถให้จอดอยู่ที่ที่ 1 ซึ่งเป็นท่าเรือ
“ของขวัญลูก ตื่นได้แล้ว”คุณแม่ปลุกฉันให้ตื่น ก่อนที่ท่านจะลงจากรถตู้และฉันก็ลงตาม ที่นี่เป็นท่าเรือแต่ไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวนะ
“หิวไหมลูก”
“ยังไม่หิวค่ะ”
“อย่างนั้นไปขึ้นเรือเลย”ฉันมองไปที่ในน้ำมีเรือสปีดโบ๊ทคันใหญ่ที่จอดอยู่เพียง 1 คันและมีชายชุดดำอยู่ประมาณ 4-5 คน
“ของขวัญลงไปก่อนสิลูก พี่เขารอรับอยู่”ทำไมบรรยากาศตอนนี้น่ากลัว และชายชุดดำทั้ง 4 คนก็น่ากลัว คุณแม่ให้ฉันเดินลงบันไดไปตรงเรือและมีชายชุดดำยื่นมือมาจับฉันทั้งสองข้างโดยที่อีกคนจากกระเป๋าเสื้อผ้าของฉัน
“โชคดีนะของขวัญ”คุณแม่คนใหม่ของฉันไม่ได้ลงมาด้วย ท่านยืนอยู่บนสะพานโดยที่ฉันลงมาในเรือแล้ว และเรือสตาร์ทติดเครื่อง
“คุณแม่คะทำไมคุณแม่ไม่ลงมา”ฉันตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็เพราะว่าคุณแม่ไม่ลงมาในเรือกับฉัน
“อย่าทำให้ร่างกายของเธอมีบาดแผลเพียงนิดเดียวเด็ดขาด”คุณแม่หันหน้าไปสั่งชายชุดดำทั้ง 4 คน และทุกคนพยักหน้าฉันพยายามที่จะขึ้นจากเรือแต่เขาจับฉันล็อคแขนน้อย
“ปล่อยนะฉันจะกลับขึ้นไป”
“โชคดีนะขวัญฉันขอโทษ...”
“ฮื่อๆหมายความว่ายังไงหรอคะ”เรือได้ขับหันออกเริ่มออกจากสะพานเรื่อยๆด้วยความเร็ว
“คุณเเม่ฮื่อๆปล่อยขวัญปล่อย”ชายชุดดำทั้ง 4 คน จับฉันล็อคไว้โดยที่ไม่ให้ฉันดิ้นเลย นี่หมายความว่าฉันโดนคุณแม่คนใหม่ของฉันหลอกหรอ ฉันไม่น่าไว้ใจเขาเลยแล้วชายชุดดำทั้ง 4 คนจะพาฉันไปไหนฉันกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว
“ฮื่อๆปล่อยขวัญนะขวัญอยากกลับบ้าน”