บทที่ 5 เริ่มรู้สึก....
ณ.ห้องประชุมหัวหน้า
พีช
วันนี้ผมกับไอ้ลมมาเป็นสองคนแรกขององค์กร นั้นเลยทำให้ทั้งห้องมีเพียงผมกับมัน นี้เป็นอาทิตย์ที่ 2 แล้วที่ไอ้ลมมันมาอยู่กับผม ผมกับมันเริ่มสนิทกันมากขึ้น รวมถึงอาการแปลก ๆ ของผมที่มันก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ผมกำลังมองไอ้ลมที่ตอนนี้กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างเคร่งเครียด
“ทำอะไรวะไอ้ลม”
เนื่องจากภายในห้องนี้เงียบเกินไปเลยทำให้ผมต้องหาเรื่องคุยกับมัน ไอ้ลมวางหนังสือลงแล้วมองมาที่ผมอย่างเครียด ๆ
“อ่านหนังสือ ไม่เห็นหรือไง”
“เออ!! มึงจะพูดตรงไปไหนวะ พูดดี ๆ กับกูสักครั้งมันจะตายหรือไง”
ผมพูดออกไป ใช่ถึงจะดูสนิทกันแต่ไม่เคยมีสักครั้งที่มันจะพูดดี ๆ กับผมเลย
“หึ รุ่นพี่ไม่มีทางได้รับสิทธิ์นั้นจากผมหรอก”
“อ้าวไอ้น้องเวร!!! พูดแบบนี้กูน้อยใจนะโว๊ย!!!”
มันทำท่าไม่สนใจผม มันหยิบหนังสือมาอ่านต่อทำเหมือนกับว่าผมไม่มีตัวตนซะงั้น เฮ้ย!! มันจะเมินผมไม่ได้นะ ผมไม่ยอมหรอก!!!
“นี้ไอ้ลม”
“มีอะไรหรอ”
“ไปกินข้าวกันไหม”
“อิ่มแล้ว”
จบการสนทนา ดูสิมันเมินผมอีกแล้ว เฮ้ย!! นี้ใคร!!! ผมพีช ไรท์เตอร์นะ!!!
“ไอ้ลม”
“ว่าไงรุ่นพี่”
“ฉันอยากไปกินข้าว ไปเป็นเพื่อนกันหน่อยสิ”
“สาว ๆ รุ่นพี่ก็มีเยอะ ลองชวนไปสักคนสิ อีกอย่างตอนนี้ผมกำลังอ่านหนังสืออยู่รุ่นพี่ช่วยเงียบ ๆ ได้ไหม”
ไอ้ลมมันพูดกับผมทั้ง ๆ ที่สายตามันยังจับจ้องอยู่ที่หนังสืออยู่เลย ผมไม่ยอมโดนเมินแบบนี้หรอกนะ!!!
“ไอ้ลม!!!”
ปัง!!!
“รุ่นพี่!!! ผมอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องนะครับ!!”
ไอ้ลมวางหนังสือลงบนโต๊ะอย่างแรงก่อนที่มันจะมองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“อะไรวะ แค่นี้ก็ต้องโมโหด้วย ก็ฉันหิวข้าวนี้หว่า”
เปล่าหรอจริง ๆ แล้วผมหาข้ออ้างมากกว่า ไอ้ลมมองมาที่ผมอย่างเซ็ง ๆ ก่อนที่มันจะวางหนังสือไว้บนโต๊ะแล้วเดินมาหาผม
“ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ผมจะยอมรุ่นพี่ ไปสิ”
ผมยิ้มมุมปากออกมา หึในเมื่อมันมีครั้งแรกมันก็ต้องมีครั้ง ต่อ ๆ ไปสิ ผมเดินนำมันออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ไหนว่าจะไปกินข้าวไง ทางลงไปข้างล่างไม่ใช่ทางนี้นิ”
ไอ้ลมพูดขึ้นหลังจากที่เดินตามผมไปได้สักพัก
“แล้วใครบอกละว่าฉันจะไปข้าวข้างนอก ถ้าไปข้างนอกมีหวังฉันหิวตายแน่ ๆ”
“รุ่นพี่พูดเหมือนว่า ที่นี่มีร้านอาหารอยู่อย่างนั้นแหละ”
ไอ้ลมมองมาที่ผม ตอนนี้มันหน้ามึนมากเลย ผมยิ้มออกมาทันทีที่เห็นท่าทางของมัน
“ร้านอาหารนะไม่มีหรอกแต่มีห้องครัวต่างหาก ไปได้แล้ววันนี้ฉันซื้อของมาเต็มเลย วันนี้แกโชคดีนะที่ได้กินอาหารฝีมือของฉันนะ”
“ฝีมือรุ่นพี่ หมายความว่ารุ่นพี่จะทำอาหาร!!! จะกินได้หรอนั้น!!”
ไอ้ลมพูดออกมาเล่นทำเอาความมั่นใจของผมหดหายไปเลยทีเดียวให้ตายเถอะ มันจะพูดตรงไปไหนเนี้ย แต่ก็นะปกติผมจะไม่ทำอาหารหรอกแต่ไม่รู้ทำไมแค่เมื่อวานได้ยินว่าไอ้ลมอยากกินข้าวต้มกุ้ง ผมก็อยากจะทำให้มันกินซะงั้น
“เฮ้ย!! แกสองคนจะไปไหนกันวะ”
เสียงของไอ้ฟินทำให้ผมหยุดชะงักผมหันไปก็พบไอ้ฟินไอ้เต้และไอ้เรียวพวกมันมองมาที่พวกเราด้วยสายตาจับผิด
“พอดีว่ารุ่นพี่เขาหิว ก็เลยชวนผมไปเป็นเพื่อนนะครับ ไปด้วยกันไหมรุ่นพี่พีชบอกว่าจะทำอาหารเองเลยนะ”
นั้นไงละ ไอ้ตัวดีเชิญเองเสร็จสับ เลยสรุปว่าพวกมันตกลง ให้ตายเถอะกูไม่ได้จะทำให้พวกมึงกินนะโว๊ย!!!
“นี้ไอ้พีช มึงจะทำอะไรกินวะ”
ไอ้ฟินเดินเข้ามาหาผมในครัวหลังจากที่ตกลงกันเสร็จพวกมันก็แยกไปรอที่โต๊ะอาหาร ผมผู้มีหน้าที่ทำอาหารเลยต้องมาอยู่ในครัว
“ว่าไงวะ เหม่ออะไรของมึงวะ”
“เออ น่า มึงเข้ามาทำไมไปนั่งรอเลยกูใกล้เสร็จแล้ว”
“กูสงสัย ทำไมมึงถึงมาทำอาหารไหนว่ามันยุ่งยากไง”
ไอ้ฟินมันทำหน้าสงสัยมาทางผม นั้นสิทำไมผมต้องทำ เพราะไอ้ลมงั้นหรอ ไม่ใช่ผมก็แค่หิวก็เท่านั้น
“ว่าไงมึง กูว่าช่วงนี้มึงดูแปลก ๆ ไปนะ ไม่ค่อยไปที่ผับเลยนะมึงหรือว่ามีเด็กซุ่มไว้”
“พูดมากนะมึง อะยกไป”
ผมส่งถาดข้าวต้มให้มัน มันทำเหมือนจะถามต่อแต่ผมก็ไม่สนใจผมถือถ้วยข้าวต้มออกมา
“อ้าวมึงแล้วถ้วยนั้นของใครวะ”
ไอ้ฟินถามผม ผมหันไปยิ้มให้มัน
“ของไอ้ลมนะ ไปได้แล้วมึง”
ผมเดินนำมันไป ไอ้ลมแล้วแกจะได้รู้ว่าข้าวต้มกุ้งฝีมือฉันมันวิเศษแค่ไหน แกจะต้องกินจนหมดแล้วขอเติมแน่ ๆ 5555
“นี้อะ ฉันซื้อมาฝาก”
“ข้าวต้มกุ้ง!!! ขอบใจมากนะแกนี้รู้ใจฉันจริง ๆ”
“นี้ร้านเจ้าอร่อยเลยนะเว้ยกินให้หมดละ”
“แน่นอนอยู่แล้ว เดี๋ยวใส่ถ้วยกินเลยหยิบมาให้หน่อยสิ”
ผมชะงักฝีเท้าแล้วมองเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อกี้ไอ้เต้มันเอาข้าวต้มกุ้งให้ไอ้ลมและที่สำคัญไอ้ลมรับมาด้วยรอยยิ้ม ผมมองไอ้ลมที่ตอนนี้มันนั่งตรงกลางระหว่างไอ้เต้และไอ้เรียว
“อะฉันก็ซื้อมาแต่ว่ามีของไอ้เต้แล้วงั้นถุงนี้ก็ทิ้งละกัน”
เสียงไอ้เรียวพูดขึ้น ไอ้เรียวนี้มึงด้วยหรอวะ!!! ไอ้เรียวกำลังจะโยนถุงข้าวต้มลงถังขยะ แต่ไอ้ลมมันรีบคว้าไว้ทันที
“เรื่องอะไรละ ถุงเดียวมันไม่อิ่มหรอกนะ แถมพี่เรียวยังซื้อมาให้กินแบบนี้ฉันจะกินให้หมดทั้งสองถุงเลยค่อยดู”
“ไม่ต้องฝืนหรอกน่า”
เฮ้ย!! ไอ้เรียวใช้มือลูบหัวไอ้ลมก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้มัน ตอนนี้ผมถือถ้วยข้าวต้มแน่น
“ไอ้พีชทำไมไม่เข้าไปวะ”
ไอ้ฟินเดินมาข้างหลังผม แต่ผมไม่สนใจสายตาของผมก็ยังมองไปที่สามคนนั้น ไอ้ฟินมองตามผมไป
“กูว่าไอ้พวกนี้มันต้องมีอะไรแน่ ๆ เลยวะ มันดูสนิทกันเกินไป”
“มึงจะพูดอะไร”
ผมพูดออกไป
“ไม่รู้ดิ ไม่แน่พวกมันอาจจะเปลี่ยนรสนิยมก็ได้”
คำพูดของมันทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“นี้อย่ากินเยอะสิเดี๋ยวอ้วนขึ้นมาโทษฉันไม่ได้นะ”