ตอนที่ 4 Onenight สักครั้งก็ดีเหมือนกันนะ
เกือบสัปดาห์ที่งานของพราวรวีไม่คืบหน้าเลยสักนิด งานแปลที่รับมาก่อนหน้านั้นเสร็จเรียบร้อยและส่งให้ผู้ว่าจ้างจนได้เงินมานอนอยู่ในกระเป๋า แต่งานส่วนตัวที่ต้องแก้ไขและส่งยังไม่ได้เริ่มลงมือเลย
ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเธอพยายามอ่านนิยายของนักเขียนท่านอื่นเพื่อหาแนวทางมาปรับเข้ากับงานของตัวเองแต่มันก็ไร้ประโยชน์เพราะทุกคนก็มีสไตล์ของตัวเอง ถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปงานของคงไม่ได้ตีพิมพ์ตามกำหนดแน่ๆ
สมองตันแล้วใครมีไอเดียดีๆ มาเสนอได้นะคะ
พราวรวีโพสต์ไปที่หน้าเพจของตัวเอง จากนั้นก็มีแฟนคลับตามมาให้กำลังใจกันอย่างมากมาย
‘สู้นะคะคุณไรท์’
‘ส่งกำลังใจให้นะคะ’
‘ไรท์คะ หาแฟนสักคนสิคะเผื่อจะได้ไอเดีย’
‘ไรท์อย่ามีแฟนนะคะ มีแล้วปวดหัว แค่ Onenight ก็พอค่ะ’
‘แนะนำ FWB ค่ะ’
‘เปลี่ยนบรรยากาศค่ะไรท์ ออกนั่งชิลๆ เดี๋ยวผู้ก็มาเองค่ะ’
‘อย่าให้รอนานนะคะ หยอดกระปุกรอแล้วจ้า’
พราวรวีอ่านแล้วก็ยิ้มตาม แม้ตอนนี้ตัวเองจะโดดเดี่ยวแต่ก็ยังมีบรรดานักอ่านทั้งหลายคอยให้กำลังใจ ในเมื่อยังมีคนรอคอยงานเขียนของเธอ
“คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ ยายพราว” หญิงสาวพูดให้กำลังใจตัวเอง
หญิงสาวกำลังคิดถึง One Night Stand ( ความสัมพันธ์แบบข้ามคืน ) หรือ FWB (ความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมหลับนอนกับเพื่อน เป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่สามารถมีเพศสัมพันธ์กันได้โดยไม่ผูกมัด ) ความสัมพันธ์ทั้งสองแบบนี้ค่อนข้างอันตรายสำหรับคนไร้ประสบการณ์อย่างเธอ
“หรือจะไปบาร์โฮสต์ดีนะ” หญิงสาวกำลังสับสนและเธอก็ไม่กล้าไปปรึกษาเรื่องนี้กับใคร เพราะมันดูไม่ดีเท่าไหร่สำหรับสาวโสดอย่างเธอ แต่เพราะอยากทำงานออกมาให้ดีที่สุดพราวรวีก็เลยต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง
แล้วหญิงสาวก็ตัดสินใจไปนั่งชิล เผื่อว่าสมองที่กำลังตื้อๆ อยู่นั้นจะดีขึ้น
เมื่อตัดสินใจได้แล้วพราวรวีก็ขับรถมายังโรงแรมหรูย่านชานเมือง เลือกโรงแรมที่ผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเพราะกลัวว่าจะเจอคนรู้จัก
เธอเช็กอินในเวลาหนึ่งทุ่ม จากนั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะลงมายังผับกึ่งบาร์ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรมหรู
หญิงสาวเลือกนั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์ริมสุด เพราะไม่อยากเป็นจุดสนใจของคนอื่นจนเกินไป
“รับเครื่องดื่มอะไรดีครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มถาม
“แนะนำหน่อยสิคะ”
“ขอบแบบไหนครับ”
“ขอแบบเบาๆ ก่อนแล้วกันค่ะ”
“รอสักครู่นะครับ”
จากนั้นบาร์เทนเดอร์ก็หันไปเทส่วนผสมลงในกระบอกเชก รอไม่นานเครื่องดื่มสีสวยก็มาเสิร์ฟตรงหน้า
“เหล้ารัมผสมกับผลไม้ครับ ไม่แรงมากหวังว่าคุณผู้หญิงคงชอบนะครับ”
หญิงสาวรับมาดื่มแล้วรู้สึกถึงความสดชื่นอย่างที่บาร์เทนเดอร์บอก เธอจิบแล้วมองไปรอบๆ บริเวณ วันนี้เป็นวันธรรมดาคนเลยไม่ค่อยมากเท่าไหร่ และส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติและมากันเป็นคู่
“ขอนั่งด้วยคนนะครับ”
“ค่ะ” พราวรวีตอบรับและขยับให้เขาเล็กน้อย
ชายหนุ่มนั่งลงข้างเธอโดยเว้นเก้าอี้ไว้หนึ่งตัว นั่นทำให้เธอไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป เขาหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ด้วยท่าทางสนิทสนม ก่อนจะหันมาชวนเธอคุยอีกครั้ง
“มาคนเดียวเหรอครับ”
“ค่ะ”
“ปกติมาดื่มคนเดียวแบบนี้บ่อยไหมครับ”
“ก็ประมาณหนึ่งค่ะ” พราวรวีจะให้เขารู้ไม่ได้ว่าเธอเพิ่งเคยมาสถานที่แบบนี้คนเดียวเป็นครั้งแรก
พอมีเพื่อนคุยหญิงสาวก็รู้สึกสนุกขึ้น เธอสั่งเครื่องดื่มมาอีกหลายแก้ว ดื่มไปด้วยคุยไปด้วยจนตอนนี้ประคองสติแทบไม่อยู่
ทุกการกระทำของเธออยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาแล้ว และพอเห็นว่าหญิงสาวเริ่มจะเมาเขาก็ย้ายที่นั่งมาประกบเธออีกด้าน
“เรากลับกันดีไหมครับ คุณพักที่ไหนเดี๋ยวผมไปส่ง” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้วยในตอนแรกเอ่ยชวน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจองห้องไว้แล้วกลับคนเดียวได้สบายมากค่ะ” เธอรีบปฏิเสธเพราะถ้าเขาตามขึ้นไปส่งมันคงไม่จบแค่ไปส่งอย่างเดียวแน่แม้อยากมีความสัมพันธ์กับใครสักคนแต่ต้องไม่ใช่ในสภาพที่เธอไม่ค่อยมีสติแบบนี้ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเธอคงเอาไปเขียนลงในนิยายไม่ได้แน่ๆ
“ให้ผมไปส่งเถอะครับผมว่าคุณคงเดินไปไม่ถึงห้องแน่ๆ” ชายคนเดิมพยายามเซ้าซี้
“คุณพราว ผมว่าคุณเมาแล้วนะครับ” เสียงเข้มของใครอีกคนทำให้พราวรวีหันไปมองอย่างสงสัยว่าเขาเป็นใครและรู้จักเธอได้ยังไง
“รู้จักชื่อฉันได้ยังไงคะ”
“งอนทีไรหนีมาดื่มคนเดียวทุกทีนะครับ ผมขอโทษคุณด้วยที่เธอรบกวนเวลาส่วนตัวของคุณ ผมคงต้องพาเธอกลับก่อน”
“แน่ใจนะครับว่าคุณรู้จักเธอ” ชายคนแรกถาม เขากำลังได้เหยื่อแล้วเชียวแต่ผู้ชายคนนี้ก็เข้ามาขวาง
“ก็ถามเธอสิครับ ว่าเธอชื่อพราวรวี โยธินกุลหรือเปล่า”
“โอ๊ะ รู้จักทั้งชื่อทั้งนามสกุลของฉันด้วย” พราวรวีมองหน้าเขาอย่างสงสัย เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยรู้จักเขาหรือเปล่า
“รู้จักดีเลยล่ะ กลับกันได้แล้ว ถ้ายังไม่กลับผมจะอุ้มคุณไปจริงๆ นะ”
“เรารู้จักกันเหรอ”
“ถ้าคุณคือพราวรวี โยธินกุล หรือพริบพราว เพื่อนรุ่นน้องของญาดา เราก็รู้จักกัน” เขารีบพูดออกไป แต่ในใจก็กลัวเธอจะไม่เชื่อ
“อ้อ รู้จักทั้งพริบพราวและพี่ดาด้วย งั้นเราก็คงรู้จักกันสินะ”
พอรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้ารู้จักกับเพื่อนรุ่นพี่เธอจึงเดินตามเขาออกมาด้วยสติที่ไม่ค่อยเต็มร้อยเท่าไหร่นัก
“พักห้องไหนครับ”
พราวรวียื่นกุญแจห้องให้เขาแทนคำตอบ ตอนนี้หญิงสาวทรงตัวแทบไม่อยู่จนชายหนุ่มต้องคอยประคอง
พอเข้ามาในลิฟต์เธอก็โถมทั้งตัวเข้ามาจนเขาต้องกอดประคองไว้เพราะไม่อย่างนั้นคงได้คว่ำหน้าลงไปแน่ๆ
คนตัวสูงก้มมองใบหน้าขาวเนียนที่แต่งแต้มสีสันไว้เพียงนิด แล้วรู้สึกว่าตัวเองหัวใจเต้นแรงขึ้น กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกลิ่นกายหอมกระตุ้นประสาทสัมผัสของเขาให้ตื่นตัวอย่างง่ายดาย ใบหน้าคมก้มลงกดจมูกไปบนแก้มอย่างฉวยโอกาส
ติ๊ง
เสียงลิฟต์ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบยืนตัวตรงอีกครั้ง
“คุณพราวครับ เดินไหวไหม” เขากระซิบข้างหูเบาๆ
“ไหวค่ะ ขอบคุณนะคะ”
คนที่บอกว่าไหวเดินไปเพียงแค่ก้าวเดียวก็สะดุดขาตัวเองจนเกือบจะล้ม ยังดีที่เขาคว้าเอาไว้ได้ทัน
ชายหนุ่มรวบเธอเข้ามาอุ้มไว้ก่อนจะเดินไปตามหมายเลขห้องบนกุญแจที่เธอยื่นให้
“อุ่นจัง แบบนี้หรือเปล่านะที่พระเอกอุ้มนางเอง” คนเมาพึมพำเบาๆ แต่เพราะใกล้ขนาดนี้คนตัวโตเลยได้ยินทั้งหมด
กว่าเขาจะเปิดห้องได้ก็เกือบแย่ เพราะคนที่เมานั้นเอาแต่เกาะคอเขาไม่ยอมปล่อย
ชายหนุ่มอุ้มเธอมาวางบนเตียงในห้องนอนแล้วหันหลังกลับแต่ข้อมือเล็กๆ ก็คว้าไว้จนเขาล้มลงทับไปบนร่างนั้นอย่างไม่ตั้งใจ
“จะกลับแล้วเหรอคะ”
“ครับ”
“อยู่ก่อนได้ไหม”
“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่อยากรบกวนคุณ”
“เท่าไหร่” คนถามมองเขาด้วยตาปรือจนแทบจะปิด
“อะไรครับ”
“พี่ดาจ้างคุณมาเท่าไหร่”
“พูดอะไรผมไม่เข้าใจ”
“ฉันรู้พี่ดาคงจ้างคุณมาใช่ไหม คงกลัวฉันเขียนอีโรติกไม่ได้อารมณ์ล่ะสิ ไม่เป็นไร Onenight สักครั้งก็ดีเหมือนกันนะ”
“เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ไม่มีใครจ้างผมมาทั้งนั้น” ชายหนุ่มรีบดันตัวเองลุกขึ้น เขารีบเข้าไปยังห้องน้ำเอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กออกมาเช็ดใบหน้าและท่อนขาของคนเธอ เผื่อว่าความเย็นจะช่วยให้เธอหายเมาได้บ้าง
หญิงสาวที่ถูกฤทธิ์แอลกอฮอล์ครอบงำ ทำให้เธอทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง
เรียวปากอิ่มประกบไปบนริมฝีปากหยักของผู้ชายตัวโต เพียงสัมผัสเขาก็รู้สึกตื่นตัวจนควบคุมตัวเองได้อย่างลำบาก
“นอนกับฉันได้ไหม” เสียงคนเมาพูดเหมือนกำลังละเมอ
“ทำแบบนี้จะไม่เสียใจแน่นะ” เขากระซิบถาม
“ไม่เลย ฉันอยากนอนกับใครสักคน อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกดีไหม อยากรู้ว่ามันดียังไง” เสียงนั้นฟังดูจริงจังจนเขาต้องยอมปล่อยไปให้ทุกอย่างเป็นไปตามอารมณ์ปรารถนา