โกหก
น่านฟ้า...
หลังจากไอ้ไผ่มันยอมกลับไปแบบจำใจผมก็เลยถือโอกาสชวนมิ้งไปกินไอติมร้านข้างโรงเรียนโดนมีเพื่อนของผมกับเพื่อนของมิ้งตามไปด้วย เราเดินกันออกมาเป็นกลุ่มใหญ่ทำให้มีนักเรียนหญิงคนอื่นๆ คอยมองตามบางคนก็คอยส่งยิ้มมาให้ซึ่งผมก็ยิ้มกลับไปแต่ดูเหมือนมิ้งจะออกอาการไม่พอใจเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงคนอื่นส่งสายตาเชิญชวนมาให้ผมเธอจึงรีบเกาะแขนผมไว้แน่นเพื่อแสดงให้คนอื่นรู้ว่าเธอกับผมเราเป็นอะไรกันซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร
อยากจะบอกว่าถึงผมจะอายุแค่15แต่เรื่องผู้หญิงผมก็ผ่านมาบ้างไม่มากแต่ก็ไม่น้อย อย่าให้ต้องนับเลย ผมไม่รู้นะว่าคนอื่นจะคิดยังไงแต่ผมอยากจะบอกว่าผมก็รู้จักวิธีป้องกันโดยการใช้ถุงยางทุกครั้งเพราะถึงแม้ผู้หญิงที่ผมเคยมีอะไรด้วยจะอายุพอๆ กันกับผมแต่พวกเธอก็ไม่ได้ซิงนะพวกเธอมีประสบประการณ์มากกว่าผมซะอีกนะบางคนน่ะ แต่ผมก็ไม่เคยคบใครจริงจังหรอกผมอายุแค่เท่านี้ยังมีอะไรให้เจออีกเยอะผมไม่อยากผูกติดกับคำว่าแฟนกับผู้หญิงเพียงคนเดียว บอกตรงๆ นะว่ามันน่าเบื่อ แต่กับมิ้งที่ผมเอ่ยปากขอเธอเป็นแฟนก็เพราะผมรู้ไงว่าเธอก็เหมือนผมนั่นแล่ะเธอไม่ยอมเป็นแฟนกับใครหรอกเพราะเธอชอบหว่านเสน่ห์คอยให้ความหวังคนนั้นคนนี้ไปทั่ว คือนิสัยเหมือนกันกับผมไง ผมเลยชอบส่วนเรื่องอย่างว่ากับมิ้งผมไม่ซีเรียสนะได้ก็ดีไม่ได้ก็แล้วไป
พาฝัน....
"ฝันน้องไปไหนลูกทำไมไม่กลับมาพร้อมกัน" เมื่อกลับเข้ามาถึงบ้านเธอก็ดดนถามถึงน่านฟ้าทันทีเพราะตอนนี้ทุกคนก็เตรียมตัวที่จะไปงานเลี้ยงกันแล้ว
"คือว่า...น้อง...มีงานที่โรงเรียนด่วนค่ะ"
"อ้าวเหรอ แล้วทำไมไม่บอกแม่ล่ะ น่านนะน่านแม่กับพ่อก็รอ"
"ฝันผิดเองค่ะที่ไม่ได้โทรบอกคุณแม่ก่อน ขอโทษนะคะ"
"ไม่ใช่ความผิดของฝันหรอกลูก เอาล่ะในเมื่อน่านไปไม่ได้งั้นฝันไปแทนน้องละกันนะลูก"
"เอ่อจะดีเหรอคะคุณอม่ คือว่าฝันเป็นแค่...."
"ห้ามพูดว่าฝันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อกับแม่นะ"
"ก็..."
"เอาล่ะไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดซะ แม่ให้เวลาครึ่งชั่วโมง ลงมาแล้วต้องสวยที่สุดเลยนะเข้าใจมั้ยจ๊ะ"
แม้ว่าเธอไม่อยากจะไปเพราะงานนี้เอาเข้าจริงๆ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิดเดียว บริษัทของคุณพ่อกับคุณแม่ซึ่งต่อไปน่านฟ้าจะต้องเข้ามาบริหาร เธอไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไงที่เธอมาแทนเขาในวันนี้ และสิ่งที่เธอต้องเตรียมใจไว้ก็คือเธอจะต้องเจอกับคุณหญิงกัลยา ถ้าท่านเห็นเธอในงานเธอมั่นใจมากว่าเธอคงจะได้รับคำดูถูกคำถากถางต่างๆ จากท่าน แต่เธอก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ไม่สามารถปฏิเสธคุณพ่อกับคุณแม่ได้ว่าเธอจะไม่ไป
สุดท้ายเธอก็มาถึงหน้างานพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ แต่เธอขออนุญาตท่านว่าเธอขอเดินเล่นข้างนอกแต่ที่จริงแล้วเธอไม่อยากเข้าไปมากกว่าและอีกอย่างเธอเจ็บหัวเข่าด้วยเนื่องจากล้มที่โรงเรียนตอนที่ยื้อยุดกับน่านฟ้าเมื่อตอนเย็นทำให้ยืนนานๆ คงไม่ไหว และที่สำคัญที่สุดก็คือเธอไม่อยากเข้าไปให้ใครต่อใครมาถามนั่นถามนี่ ซึ่งส่วนใหญ่ที่พูดกับเธอเหมือนหวังดีแต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย บางคนก็บอกว่าเธอโชคดีได้มาเป็นคุณหนูอยู่สุขสบาย บางคนก็พูดว่าเธอทำตัวเหมือนหงส์แต่แท้ที่จริงแล้วเธอเป็นเพียงอีกาเท่านั้น เธอฟังมาตั้งแต่เด็กจนโตซึ่งเธอก็ชินกับคำพูดเหล่านั้นนะแต่เธอก็ไม่ได้อยากที่จะได้ยินมันซ้ำๆ บ่อยๆ