ตอนที่ 2 ก็ใจมันรัก
ตอนที่ 2 ก็ใจมันรัก
คนตัวเล็กวิ่งออกมาจากบ้านของมังกรด้วยความเสียใจ เธอถูกเขาไล่แบบนี้มาหลายครั้งแต่ไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้มันถึงทำให้หัวใจเธอน้อยใจชายหนุ่มได้มากขนาดนี้ เธอไม่ได้เจอเขามานานหลายวัน แต่พอเจอหน้าเขาก็ไล่เธออย่างไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย
“เฮียใจร้าย ทำไมถึงต้องใจร้ายกับผิงขนาดนี้ ผิงอุตส่าห์ตื่นตั้งแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวสวย ๆ มาหาเฮียแท้ ๆ แต่มาไล่อย่างกับหมูกับหมา” คนตัวเล็กฟึดฟัดก่อนจะเดินมาถึงบ้านของตัวเอง ซึ่งบ้านของเธอกับเจ๊เกียงห่างกันแค่สามหลัง แต่ก็เดินไกลอยู่หลายก้าว พอกลับมาบ้านก็รีบขึ้นห้องไปไม่สนใจพ่อแม่ที่มองอย่างสงสัย
“อ้าวผิง กินข้าวรึยังลูก เป็นอะไรไปผิง ผิง!”
“สงสัยโดนนายมังกรว่ากลับมาแน่ ๆ เลยถึงได้มีท่าทีแบบนี้ ลูกเราก็นะจะไปรักไปชอบอะไรเขานัก” เด่นชัยพูดขึ้น ก่อนจะหยิบกุญแจรถเพื่อที่จะไปเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ธุรกิจของครอบครัวเขานั่นเอง
ครอบครัวของผิงผิงเปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากไม้ แต่ก็ไม่ใช่ร้านใหญ่โตอะไรมากมายนัก ก็พอทำให้มีเงินมาดำรงชีวิตไม่ลำบากก็เท่านั้นเอง เด่นชัยพบรักกับบัวพริ้งก่อนที่สองจะแต่งงานกันแล้วมีลูกสาวด้วยกันอย่างผิงผิง ซึ่งในตอนนี้ลูกสาวของพวกเขาก็อายุจะเข้าสิบเก้าแล้วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผิงผิงเป็นเด็กน่ารักไม่ใช่คนเกเรอะไรมากมาย และลูกสาวของเขาคนนี้เป็นคนที่บอกทุกอย่างให้กับเขารู้ทุกเรื่อง
ขนาดเรื่องที่แอบชอบมังกรลูกเจ๊เกียงลูกสาวเขาก็มาบอก จำได้ว่าตอนนั้นลูกสาวเขาอยู่ม. 4 เอง ด้วยความที่สนิทสนมกันมาหลายปีแถมยังไปเรียนโรงเรียนเดียวกันด้วย พอบ้านอยู่ใกล้กันมังกรก็อาสาเป็นหูเป็นตาให้ ลูกสาวของเขาก็ติดพี่ชายข้างบ้านคนนี้จะตายไป จนพอรู้ว่าแอบชอบก็เอาแต่ตามติด นิสัยเด็กผู้ชายพอโดนตามติดมาก ๆ ก็รำคาญพอหลังจากที่มังกรไปเรียนมหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยได้สนใจอะไรในตัวลูกสาวของเขามากมายนัก มีแต่ลูกสาวเขานี่แหละที่ยังคงตอแยไม่เลิก
“ฮึกฮือ เฮียใจร้าย ใจร้ายที่สุด” คนตัวเล็กฟุบลงไปกับหมอนก่อนจะร้องไห้ออกมาไม่หยุด เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมอารมณ์ในวันนี้ถึงได้เป็นแบบนี้ ปกติโดนเขาด่ามากกว่านี้ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย
“ทำไมหน่วงท้องจัง” ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังรู้สึกน้อยอกน้อยใจในตัวพี่ชายข้างบ้านอยู่นั้นหญิงสาวก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมา จนเธอลุกขึ้นนั่งพร้อมกับคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะสะดุ้งตกใจเมื่อนึกถึงอะไรขึ้นมาได้
“หรือว่า?” เธอรีบวิ่งเข้าไปห้องน้ำก่อนจะดึงกางเกงลงพอเห็นหยดเลือดอยู่ที่กางเกงใน 2-3 หยดมันก็ทำให้คนตัวเล็กเข้าใจได้ทันทีว่าเธอนั้นกำลังเป็นรอบเดือนนั่นเอง
“มาแล้วเหรอลืมสนิทเลย” ผิงผิงล้างเนื้อล้างตัวก่อนจะสวมใส่ผ้าอนามัย เธอเดินออกมาตรวจดูว่าที่นอนเปรอะเปื้อนเลือดหรือเปล่ามองไม่เห็นรอยอะไรก็พ่นลมหายใจมา ถึงว่าทำไมเธอถึงรู้สึกน้อยอกน้อยใจในตัวผู้ชายคนนี้มากขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่เธอทนได้มาโดยตลอดแต่พอวันนี้เขาพูดใส่นิดหน่อยก็ร้องไห้แล้ว
บ่ายของวัน
ผิงผิงเดินลงบันไดมา ก่อนจะเห็นมารดาทำขนมหวานอยู่เธอจึงเดินเข้าไปช่วย พอบัวพริ้งเห็นหน้าลูกสาวก็ถอนหายใจออกมา เธอไม่อยากพูดให้ลูกสาวรู้สึกเสียใจหรอกแต่มันก็อดที่จะไม่พูดไม่ได้ พอเห็นผิงผิงวิ่งกลับมาด้วยสภาพอย่างนั้นมันก็ทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงลูกสาวมากขึ้นกว่าเดิม
“ผู้ชายไม่ได้มีคนเดียวทำไมต้องไปรักเขาขนาดนั้นด้วยหืม แล้วนี่เขาไล่กลับมาหรือยังไงทำไมถึงร้องไห้แบบนี้”
“ก็โดนพูดเหมือนทุกครั้งล่ะค่ะแต่วันนี้ผิงอารมณ์อ่อนไหวด้วยก็เลยเสียใจแต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วค่ะรักเฮียเหมือนเดิม”
“อ้าว” บัวพริ้งทำหน้าเหวอเมื่อยินคำพูดของลูกสาวก่อนหน้านี้ดูเสียอกเสียใจจะตายไปจนถึงกลับร้องไห้กลับมาปกติแล้วลูกสาวของเธอก็ไม่ใช่คนขี้แงอะไรขนาดนี้ นึกว่าครั้งนี้จะตัดใจจากมังกรไปแล้วซะอีกแต่ที่ไหนได้เฮ้อ นึกแล้วบัวพริ้งก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“หูย ขนมน่ากินจัง ใกล้เสร็จยังคะแม่ ผิงอยากกิน”
“เราเนี่ยนะ” เธอเห็นท่าทางมีความสุขของบุตรสาวก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะตักขนมหวานที่สุกพอดีมาให้บุตรสาวทาน
อีกด้านของมังกร
พอหลังจากที่ผิงผิงเดินออกไปด้วยน้ำตามันก็ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก
เขาไม่ได้ใช้คำพูดแรงอะไรเลยสักนิดก่อนหน้านี้เคยว่าแรงกว่านี้ผิงผิงก็ยังหน้ามึนไม่รู้สึกรู้สาอะไร มาวันนี้ทำไมมาเจ้าน้ำตาไปได้ก็ไม่รู้ จากที่จะไม่สนใจในเวลานี้มันกลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา รู้สึกผิดที่ทำให้คนตัวเล็กร้องไห้ อย่างที่บอกเมื่อก่อนเขาสนิทกับผิงผิงพอสมควร ไปเรียนก็ไปด้วยกันทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีให้กับเธอ เพราะเมื่อก่อนมังกรอยากมีน้องสาว เขาเป็นลูกคนเดียวไม่มีน้องชายไม่มีน้องสาวไม่มีเพื่อนเล่นพอได้เจอกับผิงผิงในวัยไม่กี่ขวบในตอนนั้น ที่ย้ายมาอยู่ในละแวกบ้านมันก็ทำให้เขาไปหาไปเล่นกับน้องสาวคนนี้อยู่บ่อยครั้งจนกระทั่งทั้งสองเติบโตมาพร้อมกัน
เขาอายุห่างจากผิงผิงสามปีเห็นจะได้ จึงพยายามปกป้องเธอดูแลเธอให้ดีที่สุดเหมือนที่พี่ชายดูแลน้องสาวอย่างที่เขาอยากเป็นพี่ชายมาโดยตลอด
“เด็กดื้อ นับวันก็ยิ่งดื้อ!” เขาบ่นก่อนจะหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เพื่อที่จะออกไปพบกับเพื่อนสมัยเด็กที่เรียนด้วยกันมา
ตกเย็นของวัน
เพราะความรู้สึกอยากกินนู่นอยากกินนี่หญิงสาวจึงขับมอเตอร์ไซค์ฟีโน่มายังตลาดแถวบ้าน เธอซื้อขนมจนเต็มไม้เต็มมือ กำลังจะกลับบ้านพอเห็นคนตัวสูงนั่งคุยอยู่กับกลุ่มเพื่อนของเขา มันจึงทำให้หญิงสาวรีบเดินไปหาทันทีพร้อมกับเผยรอยยิ้มมาให้อีกฝ่าย
“เฮีย บังเอิญจังเลยเจอกันอีกแล้ว สงสัยเป็นเนื้อคู่กันแน่ ๆ เลย” เสียงสดใสทำให้ชายหนุ่มที่ยืนหันหลังอย่างนั้นถึงกลับมองบนทันที ตอนแรกคิดว่าหญิงสาวคงน้อยอกน้อยใจเขาไปนานหลายวันแต่นี่ผ่านไปยังไม่พ้นวัน คนตัวเล็กก็ทำเหมือนไม่ได้เสียอกเสียใจกับคำพูดของเขาเลย
“น้องผิงผิง ทักแต่ไอ้มังกรเหรอพวกพี่ก็ยืนอยู่ไม่เห็นทักเลย” ต้นพูดแซวขึ้น เพราะรู้ดีว่าหญิงสาวนั้นชอบพอในตัวเพื่อนของเขามากแค่ไหน
“สวัสดีค่ะพี่ ๆ แหมก็เห็นหน้ากันบ่อยไหมคะ แต่เฮียมังกรไปเรียนในเมืองผิงไม่ค่อยเห็นหน้าไงก็เลยต้องทักบ่อย ๆ”
“หึ นี่น้องผิงพี่ถามจริงเถอะรักไอ้มังกรมันขนาดนั้นเลยเหรอ” เห็นผิงผิงตามตื๊อเพื่อนของเขามานานทั้ง ๆ ที่เพื่อนของเขานั้นไม่ได้มีท่าทีที่จะเล่นด้วยเลยสักนิดแต่ก็เห็นว่าเจ้าหล่อนก็ยังตามตื๊อเพื่อนของเขาอยู่
“มากค่ะ มากที่สุดหัวใจดวงน้อย ๆ ของผิง มันเป็นของพี่มังกรคนเดียว”
“เฮ้อ!” มังกรถอนหายใจออกมาอีกครั้งกับคำหวาน ๆ ชวนเลี่ยนของหญิงสาวที่พูดออกมาอย่างไม่อายใคร
“นี่ก็เย็นมากแล้วกลับบ้านไปซะ”
“แน่ะ เป็นห่วงผิงก็บอกเถอะน่า ใจอ่อนให้กับผิงแล้วใช่ไหมคะ” คนตัวเล็กไม่พูดเปล่าขยับกายเข้าไปใกล้พร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดแขนกำยำของมังกรแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอีกฝ่าย
เพราะที่ตรงนี้มันเป็นตลาดทำให้มีผู้หญิงมากมายต่างจ้องมองมาทางผู้ชายที่เธอรักไม่วางตามันจึงทำให้ผิงผิงรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
“ผิงผิงกลับบ้าน” มังกรพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เพราะเห็นว่านี่มันก็เย็นมากแล้ว จะบอกว่าไม่เป็นห่วงก็ไม่ใช่ ถึงยังไงเขาก็รู้จักเธอและครอบครัวเธอก็ต้องเป็นห่วงเป็นธรรมดา
“ก็ได้ค่ะผิงกลับก็ได้” คนตัวเล็กส่งยิ้มให้ก่อนจะทำตามที่อีกฝ่ายบอก มังกรเห็นว่าหญิงสาวเชื่อฟังมันก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมา อย่างน้อยก็ไม่ได้ดื้อรั้นไปซะทุกเวลาก็ยังนับว่าดี
ผิงผิงเดินกลับบ้านด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ แม้ว่าจะถูกมังกรดุไปอีกครั้ง แต่เพียงแค่ได้เห็นหน้าและได้ยินเสียงของเขา หัวใจของเธอก็เต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล เดินมาถึงบ้านพอดีก็พบกับพ่อที่เพิ่งกลับจากร้านค้า
“ผิง วันนี้เจออะไรมาบ้างล่ะลูก เห็นยิ้มมาแต่ไกลเลย” เด่นชัยถามพลางเก็บของจากรถ
“ไม่มีอะไรค่ะพ่อ แค่ไปเดินตลาดมาเจอเฮียมังกรก็เท่านั้นเอง” ผิงผิงตอบยิ้มแย้ม
“อืม… ยังไม่ตัดใจอีกหรอผิง รู้ไหมว่าพ่อละห่วงลูกมาก” เด่นชัยถามต่อ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าผิงผิงคงจะยังตัดใจไม่ได้
ผิงผิงพยักหน้าเบา ๆ “ผิงรู้ว่าพ่อเป็นห่วง แต่ผิงก็รักเขามากจริง ๆ นะพ่อ ถึงเขาจะไม่สนใจผิงตอนนี้ แต่สักวันเฮียต้องใจอ่อนแน่ ๆ ผิงเชื่อแบบนั้น”
เด่นชัยมองดูลูกสาวด้วยสายตาเข้าใจ แม้จะไม่เห็นด้วยนักกับการที่ผิงผิงยืนกรานจะรักมังกร แต่เขาก็เข้าใจว่าความรักของลูกสาวเป็นสิ่งที่หยุดไม่ได้ และเชื่อว่าเวลาจะเป็นตัวตัดสินทุกอย่าง
“ถ้าลูกเชื่อแบบนั้นก็ทำตามที่หัวใจบอกละกัน แต่ระวังตัวหน่อยนะผิง พ่ออยากให้ลูกคิดถึงตัวเองมาก ๆ ด้วย” เด่นชัยเตือนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ค่ะพ่อ ผิงจะระวัง” ผิงผิงตอบพลางยิ้มกว้าง เธอเดินเข้าบ้านพร้อมกับหัวใจที่ยังเปี่ยมด้วยความรัก แม้จะรู้ว่ามันยังอีกไกลกว่ามังกรจะตอบรับความรู้สึกของเธอ แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้
คืนนี้ผิงผิงนอนคิดถึงใบหน้าของมังกรก่อนจะหลับไปอย่างมีความสุข เธอเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งคนที่เธอรักมากที่สุดจะมองเห็นความตั้งใจและความรักที่เธอมีให้ แล้ววันนั้นมังกรจะไม่ไล่เธอออกไปอีก…