ตอนที่ 1 เฮียของผิงผิง
ตอนที่ 1 เฮียของผิงผิง
“ผิงผิง ตื่นได้แล้วลูก อยู่ไหนน่ะตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นหน้าเลย ทำไมตื่นสายแบบนี้!” เสียงบัวพริ้ง มารดาของหญิงสาวเจ้าของชื่อว่าผิงผิงเอ่ยตะโกนเรียกลูกสาวที่ตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นหน้าเลย
“ลูกสาวเราไม่อยู่บ้านหรอกที่รัก” เด่นชัยได้ยินเสียงภรรยาเรียกลูกสาว มันก็ทำให้เขาเอ่ยบอกอย่างคุ้นชิน
“อ้าว ไม่อยู่แล้วไปไหนแต่เช้า” บัวพริ้งถามกลับอย่างสงสัย แต่พอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้วันหยุดมันก็ทำให้เธอเผยสีหน้าเอือมระอาขึ้นมาทันที
“อย่าบอกนะว่าไปหามังกรมัน”
“เดาผิดที่ไหนล่ะ เห็นตื่นตั้งแต่เช้าแต่งเนื้อแต่งตัวไปหานายมังกรนู่น”
เด่นชัยพูดอย่างปลง ๆ เพราะเขารู้ดีว่าบุตรสาวชอบพอมังกรลูกเจ๊เกียงมากขนาดไหน ลูกของเขาไม่เคยมีความลับรู้สึกยังไงก็บอกไปอย่างนั้น ถามว่าเขาหวงไหมตอนแรก ๆ ก็บ่นนั่นแหละ เพราะเป็นผู้หญิงไม่ควรไปตอแยผู้ชายแต่ทว่าลูกสาวของเขาก็ไม่ฟังบอกว่าแอบชอบมังกรอยากได้มังกรเป็นคนรัก แต่เขามองออกว่ามังกรไม่ได้คิดอย่างนั้นก็เลยปล่อยไปเผื่อสักวันหนึ่งลูกสาวของเขาจะได้รู้ว่าความผิดหวังเป็นยังไง
“เฮ้อ ยัยลูกคนนี้เห็นผู้ชายกลับมาไม่ได้เลยนะ” บัวพริ้งถอนหายใจออกมา เพราะวันนี้เป็นวันหยุดทำให้มังกรต้องกลับมาที่นี่ ปกติแล้วชายหนุ่มอยู่คอนโดฯ ในเมืองที่เจ๊เกียงซื้อเอาไว้ให้ เพราะอีกฝ่ายกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 3 แล้ว ส่วนลูกสาวเธอกำลังจะจบม. 6 ถามว่าการที่ลูกสาวเธอแอบชอบผู้ชายคนนี้มันมีข้อดีหรือเปล่ามันก็ดีอย่างหนึ่งที่เมื่อก่อนผิงผิงหัวไม่ดีเท่าไร แต่พออยากเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับมังกรมันก็ทำให้ลูกสาวเธอตั้งใจเรียนเพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้ให้ได้ แต่เธอก็รู้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ชอบพออะไรลูกสาวเธอหรอกเห็นเป็นเพียงน้องนุ่งก็เท่านั้น
ณ บ้านเจ๊เกียง
บ้านปูนสองชั้นขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนที่ดินนับสิบไร่ เป็นสถานที่ที่ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าเจ้าของนั้นร่ำรวยขนาดไหน นอกจากเจ๊เกียงจะเป็นเจ้าของร้านทองแล้วเธอยังเป็นเจ้าของที่ดินละแวกนี้อีกด้วย ถือได้ว่าครอบครัวของมังกรรวยติดอันดับจังหวัดเลยก็ว่าได้
“อ้าวผิง มาแต่เช้าเลยนะลูก”
“สวัสดีค่ะม้า” เสียงหวานเอ่ยทักทายมารดาว่าที่แฟนด้วยท่าทีมีความสุข เจ๊เกียงเองก็เห็นและรู้จักกับเด็กสาวคนนี้มานานหลายปีแล้วก็รู้ว่าเด็กสาวชอบพอลูกชายของเธอ
เธอเองก็นึกเอ็นดูในตัวเด็กคนนี้อยู่เหมือนกันจึงไม่ได้ขัดขวางอะไรดีเสียอีกถ้าหากได้เด็กคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้แต่ดูเหมือนสิ่งที่เธอคิดมันจะดูริบหรี่เหลือเกินเพราะว่าบุตรชายเธอไม่ได้แยแสเด็กคนนี้เลย
“จ้ะ ทานข้าวเช้ามาหรือยังมาทานกับม้าไหม” ผิงผิงพยักหน้าพร้อมกับทำตัวน่ารักเพื่อจะให้ผู้ใหญ่ตรงหน้าเอ็นดู หญิงสาวมองไปรอบ ๆ บ้านเหมือนกำลังหาใครบางคนอยู่นั่นจึงทำให้หญิงวัยกลางคนรับรู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้กำลังหาใคร
“รายนั้นยังไม่ตื่นเลย คงอีกสักพักนั่นแหละ”
“ผิงคิดถึงเฮียมังกรมากเลยค่ะพอรู้ว่าวันนี้วันหยุดผิงก็เลยรีบมาหา” คำพูดตรง ๆ ของหญิงสาวที่เอ่ยออกไปนั้นมันทำให้เจ๊เกียงยิ้มเอ็นดูก่อนจะพยักหน้า
“ม้า วันนี้มีอะไรกินครับ” ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีในระหว่างที่หญิงวัยกลางคนกำลังนั่งทานข้าวกับเด็กสาวอีกคนอยู่นั้นเสียงของมังกรก็ดังขึ้น ทำเอาคนตัวเล็กที่ได้ยินต่างก็รีบวางช้อนก่อนจะหันหน้าไปยิ้มทักทายชายหนุ่ม
“เฮียมังกร นึกว่าอาทิตย์นี้เฮียจะไม่กลับมาซะแล้ว ดีที่ไอ้จ้อยมันบอกผิงว่าเฮียกลับมาผิงก็เลยรีบมาหาเฮียตั้งแต่เช้า”
“มาหาทำไมไม่ได้อยากเจอซะหน่อย” มังกรที่ได้ยินเสียงใสของหญิงสาวที่เขาไม่ค่อยอยากจะพบเจอเท่าไรนักก็ถึงกับถอนหายใจออกมา
“อย่าใจร้ายสิผิงอุตส่าห์คิดถึงนะ”
“เหอะ ก็ไม่ได้ขอให้คิดถึงหนิ” ชายหนุ่มพูดตอบด้วยสีหน้าบึ้งตึง ถึงแม้เขาจะเอ่ยออกไปอย่างนั้นมันก็ไม่ให้ทำให้ผิงผิงรู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด
“เอาเถอะ มานั่งทานข้าวก่อนอย่าใจร้ายกับน้องเลยลูก” เจ๊เกียงพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของบุตรชาย ตอนนี้ทำเป็นรำคาญแต่ตอนเด็กอะไรก็น้องผิงผิง พอโตเป็นหนุ่มเข้าหน่อยก็เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว อย่าให้เธอเห็นนะว่าพอวันหนึ่งผิงผิงไม่สนใจตัวเองจะมากระวนกระวายใจแทน
พอสิ้นคำพูดของมารดา มังกรก็พ่นลมหายใจออกมาก่อนจะจำใจนั่งลงบนโต๊ะอาหารที่มีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ ผิงผิงยังคงยิ้มหวานให้กับเขาไม่เลิกไม่รู้ผู้หญิงคนนี้จะจ้องมองอะไรเขานัก สภาพเขาในตอนนี้เพิ่งตื่นหัวก็ฟูแต่มาทำเหมือนว่าเขาหน้าตาดีอยู่ได้
“มองอะไร?”
“มองคนหล่อค่ะ ขนาดเพิ่งตื่นเฮียยังหล่อเลย หล่อจนใจผิงละลาย”
“เด็กแก่แดด ยังไม่ขึ้นมหาลัยอะไรก็เอาแต่ตามผู้ชาย”
“โห เฮียทำไมต้องว่า ผิงก็ตามแค่เฮียเนี่ยแหละไม่ไปตามผู้ชายคนไหน ปากร้ายจริง ๆ เลยคนก็อุตส่าห์ชม” หญิงสาวทำหน้ายู่ใส่ไม่ได้จริงจังนัก ภาพที่คนหนึ่งยิ้มแย้มอีกคนหนึ่งเพิ่งตื่นมันทำให้เจ๊เกียงมองพร้อมรอยยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา เวลาผิงผิงมาหาเธอที่บ้านมันทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตไม่ได้เงียบเหงาดี ปกติอยู่กับลูกชายสองคนนึกว่าอยู่ในป่าช้า มังกรเป็นคนไม่ค่อยพูดอะไรมากมายนัก ไม่รู้ว่าที่มหาวิทยาลัยเป็นแบบนี้หรือเปล่า แต่อยู่ที่บ้านไม่ใช่เป็นคนช่างพูดช่างจาอะไร
“ขึ้นมาทำไม ลงไปเลยนะเคยบอกหลายครั้งแล้วว่าไม่ให้ขึ้นห้องนอนเฮีย!” พอหลังจากทานข้าวเสร็จชายหนุ่มก็เอ่ยปากบอกมารดาขอตัวขึ้นห้อง ไม่นานสักเท่าไรนักประตูห้องของเขาก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของผู้หญิงอีกคนที่ยิ้มแฉ่งมาให้พร้อมกับจานผลไม้ที่ถูกปอกไว้อย่างเรียบร้อย
“ผิงขอม้าแล้ว ผิงเอาผลไม้มาให้ค่ะ”
“เลิกเรียกแม่ฉันว่าม้าสักที แม่ฉันไม่ใช่แม่เธอ”
“เดี๋ยวก็ใช่ อีกไม่นานผิงก็จะเป็นลูกสะใภ้ของม้าเฮีย” คำพูดของคนตัวเล็กมันทำให้มังกรถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เพราะวันนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินมัน
“ตื่นสักทีเถอะ ยังไงคนที่จะเป็นเมียฉันต้องไม่ใช่เธอ”
“ผิงไม่ดีตรงไหนเฮีย หน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แถมในหัวใจก็มีแค่เฮียคนเดียว ทำไมต้องผลักไสผิงด้วย!” คนตัวเล็กเริ่มน้อยใจเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายที่บอกว่าไม่มีทางที่เธอจะได้เป็นเมียของเขา
“ไม่พอใจก็กลับบ้านไปฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอจะรู้สึกยังไง แต่ฉันไม่ได้ชอบเธอไม่ได้คิดที่จะเอาเธอมาเป็นเมียด้วยถึงต่อให้เธอตามตื๊อฉันมากแค่ไหนฉันก็ไม่เคยคิดอะไรไปมากกว่าคำว่าน้องสาว”
“ก็ผิงไม่อยากเป็นน้องสาวเฮียอะ ผิงรักเฮีย อยากได้เฮียเป็นแฟน”
“ผิงผิง! หยุดพูดจาไร้สาระ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย เป็นเด็กเป็นเล็กพูดอะไรไม่รู้เรื่อง” มังกรขึ้นเสียงใส่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังทำท่าทีงอแงใส่เขาอย่างนี้ นับวันผิงผิงก็เริ่มหนักข้อขึ้น ถ้าขืนเขายังควบคุมผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีหวังได้ปวดประสาทแน่
“เฮียใจร้ายที่สุด ไล่ผิงอีกแล้ว!” หญิงสาวน้ำตาเอ่อล้นออกมา เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้เยื่อใยของอีกฝ่าย มังกรได้เห็นท่าทางของคนตัวเล็กก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอ ทำให้ผิงผิงจำใจเดินออกไปจากห้องนอนเขาไป ไม่ลืมที่จะวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะเสียงดังลั่น