4
“นี่พ่อจะหลงเชื่อนังจิ้งจอกเก้าหางอีกแล้วเหรอคะ”
“หุบปาเดี๋ยวนี้นะนังลูกเลว”
“พ่อกล้าด่าหนูขนาดนี้เลยเหรอคะ” พิมาลินเอ่ยถามอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ ไม่คิดว่าบิดาจะหลงมารดาเลี้ยงขนาดนี้
“ก็ฉันเห็นว่าแกทำร้ายตบตีเมียของฉัน แกมีอะไรจะแก้ตัวไหม”
“ลินทำจริง แต่มันบอกไม่ให้ลินเรียนต่อ” พิมาลินคิดว่าการพูดความจริงจะทำให้บิดาตาสว่างสักที การเรียนสำคัญ ไม่ให้เรียนต่อเธอก็จะกลายเป็นคนไร้การศึกษาน่ะสิ ต่อไปจะไปสู้อะไรกับใครเขาได้
“ฉันเองก็จะพูดเรื่องนี้กับแกอยู่เหมือนกัน”
“พูดเรื่องนี้ เรื่องอะไรคะ” พิมาลินเอ่ยถามด้วยหัวใจเต้นระทึก อย่าบอกนะว่า...
“ฉันอยากให้แกหยุดเรียนไปสักปี ไร่ของเรากำลังประสบปัญหาทางการเงิน การเรียนของแกจะยิ่งเป็นภาระ”
“คุณพ่อจะไม่ให้หนูเรียนต่อเหรอคะ”
“แกฟังภาษาคนรู้เรื่องไหม ฉันหมายถึงจะให้แกหยุดเรียนแค่ปีเดียว แล้วค่อยไปเรียนต่ออีกทีปีหน้า ตอนนี้แกอยากเรียนอะไรก็อ่านหนังสือรอสอบไปก่อน” พิมาลินตกใจ หันไปมองมารดาเลี้ยงกับลูกติดของนางแล้วก็เห็นสีหน้าท่าทีเยาะเย้ยส่งมาให้
“เป็นความคิดของนังปีศาจนี่ใช่ไหม นังหน้าด้านชอบแย่งของคนอื่น ชอบแย่งผัวคนอื่น” พิมาลินตรงเข้าไปจิกผมของดาวาดในทันที พิรัชต์ตกใจรีบผลักลูกสาวออกไปจนกระเด็น
“นี่คุณพ่อผลักหนูเหรอคะ”
“ก็แกทำร้ายเมียของฉัน ดาวาดเขาทำอะไรให้แกนักหนา แกถึงทำร้ายเขาขนาดนี้ เขาไม่เคยสู้แกเลย มีแต่แกที่ทำร้ายเขาฝ่ายเดียว นี่เขาก็ยืนนิ่ง ปัดป้องก็ไม่ทำ แกยังจะทำร้ายคนไม่สู้ได้อีกเหรอ ที่สำคัญเขาไม่ได้แย่งผัวใคร ฉันโสดเพราะแม่ของแกตายไปตั้งนานแล้ว ถ้าฉันจะแต่งงานใหม่ก็ไม่แปลก แกมันตัวกาลกิณี พอแม่ของแกคลอดแกได้ไม่นานแม่ของแกก็ตาย ไร่ของฉันก็ประสบปัญหาทางการเงิน ตัวซวยจริง ๆ เลย” พิมาลินช็อกไปกับสิ่งที่บิดาด่าทอ
“ต่อหน้าคุณพ่อไง มันเลยยืนนิ่ง ลับหลังมันไม่ได้เป็นแบบนี้”
“หยุดเถอะ พอสักที ถ้าฉันเชื่อแกก็คงออกลูกเป็นควาย ฉันมีสมอง ฉันโตแล้ว เกิดก่อนแก อาบน้ำร้อนมาก่อน ฉันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
“ถึงลินจะเกิดหลังก็รู้ค่ะว่าอะไรเป็นอะไร นังนี่มันยุยงปั่นหัวคุณพ่อไม่ให้ลินเรียน พอปีหน้าก็มีปัญหาอย่างอื่นอีก สุดท้ายลินก็ไม่ได้เรียน กลายเป็นคนไร้การศึกษา จะหางานทำ สมัครงานอะไรที่ไหนก็ไม่มีใครรับ นังเมียใหม่ของคุณพ่อต้องการแบบนั้นหนูรู้”
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ เขาไม่ได้พูดอะไรเลยสักอย่าง ฉันคิดเองตัดสินใจเอง และที่ฉันรู้ว่าเขาไม่เคยโต้ตอบแกเลย มีแต่แกที่ทำร้ายเขาเพราะฉันถามคนอื่นเอา ไม่ใช่ถามเขา เขาน่ะไม่เคยพูดไม่ดีหรือว่าร้ายอะไรแกเลย มีแต่จะปกป้องแก แกฟังเอาไว้ให้ดี ๆ ว่าเขาเป็นเมียฉัน ถ้าต่อจากนี้ไปแกทำร้ายเขาอีก ฉันจะไม่ให้เงินแกเลยสักบาท” พิรัชต์จิ้มหน้าผากของบุตรสาวแรง ๆ จนหน้าหัน พิมาลินน้ำตาซึม ก่อนจะปาดน้ำตาทิ้ง เธอจะไม่มีวันร้องไห้เสียใจให้สองแม่ลูกหัวเราะเยาะเอาได้อีก
“แกจะไสหัวไปไหนก็ไสหัวไปเลย แล้วก็หัดทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้าง ไม่ใช่วัน ๆ ตะลอน ๆ ออกไปหาแต่ผู้ชาย คนอื่นเขาทำงานกันงก ๆ แต่แกทำตัวไร้สาระ ฉันขอเตือนแกอีกครั้งว่า ถึงแม้สิงห์จะเป็นคู่หมั้นแก แต่ถ้าแกทำตัวไม่เหมาะสม เขาก็ถอนหมั้นกับแกได้” พิรัชต์เอ่ยขึ้นอย่างเอือมระอา ก่อนจะประคองภรรยาเดินจากไป โดยมีกชกรหันมามองอย่างเยาะเย้ย เหยียดปากอย่างสะใจ
พิมาลินได้แต่ยืนอึ้ง กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอด้วยความรู้สึกอดสู เธอไม่เคยดีเลยในสายตาบิดา ยิ่งมารดาเลี้ยงยุยงส่งเสริม เธอยิ่งกลายเป็นลูกเลวในสายตาของท่าน
เด็กสาวเข้าห้องแล้วร้องไห้ด้วยความทุกข์ใจแสนสาหัส เธอทั้งเจ็บใจทั้งเสียใจที่บิดาไม่เคยคิดเข้าข้างเธอเลย ท่านเข้าข้างแต่มารดาเลี้ยงเพียงคนเดียวเท่านั้น
“คุณเป็นยังไงบ้าง” พิรัชต์เอ่ยถามภรรยาขณะพามานั่งที่สวนหลังบ้าน เพื่อให้อีกฝ่ายได้ผ่อนคลาย โดยมีกชกรตามมาด้วยเพื่อคอยยุแยงตะแคงรั่วเช่นเดิม
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แต่คุณไม่น่าไปด่าว่ายายหนูลินแบบนั้นเลยนะคะ คุณทำแบบนี้ ยายหนูลินจะยิ่งเกลียดดานะคะ”
“ผมทนให้ลูกสาวของผมทำร้ายคุณแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วนะดาวาด ผมเป็นสามีก็ต้องปกป้องคุณ”
“แต่ยายหนูลินก็เป็นลูกของคุณนะคะ”
“คุณแม่น่ะ เป็นคนดีแบบนี้ไง เลยโดนพิมาลินทำร้ายสารพัดเวลาอยู่ลับหลังคุณลุงก็มีแต่จะโดนรังแก อย่าหาว่าบัวก้าวก่ายเลยนะคะ แต่คุณแม่เป็นแม่ของบัว แม่ของบัวบัวก็รัก ไม่อยากให้ใครมาทำร้าย” กชกรคอยเสี้ยมคอยบอกว่าพิมาลินทำร้ายมารดาเช่นไร และพิรัชต์เองก็เชื่อ เพราะแอบถามสาวใช้ทั้งสองก็บอกตรงกัน ในขณะที่ดาวาดบอกเขาเสมอว่าพิมิลินไม่ได้ทำอะไร
“คุณอย่าปกป้องนังลูกเวรนั่นเลย วัน ๆ ก่อแต่ปัญหา กับนายสิงห์ก็เหมือนกัน ผมเห็นเขาทำหน้าเอือมระอายายลินตลอด เวลาเจอหน้ากัน ดีไม่ดีเขาจะถอนหมั้นเอา ชอบไปอาละวาดผู้หญิงที่มาคุยกับนายสิงห์ หาว่าจะมาจับคู่หมั้นตัวเองทำผัว ประสาทแบบนี้ใครจะเอาทำเมีย”
ประโยคนั้นของพิรัชต์ทำให้พิมาลินที่ค่อย ๆ ออกมาจากห้องเพื่อแอบฟังต้องอุดปากตัวเองเอาไว้เพื่อไม่ให้ร้องไห้ออกมา
สิงห์เป็นคู่หมั้นของเธอ เธอก็ย่อมหวงเขาเป็นธรรมดา เธอเห็นว่าผู้หญิงพวกนั้นมายุ่ง มาทอดสะพานให้ เธอก็ย่อมที่จะหึง เธอผิดหรือไงที่หวงผู้ชายที่รักและผู้ชายคนนั้นก็เป็นคู่หมั้นของตัวเอง
“แล้วถ้าเกิดคุณสิงห์เขาถอนหมั้นกับพิมาลินจริง ๆ คุณลุงจะยอมเหรอคะ เท่ากับเป็นหม้ายขันหมากเลยนะคะ” กชกรแกล้งถามอย่างอยากรู้ เพราะเธออยากได้สิงห์ เธอหมายตาสิงห์เอาไว้ตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก
ผู้ชายคนนี้เธอจะเอามาเป็นผัวให้ได้ สิงห์ร่ำรวยและหล่อเหลา ใครได้เป็นเมียของเขาคงสบายและโชคดีไปทั้งชาติ
“ถ้าสิงห์ต้องการแบบนั้น ลุงก็คงขัดไม่ได้ เพราะตอนหมั้นหมายกัน แม่ของสิงห์กับแม่ของยายลินเขาหมั้นกันเอาเอง ลูก ๆ ไม่ได้รับรู้อะไร ถ้าจะถอนหมั้นกันเพราะไปกันไม่รอด ลุงก็คงบังคับอะไรไม่ได้ เพราะยุคสมัยนี้ไม่มีใครเขาคลุมถุงชนกันแล้ว” ประโยคของบิดาทำให้พิมาลินที่แอบฟังอยู่ใจหายวาบ
ตอนนี้สิงห์เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ แม้เขาจะมีท่าทีรำคาญไปบ้าง แต่เช่นไรเธอก็ยังพึ่งพิงเขาได้บ้าง ไม่เหมือนบิดาที่พึ่งพิงอะไรไม่ได้เลย
หัวใจของเด็กสาวรู้สึกหวาดหวั่นยิ่งนัก เธอเสียบิดาให้นังปีศาจร้ายอย่างดาวาดไปแล้ว เธอจะไม่มีวันเสียคู่หมั้นที่เธอรักไปให้กชกรอีกเด็ดขาด
ทำไมเธอจะไม่รู้ว่ากชกรคิดเช่นไรกับสิงห์ แค่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าหล่อนพึงพอใจสิงห์เหลือล้น
ความน้อยใจของเธอเกิดจากครอบครัว เกิดจากบิดาเป็นหลัก ท่านไม่ค่อยรักเธอตั้งแต่เล็ก บางครั้งเธอก็เคยคิดว่าตัวเองอาจจะไม่ใช่ลูกของท่านก็เป็นได้
อาหารมื้อเย็นตั้งโต๊ะเวลาหนึ่งทุ่ม พิมาลินไม่อยากไปร่วมโต๊ะอาหารกับคนตีสองหน้าอย่างสองแม่ลูกหรอก แต่เธอก็อยากจะรู้ว่าสองแม่ลูกจะเล่นละครอะไรอีก บ้านนี้เป็นบ้านของพ่อเธอ ทำไมเธอต้องกลัวนังสองคนนั่นด้วย
พอไปถึงโต๊ะอาหาร เธอก็เหมือนคนนอก เหมือนหมาตัวหนึ่ง ไม่มีใครสนใจเธอเลย นอกจากคำเหน็บแนมจากบิดา