1
เสียงร้องไห้โยเยของเด็กน้อยดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พี่เลี้ยงสาวถึงกับมองอย่างสงสาร
“โธ่คุณหนูดารินไม่ร้องไห้นะคะ” พี่เลี้ยงสาวคนสวยอุ้มเด็กน้อยขึ้น พลางโยกร่างไปมาเพื่อกล่อมให้หยุดร้องไห้
แก้วกาญจน์พอจะรู้เรื่องราวความบาดหมางที่เกิดขึ้นในครอบครัวของดาริน
ดารินเป็นลูกเมียน้อยมาก่อน พอมารดาได้เข้ามาเป็นเมียจริงๆ ก็ทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้ ก่อนจะจากโลกนี้ไป โดยทิ้งความเกลียดชังเอาไว้กับเด็กน้อย
เธอเลี้ยงดารินด้วยความสงสาร เด็กน้อยมองพี่ ๆ เล่นกัน ยกมือขึ้นอยากจะให้อุ้มให้เล่นด้วย แต่ไม่ใคร่จะมีใครสนใจ
ความรู้สึกอ้างว้างนั้นยิ่งทบทวีขึ้นไปอีกเมื่อโยธินซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายและเป็นญาติห่าง ๆ ของดาริน ตัดสินใจส่งดารินไปอยู่โรงเรียนประจำ ด้วยเหตุผลที่ว่าดารินมักมีปัญหากับมิรินผู้เป็นพี่สาว อยากได้อยากมี และชอบแย่งของเล่นพี่สาวตั้งแต่เด็ก
ดารินแค่ต้องการมีตัวตน อยากให้เฮียทั้งสามรักและดูแลเธอเหมือนมิรินผู้เป็นพี่สาวบ้าง แต่ทุกคนก็รักเธอน้อยกว่ามิริน
มิรินเป็นเด็กดี ในขณะที่เธอถูกหาว่าเป็นเด็กนิสัยเสีย
ดารินรู้สึกหงอยเหงาเมื่อถูกส่งมาอยู่โรงเรียนประจำ ไม่มีใครอยากมาเยี่ยมเธอ ทุกคนทำเหมือนลืมเธอไปหมด เธอเหมือนคนไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้
ความรู้สึกของเด็กสาวคืออยากให้เฮียทั้งสามหันมาสนใจ เธอเลยคิดว่าหากต้องการให้เฮียทั้งสามหันมาเห็นว่าตัวเองมีตัวตนคือการทำอะไรก็ได้ให้มีเรื่องมีราวเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือไม่ดีก็ช่าง แต่ขอแค่ให้หันมาสนใจก็พอแล้ว
ดารินเริ่มทำตัวเหลวไหล จนต้องถูกเชิญผู้ปกครองบ่อยครั้ง คราแรกคนที่มาคือโยธิน เพราะเป็นพี่ชายโดยชอบธรรม แต่หลัง ๆ โยธินก็ส่งพายุมาแทน
“แกไปก็แล้วกัน เฮียไม่อยากเห็นหน้าเด็กเหลือขอ” โยธินเรียกดารินว่าเด็กเหลือขอ เพราะสร้างแต่เรื่อง ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบแย่งของเล่นและทำร้ายมิริน หยิกบ้าง จิกผมบ้าง
ได้เชื้อแม่มาไม่มีผิด! นั่นคือประโยคของโยธิน
“ทำไมต้องเป็นผมด้วยเฮีย” พายุทำหน้าเบื่อหน่าย
“เฮียให้แกไปเพราะแกน่าจะใจเย็นกว่าเฮีย เฮียเห็นหน้ามันไม่ได้จะหักคอมันตายคามือเสียก่อน” โยธินพูดอย่างโมโห
“เฮียใจเย็น ๆ ก่อน” อัสนีเอ่ยกับพี่ชายให้ใจเย็น ๆ เขาเองก็สงสารดารินไม่น้อย เพราะโตมาแบบที่ไม่มีใครต้องการ จริง ๆ พวกเขาก็รักดาริน แต่ความลำเอียงที่รักมิรินมากกว่าก็มีบ้าง อาจเพราะดารินเป็นลูกสาวของดรุณี หญิงสาวที่เข้ามาทำลายชีวิตครอบครัวของมิริน แถมยังเป็นสาเหตุให้มัสลินตรอมใจตาย เด็กไม่รู้อะไรย่อมไม่ผิด แต่มันก็ยากที่จะทำใจยอมรับได้ ให้รักเท่ามิรินยิ่งทำไม่ได้ด้วย แต่ก็ดูแลมาอย่างดี
ในตอนนั้นดรุณีคิดจะฆ่ามิริน ถึงขนาดพาไปทิ้งในป่า ดีที่เจ้ามูมู่ดมกลิ่นหามิรินจนเจอ ไม่เช่นนั้นมิรินคงจะตายไปแล้ว
ความเลวร้ายนี้ทำให้โยธินยิ่งปักใจเชื่อว่าดารินจะเหมือนแม่ เชื้อไม่ทิ้งแถว สายเลือดเดียวกันย่อมที่จะร้ายกาจและเลือดเย็นเหมือนกัน
“นี่ก็ใจเย็นที่สุดแล้ว อุตส่าห์ส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ นึกว่านิสัยเสียๆ จะดีขึ้น แต่กลับแย่ลง มีปัญหากับเพื่อน กับครู ผลการเรียนก็ตกต่ำ ถ้ามันเรียนไม่จบก็ช่างหัวมัน ให้มันมาทำงานเป็นคนงานในไร่แล้วกัน” โยธินโวยวายตามประสา ก่อนจะเดินหนีเข้าไร่ไป ทิ้งให้พายุกับอัสนีมองหน้ากันอย่างหนักใจ
พายุขับรถไปหาเด็กสาวที่โรงเรียนประจำ เขาจึงได้รับฟังวีรกรรมวีรเวรมากมายของเธอในโรงเรียน
“ดารินเป็นเด็กก้าวร้าว มีปัญหาทะเลาะกับเพื่อน จิกหัวเพื่อนตบ แถมยังเอาหัวเพื่อนไปโขกกับผนังห้องอีก ผลการเรียนก็ตกต่ำ อาจจะซ้ำชั้นก็ได้นะคะ” พายุได้ฟังครูประจำชั้นเล่าเหตุการณ์แล้วถึงกับหนักใจ ถอนใจออกมาอย่างหนักหน่วง
“ต้องซ้ำชั้นเลยเหรอครับ”
“แค่อาจจะ ถ้าทำงานชดเชยและสอบแก้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ตอนเข้ามาเรียนแรกๆ ผลการเรียนก็ดีนะคะ แต่ทำไมยิ่งเรียนยิ่งแย่ก็ไม่รู้”
“ผมขอเจอกับน้องสาวของผมหน่อยจะได้ไหมครับ”
“ได้สิคะ” ครูประจำชั้นให้คนไปตามดารินมาเจอกับพายุ และปล่อยให้ทั้งสองได้คุยกันตามสะดวก
“ทำไมผลการเรียนแย่ขนาดนี้” พายุเอ่ยถามเด็กสาว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยพอสมควร
"เฮียคงเหนื่อยมากกว่าจะขับรถมาถึงโรงเรียน” ดารินเอ่ยถาม เธอนั่งมองสนามกีฬาเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ประโยคคำถามของพายุทำให้ดารินหัวเราะออกมาเบาๆ
“หัวเราะอะไร”
“เฮียสนใจด้วยเหรอคะว่ารินจะมีปัญหาอะไร”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ”
“ก็เฮียไม่เคยรักรินเหมือนพี่มิ นี่เฮียโยก็คงเกลียดขี้หน้าริน เลยไม่อยากมาหา เลยใช้ให้เฮียพันมาแทน” ดารินพูดอย่างน้อยใจ
“ทำไมถึงต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับมิรินด้วย”
“ก็เฮียทุกคนรักพี่มิ”
“เธอเป็นน้องสาวของมิริน เป็นพี่น้องต้องรักกัน ไม่ควรอิจฉากัน”
“ก็มันน่าอิจฉาไหมล่ะคะ พี่มิได้ทุกอย่าง ทั้งความรักความเอาใจใส่ แต่รินเหมือนคนนอก”
“ก็เลยทำตัวแบบนี้น่ะเหรอ ยิ่งทำตัวแบบนี้จะยิ่งไม่มีใครเอา”