2
ร่างของเธอถูกกดไปกับพื้นหญ้าอันอ่อนนุ่ม แต่สัมผัสของเขาช่างรุกเร้ารุนแรง มือหนาแหวกเรียวขาของเธอออกจากกันจนกว้าง ก่อนที่ความเป็นชายจะสอดแทรกเข้าหาจนมิดเม้น
รวิดาร้องครางเสียงหลงยามที่ร่างกายของเขาฝากฝังเข้าหา เธอใช้มือดันหน้าท้องแกร่งของเขาเอาไว้เพื่อให้เขาลดทอนความรุนแรงลงบ้าง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะทำให้เขาขัดใจ
ถิ่นปัดมือของเธอออก เขากระแทกกายเข้าหาจนร่างของเธอสั่นคลอนอย่างรุนแรง เขาใจร้ายกับเธอเสมอ ไร้ความปรานีและไม่เคยเห็นใจแม้เพียงเศษเสี้ยวก็ไม่มี
“อย่าคิดว่าฉันจะพิศวาสอะไรเธอนักเลย” เขาใช้มือบีบคอสวยของเธอกดไปกับพื้นหญ้า เส้นผมนุ่มสลวยของเธอกระจุยกระจายจนดูยุ่งเหยิงไปหมด
“เฮีย!” เธอร้องครางประท้วง ดันมือของเขาออกห่าง หอบหายใจอย่างหวาดกลัว
“กลัวเหรอ” ถิ่นจับร่างของเธอกดไปกับพื้นแล้วกระแทกกระทั้นอย่างไม่ปรานี ก่อนที่จะเสร็จสมอารมณ์หมาย
“เฮียไม่ป้องกัน” เธอพูดเสียงแผ่วเครือเหมือนจะขาดใจ หลังจากที่เขาขยับร่างออกจากร่างกายของเธอเรียบร้อยแล้ว
ถิ่นไม่ตอบว่ากระไร เขาไม่สนใจไยดีน้องสาวของคนที่หักหลังเขาอยู่แล้ว ร่างสูงจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ในขณะที่รวิดาติดกระดุมเสื้อผ้าด้วยมืออันสั่นเทา
“ลีลาแบบนี้นอนจนฉันเบื่อก็ใช้หนี้ไม่หมด” เขายังพูดให้เธอเสียใจได้ซ้ำๆ
“อุ๊ย! เฮีย” เธอร้องเมื่อเขากระแขนให้เธอลุก
“เฮียจะพารวิไปไหนคะ” เธอเอ่ยถามอย่างตกใจเมื่อโดนกระชากร่างให้เดินตามไปจนขาขวิด
“มีคนต่อยกันแย่งเธอ ฉันเลยคิดว่าใครชนะฉันจะยกเธอให้พวกมัน เธอว่าดีไหม” ประโยคของเขาทำให้เธอตาโตตกใจยิ่งนัก เขาคงไม่คิดจะทำแบบนั้นจริงๆ ใช่ไหม
รวิดาหวาดกลัวจับใจเมื่อเขาดึงเธอมาที่ลานประลองหย่อมๆ เธอพยายามดิ้นรนเขาก็กระชากเธอขึ้นไปบนเวที กอดรัดเธอเอาไว้ด้วยท่าทีหยาบคาย
“ใครอยากได้หล่อนก็ต่อสู้กันอย่างลูกผู้ชายเลย ฉันยกให้” ประโยคนั้นทำให้เสียงฮือฮาของลูกน้องดังขึ้น เธอเห็นว่าบางคนบาดเจ็บจากการชกต่อยกัน และเห็นสีหน้าโกรธจัดของถิ่น
รวิดาไม่รู้เลยสักนิดว่าทำไมลูกน้องของถิ่นถึงได้ต่อยกันเพื่อแย่งเธอ ไม่รู้เลยว่าใครปล่อยข่าวอะไรทำให้ถูกเข้าใจผิดแบบนี้
เด็กสาวเพียงแค่คิดว่าเธออยู่ของเธอดีๆ ทำไมต้องมีคนมาต่อสู้แย่งชิงเธอกันด้วย และไม่คิดว่าถิ่นจะโละเธอให้ลูกน้องของเขาอย่างเลือดเย็น แค่คิดถึงความใจร้ายของถิ่น เธอก็รู้สึกหวาดกลัวจนฟันกระทบกันกึกๆ
“เฮีย รวิขอร้องเถอะค่ะ อย่าทำแบบนี้เลย ถ้าเฮียไม่ต้องการรวิก็อย่ายกรวิให้ใครเลย” เธอเอ่ยขอร้องเขา ยกมือไหว้ปลกๆ น้ำตานองหน้า
“ไม่ดีใจหรือไงที่มีผู้ชายแย่งเธอแบบนี้ ฉันว่าดีออก มันทำให้เธอดูมีคุณค่าขึ้นมาบ้างนะ ซึ่งปกติแล้ว ฉันไม่เห็นคุณค่าอะไรในตัวเธอเลยสักนิด” เขาพูดเสียงเยาะหยันให้เธอเจ็บแสบหัวใจ
รวิดารู้สึกยอกแสลงในอก เธอไร้ค่าในสายตาของเขาเธอรู้ดี แต่ไม่จำเป็นต้องตอกย้ำขนาดนี้ก็ได้
ถิ่นดึงร่างของเธอไปนั่งบนตัก รวิดาพยายามดิ้น เขาก็กักกอดเอาไว้ สายตาหื่นกระหายของลูกน้องหลายคนทำให้เธอตัวสั่นระริกจนฟันกระทบกัน
“ต่อสู้กันจนเหลือคนเดียว แล้วฉันจะยกผู้หญิงคนนี้ให้ ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นของใคร คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์” คำประกาศิตนั้นทำให้ทุกคนรับรู้แบบไม่ต้องให้พูดซ้ำ
การประลองที่เกิดขึ้น สร้างความบันเทิงให้ถิ่นไม่น้อย ในขณะที่รวิดารู้สึกหวาดวิตกแทบนั่งไม่ติด
ถิ่นยกเหล้ากลั่นดีกรีร้อนแรงขึ้นมาดื่มไปพร้อมกับการมองลูกน้องต่อสู้กัน
“เฮียคะ”
“อะไร” น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยถาม ทำให้คนถามถึงกับสะดุ้ง
“เฮียจะยกรวิให้ลูกน้องจริงๆ เหรอคะ” เอ่ยถามเสียงสั่น น้ำตาจวนเจียนจะไหลอีกครั้ง แต่เธอก็กลั้นมันเอาไว้อย่างเต็มกำลัง
“ฉันพูดคำไหนคำนั้น วันนี้ใครชนะ ฉันจะยกเธอให้คนคนนั้น และหลังจากวันนี้จะไม่มีใครมายุ่งกับเธออีก นอกจากคนที่ชนะการต่อสู้ในครั้งนี้เท่านั้น” คำตอบของถิ่นทำให้เธอต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม
ผลการประลองคู่แล้วคู่แล้ว ผ่านพ้นไปจนเหลือคนสุดท้ายที่เหลือรอดนั่นก็คือคม ชายหนุ่มเลือดท่วมกาย เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเจ้านายหนุ่มอย่างผู้มีชัย
“เก่งมากๆ เลยคม ถ้านายชนะฉันได้ ฉันยกผู้หญิงคนนี้ให้นาย” รวิดากะพริบตาปริบๆ ที่ได้ยินประโยคนั้นจากถิ่น เขายกร่างของเธอที่นั่งตักขึ้นแล้วกดให้นั่งลงใกล้ๆ ก่อนที่จะยืนขึ้นเต็มความสูง
ถิ่นสูงมาก เขาสูงถึงร้อยเก้าสิบเซนติเมตร เกินมาตรฐานชายไทยเสียด้วยซ้ำ
ถิ่นเป็นคนรูปร่างกำยำแข็งแรง เป็นที่ยำเกรงของลูกน้อง เขามีทั้งพระเดชและพระคุณ จึงไม่มีใครกล้าขัดคำประกาศิตของเขา
รวิดานั่งมองการต่อสู้อย่างลุ้นระทึก เธอยอมรับว่าอยากให้ถิ่นชนะ
ใช่แล้ว... มันมีเพียงเหตุผลเดียวคือเธอไม่อยากตกเป็นของใครอีกนอกจากเขา
เธอแอบรักเขามานานแล้ว ตั้งแต่ที่พี่ชายของเธอยังเป็นลูกน้องอยู่กับเขา แต่รวิกรเป็นมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง เพราะพี่ชายของเธอมีอีกสถานะคือเพื่อน
เธอได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกแอบรักนั้นเอาไว้ภายในหัวใจ มีเพียงเหตุผลเดียวก็คือเขามีคนรักอยู่แล้ว และมี แพลนจะแต่งงานอีกด้วย
ถิ่นมีฝีไม้ลายมือการต่อสู้ไม่แพ้ใคร ที่สำคัญก็คือคมบาดเจ็บพอสมควร การต่อสู้ในครั้งนี้จึงทำให้ถิ่นชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
เขาประกาศกร้าวว่าใครอยากได้ผู้หญิงคนนี้ก็ต้องเอาชนะเขาให้ได้ก่อน รวิดาไม่รู้ว่าเธอจะรู้สึกเช่นไรดีในเวลานี้
ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาปกป้องเธอ ไม่อยากให้ความหวังกับตัวเองเพราะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
“อย่าหลงดีใจไปว่าฉันหวงแหนอะไรเธอ แค่ฉันไม่อยากให้ใครมาลูบคม ถ้าฉันยังไม่เบื่อโละเธอทิ้ง ใครก็เอาเธอไปไม่ได้ทั้งนั้น” ประโยคเชือดเฉือนของเขาทำให้เธอเจ็บลึกในอก
ใช่แล้ว... ที่เขาทำไปทั้งหมดเพราะแค่ต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองไม่อยากให้ใครมาหยามได้ง่ายๆ เธอเป็นผู้หญิงของเขา อยู่ในฐานะนางบำเรอ เขายังไม่เบื่อใครก็เอาเธอไปไม่ได้
“ไปทำอีท่าไหนล่ะ ผู้ชายถึงแย่งกัน” เขาเหยียดยิ้มมองเธออย่างดูถูก
“รวิเปล่าค่ะ”
“อย่านึกว่าฉันไม่เห็นว่าเธออ่อยคนงานในไร่ของฉัน อยากให้พวกมันพะเน้าพะนอก็รอให้ฉันโละเธอทิ้งก่อน ถ้าฉันยังไม่เบื่อก็อย่าริจะมีผัวใหม่” เขากระชากร่างของเธอให้เดินตามกลับไปที่บ้านพัก
บ้านเรือนไทยหลังใหญ่ของเขาทำจากไม้สักทั้งหลัง รอบข้างเต็มไปด้วยต้นไม้ที่มีร่มเงา ไร่ของเขากว้างใหญ่ไพศาล และถึงแม้พี่ชายของเธอจะยักยอกเงินของเขาไปเยอะ แต่เขาก็ยังร่ำรวย ในขณะที่ครอบครัวของเธอแทบจะสู้อะไรเขาไม่ได้เลย
บิดามารดาของเธอเสียชีวิตหมดแล้ว เหลือแค่พี่ชายเพียงคนเดียว จะยังไงเธอก็รักรวิกรในฐานะที่เขาเป็นพี่ชายของเธอเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามที
รวิกรดูแลเธอตามอรรถภาพ เขาอาจจะไม่ใช่พี่ชายที่ดีนัก แต่ในเมื่อเขาเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ เธอก็ยังรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่คิดว่ายังมีพี่ชายหลงเหลืออยู่
“รวิรู้สถานะตัวเองดีค่ะว่าไร้ค่าสำหรับเฮียถิ่นแค่ไหน” เธอพูดอย่างชอกช้ำระกำใจ
“รู้แบบนี้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง เห็นว่าตัวเองสำคัญเหนือกว่าคนอื่นจนวางอำนาจบาตรใหญ่”
วางอำนาจบาตรใหญ่!!!
เธอได้แต่อุทานเสียงดังอยู่ในอก เธอนี่เหรอจะกล้าวางอำนาจบาตรใหญ่กับใคร ทุกวันนี้ก็ทำตัวลีบเล็กเสียยิ่งกว่าอะไร
“เฮียหิวหรือยังคะ รวิจะทำกับข้าวอร่อยๆ ให้กิน”
“ไม่ต้องเอาใจฉันขนาดนั้นก็ได้ เพราะยังไงฉันก็ไม่ให้อภัยคนที่ทรยศหักหลังฉันหรอก พี่ชายของเธอจะต้องชดใช้อย่างสาสม” ถิ่นดึงร่างของเด็กสาวมาหา มองเธอด้วยสายตาดุดัน