1
ถิ่นจ้องมองร่างน้อยที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนกว้าง เขาถลกผ้าห่มที่คลุมกายของเธอออก พบว่าร่างน้อยของเธอเปลือยเปล่า ไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม เขาจึงซุกไซ้เข้าหา ลามเลียซอกขาด้านในและร่องสวาทของเธอ
เธอบิดกายเร่าๆ ร้องครางด้วยความเสียวซ่าน จิกมือกับผ้าปูเตียงแน่น ถิ่นเลียร่องเยิ้มแดงฉ่ำของเด็กสาวหนักขึ้น จนเธอต้องลืมตาตื่น
เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง เมื่อเธอตื่นและพร้อมจะดิ้นอยู่ใต้ร่างของเขา เขาก็แยกขาของเธอออกแบบที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ประคองแก่นกายชายเสียดสีกับปากถ้ำสวาทและกดเข้าไปอย่างล้ำลึกมิดเม้น
“อ๊า... เฮีย” รวิดาร้องครางเสียงหลงเมื่อท่อนกายอวบใหญ่ฝากฝังเข้ามาในร่องจนมิดโคน เธออ้าปากค้าง ทั้งเสียวทั้งแน่นไปหมดทั้งร่อง
“เฮีย... พอก่อนค่ะ” รวิดาร้องประท้วง เธอเพิ่งได้นอนไปเอง เขาก็จะเอาเธออีกแล้ว ตั้งแต่ที่พี่ชายของเธอคดโกงเขา เพราะพี่ชายทำงานให้เขา เขาก็เปลี่ยนไป จากพี่ชายที่แสนใจดีกลายเป็นพี่ชายที่สุดแสนจะใจร้าย
พี่ชายของเธอหนีไป พร้อมด้วยการหอบเงินไปก้อนใหญ่ ถิ่นโกรธมาก เขาจึงมาลงเอากับเธอ รวิกรพี่ชายของเธอทิ้งเธอเอาไว้ให้คอยแบกรับภาระหนี้สินทั้งหมด
รวิดาดันหน้าท้องแกร่งของเขาเอาไว้ แต่ถิ่นไม่ได้สนใจ เขาปัดมือของเธอออก พร้อมกดไปกับที่นอนกว้าง อันเป็นสมรภูมิรักที่เขาทำกับเธอตั้งแต่วันแรกที่พาเธอมาอยู่ด้วยกันที่ไร่แห่งนี้
ร่างน้อยของรวิดาสั่นคลอนไปตามแรงโยกของกายหนานัก ถิ่นไม่ได้สนใจว่าเธอจะรู้สึกเช่นไร สิ่งที่เขาปรารถนาในเวลานี้คือการได้แก้แค้น และเสร็จสมอารมณ์หมายกับร่างของน้องสาวอดีตเพื่อนรักที่โกงเงินเขาไม่พอยังพาคนรักของเขาหนีหายไปด้วยกัน
หนีตามกันไปอย่างไม่ละอายใจ ทรยศหักหลังและสารเลวที่สุด!!!
ถิ่นกระแทกกระทั้นจนร่างน้อยร้องครางสุดเสียง เธอครางเสียงหลงแทบจะขาดใจ ก่อนจะเกร็งกระตุกเสร็จสมคาร่างของเขาอย่างรุนแรง
รวิดาร้องครางเสียงสั่น รู้สึกเมื่อยก้นไปหมดเพราะโดนกระแทกข้ามวันข้ามคืนจากเงื้อมือของพี่ชายที่เธอเคยแอบรัก และเขาก็เอ็นดูเธอมากในฐานะที่เธอเป็นน้องสาวของเพื่อนรัก
รวิกรเป็นลูกของคนงานในไร่ของถิ่น แต่เขาเติบโตมาด้วยกัน จนเป็นเถื่อนกัน ถิ่นไม่เคยถือตัว คบกับลูกคนงานได้อย่างถือยศถือศักดิ์ เธอกับรวิกรผู้เป็นพี่ชายเติบโตมาที่ไร่แห่งนี้ จนรวิกรเรียนจบก็กลับมาทำงานช่วยเหลือถิ่นในไร่ ในขณะที่เธอไปศึกษาอยู่ในตัวจังหวัด
“เฮียคะ รวิไม่ไหวแล้วค่ะ” เธอพยายามเอ่ยขอร้องเขา แล้วเขาก็ทำให้เธอกรีดร้องได้ครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะสลบไป
รวิดาพบเจอกับความโหดร้ายเช่นนี้ตลอดหลายวัน เธอสลบไป เขาก็ไม่สนใจยังเฝ้าวนเวียนปลุกเธอด้วยรสสวาทจากกายชายที่แข็งคึกและฝากฝังเข้ามาในร่องจนเธอปวดร้าวไปหมด
รวิดาฟื้นขึ้นมาอีกครั้งจากการลามเลียของปากร้อน เขาเห็นว่าเธอพร้อมก็เอาอีก เธอร้องไห้จนตาบวม กับความโหดร้ายที่เขาทำกับเธอ
คราบคาวโลกีที่เต็มไปหมดตามหน้าขา ทำให้เธอนอนหอบหายใจอย่างอ่อนแรง เขาอุ้มเธอไปอาบน้ำ ความรู้สึกของการได้เจอกับสายน้ำเย็นๆ ทำให้เธอสดชื่น พร้อมๆ กับความปวดแสบไปตามร่องสวาท
เธอกัดฟันยอมรับมันว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ถิ่นเหมือนจะคลายจากความโกรธเกรี้ยวลงไปมากในหลายวันนี้ หลังจากที่เขาได้ระบายอารมณ์กับเธออย่างสาสมใจ
ถิ่นเป็นคนโมโหร้าย เธอรู้ข้อนี้ดี จะโทษเขาคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะพี่ชายของเธอทำร้ายเขาก่อน
“เฮียถิ่นคะ”
“ทำไม” เสียงเย็นชาแข็งกระด้างของเขาทำให้เธอสะดุ้ง ก่อนจะใจกล้ารวบรวมจิตใจเจรจาต่องรองกับเขา
การได้ลุกจากเตียงที่ถูกเขาย่ำยี ได้อาบน้ำอาบท่าและกินอาหารจนอิ่ม ทำให้เธอพอจะมีแรงกายแรงใจขึ้นมาบ้าง
“รวิจะพยายามหาเงินมาใช้หนี้เฮียนะคะ”
“หนี้ของพี่ชายเธอมันหลายล้านเลยนะ ที่สำคัญมันหยามฉันขนาดนี้ พาคนรักของฉันหนีตามไปด้วย” เขากำลังจะแต่งงานกับแก้วตา รวิดารู้ข้อนี้ดี
แก้วตาเองก็เป็นเพียงแค่ลูกสาวคนงานในไร่ ก่อนที่บิดามารดาของเธอจะจากไป ทิ้งให้แก้วตาเป็นกำพร้า แก้วตามีนิสัยอ่อนโยน อ่อนหวาน ทำอาหารเก่ง และกำลังจะเป็นนายผู้หญิงของที่นี่ ถ้าไม่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน เธอเองก็เสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างถิ่น แก้วตาและพี่ชายคนเดียวของเธอ
เธอไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่ารวิกร พี่ชายของเธอจะแอบชอบพอกับแก้วตาจนถึงขั้นหนีตามกันไปแบบนี้
“รวิจะพยายามค่ะ”
“เธอจะทำอะไร เรียนหนังสือยังไม่จบ” ใช่ เธออายุแค่สิบแปด เพิ่งจบมัธยมหกมาหมาดๆ ยังตัดผมสั้นเสมอหูอยู่เลย แถมยังไม่ได้เรียนต่อเพราะพี่ชายทิ้งเธอไปหน้าตาเฉย เขาทิ้งเธอไปกับแก้วตา พี่ชายของเธอเลือกที่จะทิ้งทุกอย่างที่นี่ไปกับผู้หญิงคนนั้น
“รวิคิดว่าจะหางานทำค่ะ” เขาฟังนิ่งเหมือนไม่เชื่อน้ำหน้าอย่างเธอ ก็ใช่น่ะสิ เธอจะไปทำงานอะไรได้ ให้ได้เงินหลักล้านมาปลดหนี้ที่มีอยู่ของพี่ชาย
“แนะให้อีกอย่าง”
“คะ”
“ขายตัวใช้หนี้ฉัน แต่ให้ครั้งละห้าร้อยนะ ลีลาไม่ได้เรื่อง นอนนิ่งเหมือนท่อนไม้” ประโยคของเขาทำให้เธอชาไปหมดทั้งร่าง ไร้ค่าไร้ราคาสำคัญเขา นี่คือสิ่งที่เธอได้ตระหนักในความสัมพันธ์อันแสนเปราะบางของเขา
“รวิทำงานได้ทุกอย่างนะคะ งานบ้านก็ได้ งานในไร่ก็ได้” เธออาสาอย่างอาจหาญ คนอย่างเธอไม่เคยคิดที่จะงอมืองอเท้าอยู่แล้ว
“ก็ดี ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน” เขามองอย่างไม่เชื่อถือ ใบหน้าของเขาเย็นชา และน้ำคำของเขาทำให้เธอจุกไปถึงอก
ถิ่นเป็นคนเย็นชา พูดคำไหนคำนั้นเธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้มีนิสัยสนุกเฮฮาเหมือนพี่ชายของเธอที่ค่อนข้างเจ้าสำราญ ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดมันออกมา เขาก็คิดแบบนั้นจริงๆ
นอกจากงานบ้านงานเรือนแล้ว งานในไร่เธอก็ไม่เกี่ยงงอน เขาไม่ได้สนใจไยดีว่าเธอจะมีชีวิตเช่นไร ขอแค่ทำงานใช้หนี้เป็นพอ หนี้สินที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะจบจะสิ้น
“อุ๊ย! เฮีย มีอะไรคะ” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขากระชากแขนของเธอขึ้นจากการดายหญ้า ใบหน้าของเขาดูไม่สบอารมณ์อะไรสักอย่าง
“เธอจะหว่านเสน่หาไม่เลิกอย่างนั้นเหรอ”
“อะไรกันคะ”
“คนงานในไร่ตีกันแย่งเธอ สรุปว่าไปอ่อยผู้ชายหน้าไหนถึงได้อยากได้เธอทำเมียนัก”
“รวิไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะคะเฮีย”
“อ้อ... เหรอ แสดงว่ามันหาเรื่องต่อยกันเองเพื่อแย่งเธออย่างนั้นเหรอ” เขาทำเสียงเยาะคนตรงหน้า
“รวิ! ว้าย!” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อถูกกดไปกับพื้นหญ้า ร่างหนาหนักของเขาถาโถมลงมาอย่างรุนแรง
“จะดีดดิ้นร้องแรกแหกกระเชอให้คนมาดูว่าเราทำอะไรกันหรือไง หรือเธอชอบโชว์” ถิ่นเอ่ยถามเสียงกร้าว ในขณะที่ซุกไซ้เข้าหาซอกคอของหญิงสาว
“เฮียคะ ตรงนี้ อื้อ... เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้า” เธอร้องบอกเขาอย่างอดสูใจ เขาทำเหมือนกับเธอยิ่งกว่าดอกไม้ริมทาง แต่มันไร้ค่ามากกว่านั้น คิดจะข่มเหงอย่างไรก็ทำได้อย่างใจ เธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ไร้ที่พึ่ง ไม่มีที่ไป ไร้ญาติขาดมิตร เหมือนลูกไก่อยู่ในกำมือของเขา จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด
“เฮียอย่าดูดคะ” เขาดูดซอกคอของเธอ ทำให้เธอต้องร้องประท้วง ขืนเขาทำแบบนี้อีก เธอคงได้อับอายกว่านี้เป็นแน่ เพราะมันจะทิ้งร่องรอยเอาไว้
ถิ่นไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะประท้วงหรือจะเป็นเช่นไร สิ่งเดียวที่เขาต้องการก็คือจัดการน้องสาวคนทรยศให้สาสม
รวิดาขัดขืนในคราแรก ก่อนที่เธอจะเริ่มอ่อนระทวย มือหนาหยาบกร้านของถิ่นลูบไล้ไปทั่วผิวกายผุดผ่องของเด็กสาว เธอสะท้านทุกครั้งที่เขาลากมือผ่าน พร้อมทั้งริมฝีปากร้อนที่ขบเม้มไปทั่ว