บทที่ 5
เมื่อปากนุ่มๆ อุ่นๆ นั้นแตะมาก่อนที่ปากเขา คาเครุก็ถือว่าเธอได้ก้าวพ้นเส้นที่เขาขีดไว้ เขาบดปากเคล้าคลึงริมฝีปากนั้นจนเผยแย้มความหวานฉ่ำเพื่อเขา เสียงครางเบาๆ ดังขึ้นก่อนที่วานิลาจะเริ่มบุกรุกเขาคืนบ้าง แม้จะดูเงอะงะไม่ค่อยเป็นงาน แต่ด้วยฤทธิ์ของยาสารกระตุ้นที่ได้รับเข้าไป มันทำให้เธอฮอตฉ่า...และยินยอมทุกสิ่ง
เขารู้ว่าเธอโดนอะไร
เขาควรฉวยโอกาสไหม?
ชายหนุ่มตอบตัวเองได้ทุกคำถามขณะที่แทรกลิ้นเข้าไปในปากของเธอ มือของเธอเปะปะตามร่างกายเขา พยายามจะถอดเสื้อเขา คาเครุหัวเราะเบาๆ กับปากอิ่มนั่น เมื่อนิ้วซุกซนกำลังเลื่อนไปที่กางเกงยีนของเขา เธอพยายามคลำหาที่ปลดมันออก แล้วบ่นเบาๆ แนบปากเขาที่เขาละปากจากเธอเพียงเล็กน้อยเพื่อสูดอากาศหายใจ
"ถอดยังไง ถอดไม่ได้"
"เดี๋ยวถอดให้"
เสียงทุ้มเอ่ยคลอข้างหู จมูกของเขาไถไปที่หูของเธอพลางเม้มงับมันเบาๆ นิ้วเรียวได้รูปของเขากำลังปลดกระดุมกางเกงยีนตัวเองอย่างเชี่ยวชาญ
แม้จะกำลังเคลิบเคลิ้มด้วยฤทธิ์ยาแต่ก็ฉุกคิดได้แวบหนึ่งว่าตนเองฝันประหลาดแปลกจนน่ากลัว วานิลาผลักอกเขาเบาๆ พร้อมกับสบตากับบอสหนุ่ม เธอเม้มปากที่เห่อบวมนิดๆ เธอจะต้องมั่นใจก่อนว่านี่คือฝัน? เมื่อกี้นี้เขาพูดภาษาไทย ชัดแจ๋วกับหูเธอ บอสคาเครุพูดภาษาไทย...นี่ฝันแหละ ฝันแน่ๆ ฝันใช่ไหม?
"ฉันฝันหรือเปล่า..."
เสียงหวานเอ่ยถามย้ำอีกหน ตอนนี้คาเครุสลัดทั้งเสื้อและกางเกงพ้นจากตัวไปแล้ว นัยน์ตาคมกริบของเขาไม่เย็นชาอีกต่อไป ไม่เหมือนที่เธอเคยจำได้ มันกำลังมองเธอด้วยนัยน์ตาที่ร้อนเร่า ราวกับจะเผาเธอให้ละลาย
"อืม..."
ตอบเพียงแค่นั้นแล้วกระชากเธอเข้าสู่วงแขนเคลียจมูกปากไปตามผิวนุ่มของวานิลา เธอหอม...กรุ่นเหมือนชื่อของเธอ วานิลา...ชื่อของเธอชวนให้คิดถึงกลิ่นขนม เธอมีกลิ่นเหมือนคุกกี้อบใหม่ๆ เธอน่าจะใช้น้ำหอมชื่อเดียวกับชื่อของตัวเอง เขาอยากจะชิมเธอมานานแล้ว...
ปลายลิ้นบอสหนุ่มแตะชิมที่ลำคอ วานิลาสะดุ้งน้อยๆ มือของเขากำลังลูบไล้เลื่อนขึ้นไปตามร่างกายของคนในอ้อมแขน เขาดึงไม่กี่ที ชุดของเธอก็ปลิวออกไปจากร่างตามเสื้อผ้าของเขา
ร่างเปลือยกระจ่างตางดงามไปทุกส่วนสัดที่ปรากฏตรงหน้า ทำให้คาเครุหมดความยับยั้งใดๆ เขาก้มลงหาเป้าหมายถึงทรงอกอวบใหญ่เกินตัวแต้มปลายยอดสีชมพูเรื่อ เขาอ้าอมปลายยอดเข้าไปในปาก แล้วดูดมันแรงๆ วานิลาหลับตาแน่น ความเสียวสยิวพุ่งจี๊ดไปถึงสมองเมื่อเขาทำแบบนั้น
โอ...
นี่ต้องเป็นฝันแน่ๆ
บอสที่แสนเย็นชาหน้านิ่งกลับมาคลุกเคล้าจูบกอดเธอ...
โอ...
ถ้าไม่ใช่ฝันวานิลาคงไม่นอนให้เขาทำอะไรต่อมิอะไรด้วยความพึงใจอย่างที่สุด มือเธอเองก็เปะปะไปตามร่างกายเขา เธอเปียกฉ่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาตวัดลิ้นลิ้มรสเธอที่ยอดอก ข้างนั้นย้ายไปข้างนี้ เสียงคำรามในลำคอต่ำๆ ของเขา บ่งบอกว่าเขาพึงพอใจกับสิ่งที่ได้เห็น ได้ชิมอย่างเหลือเกิน
มือของเขาอีกข้างกำลังเลื่อนไปยังกึ่งกลางกายสาวที่เปียกฉ่ำ หล่อนเยิ้มไปหมด นิ้วของเขาแทรกเข้าไปในรอยแยก บอสหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากอกอวบหวานลิ้นแล้วจูบเธออีกหนปลายลิ้นของเขาแทรกเข้ามาลิ้มชิมความหวานทุกซอกทุกมุมด้านใน วานิลาครางแนบกับปากเขา อารมณ์ของเธอกำลังล้นทะลักอย่างไม่เคยเป็น เธอแยกขาให้เขาได้สัมผัสเต็มที่มันรู้สึกดี...รู้สึกว่าเขาเข้ามาเติมเต็มความว่างเปล่า เธอเคยว่างเปล่า...จนมาถึงตอนนี้ เธอยอมเปิดทุกสิ่งให้กับเขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อาจจะเพราะนี่เป็นฝัน...ใช่มันคือความฝัน ถ้าไม่ฝันเธอคงไม่กล้าขนาดนี้ และคงไม่มีความสุขขนาดนี้
"อะ อา"
"อืม..."
คาเครุเองก็ค้นพบอะไรบางอย่าง ขณะที่แทรกนิ้วเข้าไปในความฉ่ำ คิ้วเข้มของเขาขมวดมุ่น เขาละจูบเพียงแค่หายใจ ก่อนจะก้มลงจูบเธอใหม่ เสียงครางหวานๆ ยามเขาแทรกนิ้วเข้าไปในความแนบแน่นช้าๆ มันปลุกเร้าเขาเหลือเกิน แต่ทว่า...เธอไม่เหมือนที่เขาคิด มันช่างเกินคาดและเหลือเชื่อ
"อื้อ..."
"ชอบไหม? เจ็บรึเปล่า"
เขาถามชิดปากอิ่มที่ตอนนี้เจ่อนิดๆ เพราะแรงบดเคล้า เสียงครางของเธอยามเขาค่อยขยับนิ้วเข้าออกเลียนแบบจังหวะเสน่หา ดังคลอแนบปากเขา เธอหลับตาแน่น หอบหายใจถี่ เป็นคำตอบได้อย่างดี ว่าเธอชอบสิ่งที่เขาทำไหม
เขาไม่ไหวอีกแล้ว
คาเครุค่อยแยกขาเรียวออก จูบดูดดื่มเร่าร้อนดุดัน เธออาจจะโดนฤทธิ์ยาปลุกเร้าจนไม่เจ็บปวดถ้าเขาแทรกกายเข้าไป เขาไม่อยากให้เธอบอบช้ำเลยแม้แต่น้อย แม่สาวหวานฉ่ำของเขา...
เขาแตะนิ้วบี้คลึงติ่งเกสร มืออีกข้างจับความแข็งร้อนผ่าวถูไถที่ปากทางฉ่ำคลึงมันไปมา เรียกเสียงครางกระเส่าให้ยิ่งดังขึ้น อา...เธอทั้งเล็กและแคบ เธอคงจะเสียวซ่านจนไม่ได้เจ็บปวดสักเท่าไหร่...แน่ล่ะถ้าเขาทำให้เธอเจ็บ เขาจะชดใช้เธอด้วยความสุขสยิวจนเหมือนแตะสวรรค์ได้เลยทีเดียว
เขาสัญญา...
"อุ๊ย อื้อ"
"อืม...ทนนิดนะคนดี คุณกำลังรัดผมแน่นไปหมดแล้ว"
เขาตัดสินใจแทรกกายเข้าไปแบบรวดเดียวสุดตัวตน ร่างงามถึงกับถอยร่นเพราะความเจ็บปวด น้ำตาของวานิลาคลอไปหมด ทำไมฝันมันเจ็บนะ แต่ก็เป็นความเจ็บที่...
"อ๊ะ อา"
เสียงครางดังออกมาเมื่อเขาก้มลงจูบเคล้าเต้าทั้งสอง ปลุกเร้าเธออีกหน ร่างงามคลายความเกร็งลงจนเขารับรู้ได้ เธอตอดรัดเขาอย่างบ้าคลั่ง กระตุ้นให้เขาต้องเริ่มลงมือพาเธอไปล่องนาวาสวาท
เขาขยับกายเข้าออกในตอนแรกอย่างลำบาก ก่อนที่ครรลองธรรมชาติจะทำให้มันเลื่อนไหลไปอย่างแสนสุข เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะ ร่างงามกกกอดเขาครวญครางกับอกเขาเสียงเหมือนคนใจจะขาดด้วยความสุขสม เมื่อเขากระแทกกายลงไป ทุกจังหวะ เน้นหนักแน่น ทุกจังหวะสร้างความสุขล้นอย่างเหลือเชื่อ
พลุถูกจุดขึ้นในสมองของวานิลาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ช่างเป็นฝันที่แสนสุข และมหัศจรรย์เหลือเกิน
ฝันนี้ดำเนินไปอย่างสุขฉ่ำ เร่าร้อนตลอดทั้งคืน