บทที่ 4 ช่วยชีวิต
2 วันต่อมา
อีกด้านของโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว
“ได้ความยังไงบ้าง นี้ผ่านมา 2 วันแล้วนะ ยังไม่มีวี่แววนายน้อยอีกเหรอ” เจนสันถามลูกน้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากเจ้านายหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่พบสัญญาณจีพีเอส สัญญาณจับได้ล่าสุดเป็นบริเวณป่าลึกห่างจากตัวเมือง 30 กิโล ซึ่งทางเจ้าสัวเกณฑ์ลูกน้องมาจากกรุงเทพ แต่ก็ยังไร้วี่แววของบุตรชาย ทำเอาลูกน้องถึงกับอยู่ไม่ติด พวกเขาพลาดมากที่คืนนั้น ไม่ตามนายน้อยไป
“ขอให้นายน้อยยังมีชีวิตอยู่ด้วยเถิด” สองวันแล้วที่เจนสันไม่เป็นอันกินอันนอน ตราบใดที่ยังไม่พบตัวเจ้านายเขาก็ข่มตานอนไม่หลับ เมื่อลูกน้องไปตรวจสอบพื้นพี่กับพบเพียงรถซุปเปอร์คาร์ที่เลโอนิกซ์ขับออกไป ห่างจากจุดจีพีเอส เพียง 5 กิโล ลูกน้องหลายสิบคนลงพื้นที่แต่ก็ยังไร้วี่แวว มีเพียงรอยเลือดที่พบเห็น โรงพยาบาลระแวกแถวนี้ก็ไร้ชื่อเลโอนิกซ์เข้าการรักษา
ด้านคฤหาสน์หลังใหญ่ตระกูลครูซเซอร์
“ตาเลโอ ป่านนี้ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง คุณพี่คะ ถ้ายังไร้วี่แววแบบนี้ ฉันจะไม่ทนแล้วนะ แจ้งความให้ลงหน้าหนึ่งไปเลย”
“ใจเย็นๆ สิครับมาดาม มาดามก็รู้ขืนแจ้งความไป อีกฝ่ายยิ่งจะได้ใจ พวกมันจะยิ่งรู้ตัว”
“แต่นั่นมันชีวิต ลูกฉันเลยนะคะ” มาดามจินสุดาถึงกับว่าให้กับสามี ที่ดูเหมือนไม่เป็นห่วงเป็นใยบุตรชายเอาซะเลย ป่านนี้ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง
“หึ...ลูกคุณซะที่ไหน” เจ้าสัวเอ่ยจบ ก็เดินแยกตัวออกไป
“เรียกคุณเจนจิรา มาพบที่ห้องผมหน่อย” เจ้าสัวหันไปสั่งความกับแม่บ้าน
“ค่ะ ท่าน”
“หึ...ลูกชายหายไปทั้งคน ยังมีหน้าเรียกหาเมียน้อย” จินสุดาเอ่ยตามหลังสามี ทุกวันนี้สนใจเธอ เป็นห่วงบุตรชายที่ไหน ลูกชายเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่สน แต่กับเอาอกเอาใจนางเมียน้อยนั้น แต่งตั้งมันเข้ามาย่ำยีหัวใจฉันให้อกแตกตาย
“ถ้าตาเลโอ เป็นอะไรไป ฉันจะอยู่ยังไง” มาดามจินได้แต่นั่งร้องห่มร้องไห้ กับเมียน้อยคนอื่นๆ ไม่เห็นจะหลงมันแบบนี้ กับยัยเด็กนี้ เมียรุ่นราวกับลูกหลงมันหัวปักหัวปำ แต่นั้นก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะสมบัติทุกชิ้นภายในคฤหาสน์หลังนี้เป็นของสามี ถึงจะเป็นภรรยาตามสมรสแต่ก็มีสิทธิ์เท่ากับเมียน้อยคนอื่นๆ ที่เจ้าสัวเลี้ยงดูปูเสื่อ แต่ปล่อยไว้นานๆ แบบนี้เห็นทีฉันก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน จินสุดาได้แต่คิด
ส่วนคนที่ทำให้บิดามารดาและลูกน้องวิ่งหากันวุ่นอยู่นั่น ภายในบ้านปูนชั้นเดียวแห่งหนึ่งที่อยู่ในสวนท้ายหมู่บ้านที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวทั้งเก่าทั้งโทรม มีร่างสูงของเลโอนิกซ์นอนถอดเสื้อบนแคร่ไม้ไผ่ตัวยาว บนตัวของเขามีผ้าก็อตสีขาวที่พันช่วงเอวเอาไว้ ใบหน้าอันหล่อเหลาเต็มไปด้วยร่องรอยแผล แทบจะไม่หลงเหลือมาดมาเฟียหนุ่มพวงตำแหน่งนักธุรกิจหนุ่มชื่อดังของตระกูลดัง
“อ่า...” เลโอนิกซ์ที่สลบไปสองวันร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากับพบว่าตัวเองนอนพักรักษาตัวที่บ้านหลังหนึ่ง บนแขนของเขามีสายน้ำเกลือที่ผูกติดอยู่กับต้นเสา แต่ขณะที่ร่างสูงขยับตัวพยุงตนขึ้นมานั้น กับพบร่างบางของหญิงสาวที่นอนฟุบหน้าบนแคร่ไม้ไผ่ที่เขานอนอยู่
ร่างบางเสื้อยืดสีขาวกางเกงขาสั้นสีดำ ที่นอนฟุบหน้าหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ หึ...! เธอคือคนที่ช่วยชีวิตเขางั้นเหรอ
ด้านรันลนาที่เผลอหลับไปเมื่อครู่ ทว่าแค่จะพักสายตาแต่กับมีเสียงอะไรที่รบกวนเวลานอนของเธอ ร่างบางผงกหัวขึ้นมาในอาการสะลืมสะลือ เนื่องจากสองคืนมานี้เธอหลับไม่เต็มอิ่ม ทั้งวิ่งทำแผลล้างแผลและไหนจะเช็ดตัวให้กับคนเจ็บที่มีไข้แทรกซ้อน คนที่ตนนอนเฝ้าไข้มา 2 วัน บัดนี้กับนั่งมองเธอ สายตาคมคู่ดุคู่นั้นกับสาดเข้านัยน์ตาของเธออย่างจัง ถึงใบหน้าอันหล่อเหลาซีดเซียวแต่ก็ยังดูดีหล่อเข้มไม่ไหว
ด้านเลโอนิกซ์ถึงผมจะเป็นมาเฟียลูกน้องมักเกรงขาม แต่เจอสายตาแทะโลมของยัยเด็กนี้ ก็เอาเรื่องอยู่นะ นัยน์ตาทั้งสองคู่ประสานเข้าหากัน ทั้งห้องตกอยู่ในอาการเงียบ นัยน์ตาคู่สวยเหลือบต่ำลงมาที่หน้าอก หน้าท้องที่มีผ้า ก็อตพันเอาไว้ หัวนมอมชมพูเอย ซิกแพคที่หนาเป็นมัดๆ เอย ผิวขาวเนียนใส ราวกับผิวผู้หญิง กล้ามท้องเอย ไม่ไหว จาวูบ ทำเอาร่างบางที่อยู่ในอาการสะลืมสะลือ ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ
!! อึก อึก !!
“ ฮืม...” เสียงเข้มที่ตวาดมาเช่นนั้น ทำเอาคนเหลือบมองนั้นได้สติ
“เฮ้ย...ฟื้น สักที ฉันเหนื่อยจะเป็นลมอยู่แล้ว” เอ่ยจบร่างบางก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเล็ก ทิ้งตัวเอนหลังนอนลงบนแคร่ไม่ไผ่ต่อหน้าชายหนุ่มโดยไม่คิดสนใจสายตาอีกคนที่มองมา
“คุณสลบไป 2 วัน 2 คืน ทั้งโดนยิง ไข้ขึ้น แต่โชคดีที่กระสุน เข้าไม่ลึก คุณยังมีบุญ รอดชีวิตมาได้ เห้ย...เหนื่อยแทบแย่” เธอเอ่ยพร้อมกับทิ้งตัวนอนไม่ห่วงสวยเธอหันหน้าไปสบตาเขา
“เธอช่วยฉัน”
“ก็อืม น่ะสิ” รันลนาพยักหน้า แต่นั่นเลโอนิกซ์ยังสงสัยกับกระเป๋าพยาบาลและไหนจะขวดน้ำเกลือที่ปักอยู่แขนของเขา
“ให้น้ำเกลืออีกหน่อย คุณจะได้มีแรงกลับบ้านของคุณได้” รันลนาหันมาฉีกยิ้มสดใสให้กับเขา แต่นั้นคนตัวเล็กกับไม่รู้เลย รอยยิ้มที่เธอส่งให้เขานั้นสาดเข้ามานัยน์ตาคมคู่ดุมาเฟียมาดเข้มเข้าอย่างจัง ทำเอาเลโอนิกซ์ถึงกับนิ่งค้างใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับชะงัก จากนั้นรันลนาก็ลุกออกจากเตียงของคนเจ็บ มือเรียวถือวิสาสะอังเข้าที่หน้าผากคนไข้ ขณะที่มาเฟียยังไม่ทันตั้งตัว
“ตัวคุณไม่ร้อนแล้ว ฟื้นแล้ว ทานข้าวแล้วก็ทานยานะคะ” เสียหวานหันมาเอ่ยพร้อมกับฉีกยิ้มอันมีเสน่ห์ให้กับคนหน้านิ่ง เลโอนิกซ์เหลือบมองก็พบว่ามีปิ่นโตที่วางอยู่บนโต๊ะ
“เธอช่วยฉัน”
“ที่นี่มีคนอื่นนอกจากฉันอีกไหมละคะ” ใช่ เขาจำเธอได้ ผู้หญิงคนนี้ที่มีเรื่องกับเขาที่สนามบิน ก่อนที่เขาจะมาเกิดเรื่องที่นี่
“คุณจำฉันได้ไหม คนที่คุณเดินชนที่สนามบิน”
“อืม”
“ที่ฉันช่วยคุณ เพราะเห็นว่าคุณจ่ายค่าเสียหาย ค่าแว่นตาให้กับฉันหรอกนะ จริงๆ แว่นฉันราคาไม่ถึง 5 พันอย่างที่บอกไปหรอก แต่ฉันตังไม่พอจ่ายค่าเครื่องเลยบอกไปราคานั้น คนของคุณจ่ายตังช่วยให้ฉันได้กลับบ้าน ส่วนฉันช่วยชีวิตคุณ ถือว่าไม่มีอะไรติดค้างแล้วนะ” รันลนาเอ่ยด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันสดใส แต่นั้นเลโอนิกซ์กับไม่รู้เรื่องว่าเจนสันจ่ายค่าเสียหายให้เธอไป 5 พัน แต่นั้นคนหน้านิ่งกับไม่ตอบมาเฟียหนุ่มเอาแต่นั่งเงียบ เขามองการกระทำของคนตัวเล็กที่เธอถอดผ้าก็อตและล้างแผลให้เขาอย่างคล่องแคล่ว
“แค่ล้างแผล ทำไมยัยเด็กนี้มีเสน่ห์จังเลยวะ” ทำเอาเลโอนิกซ์ที่อยู่ใกล้รันลนา ใบหน้าของมาเฟียหนุ่มห่างจากหญิงสาวไม่ถึงคืบนั้น มาเฟียหนุ่มหน้านิ่งถึงกับเสียอาการอย่างไม่รู้ตัว นัยน์ตาทั้งสองคู่ประสานเข้าหากัน ทั้งคู่ตกอยู่ในภวังค์ห่วงความคิดของกันและกัน ภาพของคนตรงหน้าผายปอดต่อลมหายใจให้กับเขานั้น ทำเอามาเฟียหนุ่มถึงกับเสียอาการหูอื้อตาลายไปหมด ปากหนาที่ยื่นเข้าหาคนตัวเล็ก ขณะที่ปากของเลโอนิกซ์จะแตะปากรันลนานั้น
!! พรึ่บ !!