5 ยินยอม
5
ยินยอม
หนาวนั่งทบทวนในสิ่งที่ฐิติคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นเพราะเธอ
“หนาว อยู่ในห้องใช่ไหม ตามไปคุยกับฉันที่ห้องทำงานหน่อย”
ธวัชชัยเดินมาตามหญิงสาวชาวเหนือถึงห้องนอน เพื่อตามเธอไปคุยเรื่องสำคัญ
“คุณท่านมีอะไรจะพูดกับฉันเหรอคะ”
หญิงสาวเห็นท่าทางและแววตาที่จริงจังของธวัชชัย เธอรู้สึกกังวลกับสิ่งที่เขากำลังจะพูด
“นั่งลง” เจ้าของห้องชี้ไปที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงข้ามเขา
“พรุ่งนี้เธอต้องไปมหาวิทยาลัยแล้ว สิ่งเดียวที่ฉันเป็นห่วงคงไม่ใช่การเรียน แต่คือความสุข ความปลอดภัยของเธอ”
ธวัชชัยยืดหลังตรง มือทั้งสองข้างจับกันแน่นวางอยู่บนโต๊ะ ตามจ้องมองคนที่กำลังพูดด้วย
“ฉันจะให้เงินเธอก้อนนึง เพื่อเก็บไว้ใช้เป็นค่าเล่าเรียน”
“ทำไมล่ะคะ ในเมื่อคุณท่านก็จ่ายให้ฉันอยู่แล้ว” หญิงสาวสงสัย
“แล้วถ้าฉันไม่อยู่ล่ะ คนเราคิดในแง่ลบไว้จะได้มีโอกาสเตรียมตัว ถ้ามัวคิดอะไรในแง่บวก บางครั้งทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว”
“ค่ะ แต่ฉันฟังแล้วใจคอไม่ดีเลย เงินทุกบาทที่ท่านให้ฉันจะใช้อย่างประหยัดและใช้ในเรื่องที่เกิดประโยชน์ค่ะ”
“จ่ายค่าตัวกันอยู่เหรอคะ”
บงกชเข้ามาเห็นตอนที่ธวัชชัยยื่นเช็คเงินสดให้กับหญิงสาวที่กำลังนั่งหันหลังให้ประตู
“บงกชคุณจะพูดอะไรให้ระวังคำพูดบ้างนะ” ธวัชชัยหันไปดุภรรยา
“ค่าตัว คงเป็นคำไม่เหมาะ อย่างนั้นฉันเปลี่ยนเป็น ค่าแรงดีไหม”
“หยาบคาย ผมดูคนผิดไปจริงๆ ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวดีๆ อย่างคุณ ไม่น่าจะคิดได้แต่เรื่องต่ำๆแบบนี้”
“นี่คุณหลงอีเด็กดอยคนนี้ ถึงกับกล้าด่าฉันเลย คุณมีอะไรกับมันแล้วใช่ไหม”
บงกชเดินมาหาสามีด้วยความโมโห มือเล็กทุบตีลงไปที่แขนและอกของธวัชชัยอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“คุณแม่ครับ ผมกับหนาวเราจะแต่งงานกัน”
ฐิติทนที่จะเห็นบ้านต้องลุกเป็นไฟแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาไม่อยากพ่อกับแม่ของเขาต้องมีเรื่องทะเลาะกันทุกวัน
“ฐิติลูกพูดอะไรของลูก” บงกชหยุดทำร้ายสามีแต่หันกลับไปมองหน้าลูกชายคนโปรดอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ผมกับหนาวเรารักกันครับคุณแม่ เราทั้งคู่ยังไม่อยากบอกใคร แต่การที่คุณแม่กับคุณพ่อทะเลาะกันแบบนี้ผมเลยต้องยอมบอกทุกอย่าง เพื่อไม่ให้คุณแม่เข้าใจผิด ”
ชายหนุ่มพุดด้วยสีหน้าที่ไม่มั่นใจ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะไม่เล่นด้วยและโวยวายว่าโกหก
“จริงเหรอ แม่สาวไวไฟ”
บงกชหันมาถามหญิงสาวที่เอาแต่ยืนเงียบเพราะทั้งกลัวและสับสนไปหมด
“เอ้อ....จริงค่ะ” หญิงสาวเออออไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านี้
“ทำไมแม่ไม่รู้เรื่องเลย” คนเป็นแม่เดินไปเกาะแขนลูกชาย
“ผมยังไม่อยากบอกใคร แต่เห็นคุณแม่เอาแต่เข้าใจคุณพ่อผิด ผมเลยตัดสินใจบอก”
ชายหนุ่มโอบกอดมารดา เพื่อให้บงกชใจเย็นลง และยอมเชื่อในสิ่งที่เขาพูด
ความเป็นคนอ่อนโยน และเอาใจเก่งของฐิติยิ่งทำให้บงกรักลูกชายนอกสายเลือดนี้มาก
“ได้ยินแล้วนะ ว่าผู้หญิงคนนี้เขาเป็นคนรักของลูกเรา คุณคงแยกแยะได้”
ถึงแม้จะยอมเข้าใจ และลดความโมโหลง แต่บงกชก็ยังหยุดที่จะพูดจาร้ายๆตามความเคยชินไม่ได้
“คุณพูดอะไร ไม่เห็นถามฉันสักคำ” หนาวแสดงความไม่พอใจ
“ผมเห็นคุณยืนตัวแข็งแบบนั้น รับรองว่าถ้าผมถามคุณ คุณก็ไม่กล้าตอบอะไร”
“แล้วเราต้องทำทุกอย่างตามที่คุณพูดจริงไหม”
หนาวถามเพราะเธอไม่รู้ว่าเขาพูดเพราะต้องการคลี่คลายสถานการณ์เฉยๆหรือเปล่า
“ผมจะแต่งงานกับคุณจริงๆ แล้วคุณล่ะ” ชายหนุ่มถามกลับ
“ฉันมีทางเลือกด้วยเหรอคะ ถ้ามันจะทำให้คุณธวัชชัยไม่ต้องมีปัญหากับภรรยา ฉันก็ยอมค่ะ”
“เรารอทุกอย่างลงตัว เราจะจดทะเบียนสมรสกันก่อนแล้วค่อยจัดงานแต่งเมื่อคุณเรียนจบ”
ทั้งสองคนมองสบตากัน เหมือนต่างฝ่ายก็รู้ว่าสาเหตุของการแต่งงานของทั้งคู่ไม่ได้มีเหตุผลจากแค่ธวัชชัยและบงกชอย่างเดียว
“เฮ้ย! ฐิติ คุณแม่บอกว่านายจะแต่งงานกับหนาวอย่างนั้นเหรอ นี่พี่ตกข่าวขนาดไม่รู้ว่านายกับหนาวไปรักกันตอนไหนเลยเหรอนี่”
ฐานันดรทราบเรื่องจากมารดา เก็บความอยากรู้ไว้ไม่ไว้ จึงต้องเดินมาถามน้องชายถึงห้องนอน
“ผมก็บอกพี่ไม่ถูกเหมือนกัน ว่าไปเริ่มรักกันตอนไหน ความรักมันมาแบบไม่รู้ตัวหรอก ”
ชายหนุ่มไม่รู้จะโกหกว่าตอนไหนดี เพราะหญิงสาวเพิ่งมาอยู่กับครอบครัวเธอได้ไม่นาน
“ให้พี่ช่วยสอนงานให้เมียในอนาคตของแกก่อนไหม”ฐานันดรทำท่าทีเล่นทีจริง
“พี่ฐาผู้หญิงคนนี้ผมขอนะ” ชายหนุ่มมองหน้าพี่ชายอย่างเอาจริง
“พี่ก็แค่พูดเล่น ไม่เห็นต้องทำหน้าแบบนี้เลย ใครจะไปยุ่งกับแฟนน้องชายตัวเอง ยกเว้นเธอจะอยากมายุ่งกับพี่เอง”
ความปากร้ายฐานันดรรับมาจากมารดาเต็ม ๆ ยังดีที่เขาเป็นผู้ชายจึงยังไม่ร้ายเท่า
ชายหนุ่มได้ฟังคำพูดของพี่ชาย เขายิ่งรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของอนาคตภรรยา เขาคงต้องรีบจดทะเบียนและทำให้เธอเป็นภรรยาของเขาจริงๆเสียที