1/1 สมาชิกใหม่
1
สมาชิกใหม่
“ฐาลูกรู้ไหมว่าพ่อของลูกเขาไปไหน”
บงกชหัวเสียแต่เช้า เพราะเมื่อคืนสามีของเธอเพิ่งบอกว่า จะเดินทางไปรับหญิงสาวชาวเหนือคนหนึ่งมาอยู่ด้วย
“ไม่รู้ครับคุณแม่ คุณพ่อไม่ได้บอกหรือครับ”
ฐานันดรถามด้วยความแปลกใจ ปกติมารดาของเขาเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน ไปไหนมาไหนทุกคนในบ้านต้องบอก
“บอก เขาบอกว่าจะไปรับแม่สาวเมืองเหนือเพื่อมาอยู่ที่บ้านของเรา” คนพูดมือกอดอกด้วยความไม่พอใจ
“ฐิติลูกจะไปไหน วันนี้ไม่ไปเก็บค่าเช่าบ้านกับแม่เหรอ”
ฐิติเป็นลูกชายของธวัชผู้เป็นสามีของบงกช แม่ของเขาเป็นอดีตสาวใช้ในบ้าน ชื่อปัทมา เธอเสียชีวิตตั้งแต่ฐิติเกิด บงกชจึงเลี้ยงฐิติมาตั้งแต่เด็ก และรักเหมือนลูกแท้ๆ
“ผมมีนัดกับเพื่อน แต่ถ้าคุณแม่จะให้ผมไปเป็นเพื่อนผมโทรบอกยกเลิกเพื่อนก็ได้ครับ”
ฐิติเขาสำนึกตัวเองเสมอ ว่าถ้าเขาไม่มีบงกช เขาคงมีชีวิตมาถึงทุกวันนี้ไม่ได้
“คุณแม่ครับ น้องนัดกับเพื่อนไว้แล้ว คุณแม่ไปกับคนขับรถก็ได้ อย่าให้น้องต้องยกเลิกเพื่อนเลย”
ฐานันดรเขาอึดอัดใจทุกครั้ง ที่เห็นมารดาของเขาชอบพูดดีแกมบังคับให้น้องชายต่างมารดา ต้องทำตามความต้องการอยู่เสมอ
“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมเต็มใจ” ฐิติเป็นแบบนี้เสมอ
“เห็นไหมน้องเขาเต็มใจ อยากไปกับแม่ ลูกไม่เคยจะว่าง ยังจะมาขัดเวลาแม่ชวนน้องอีก”
บงกชกอดจูบลูกชายนอกสายเลือดที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่หลุดออกมาจากท้องของปัทมา
ระหว่างเดินทางไปเก็บค่าเช่า บงกชมองหน้าคนขับที่ดูจะรักเธอเหมือนแม่แท้ๆ เธอก็คิดถึงสิ่งเก่าที่เธอเคยทำกับปัทมา ถ้าย้อนเวลาไปได้ เธอคงจะไม่ทำแบบที่ผ่านมา
“อีปัทแกจะมาถือว่าท้องอยู่แล้วไม่ทำงานบ้านไม่ได้นะ วันนี้ฉันอยากกินฟักทองแกงบวด แกไปขูดมะพร้าวทำกะทิให้หน่อย ฉันไม่ชอบกะทิซื้อ”
ความจริงแล้วบงกชไม่ได้อยากกิน เธอแค่คิดว่าคนท้องคงจะขูดมะพร้าวลำบาก ดีไม่ดีอาจจะแท้งไปเลย
“ฉันสั่งให้อีปัททำ ใครหน้าไหนคิดไปช่วยมัน ฉันจะให้ออกให้หมด”
“คุณแม่ครับ ถึงแล้วครับ”
ฐิติเรียกมารดาที่ดูท่ากำลังคิดอะไรเพลินอยู่ จนไม่รู้ว่ารถยนต์ได้มาจอดถึงหน้าบ้านที่ต้องมาเก็บค่าเช่าแล้ว
“อ้าว...แม่นั่งคิดอะไรเพลินไปหน่อย รออยู่บนรถนี่แหละ เดี๋ยวแม่ลงไปเก็บเอง”
ครอบครัวของธวัชชัยทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าตกแต่งบ้านแบบงานแฮนด์เมด โดยเฉพาะงานไม้ นอจากนั้นเขายังมีธุรกิจบ้านเช่า ห้องเช่า และร้านขายเพชรที่ยกให้บงกชเป็นคนดูแล
“คุณนายคะ ฉันขออีกสองวันได้ไหม เงินเดือนลูกสาวยังไม่ออกเลย” เสียงอ้อนวอนจากคนเช่าบ้าน
“ได้ แต่ฉันจะบวกเพิ่มอีกสองร้อย ค่าเสียเวลา” บงกชไม่ยอมเสียเปรียบ