ตอน 1
ชายหาดทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตาบนเกาะใต้จันทร์ เกาะแห่งความเป็นส่วนตัวผู้ทรงอิทธิพลผู้หนึ่ง แล้วดูเหมือนว่าเกาะนี้กำลังเกิดความเปลี่ยนแปลง ขณะชายฉกรรจ์สามนายกำลังเดินสำรวจเกาะเพื่อความเรียบร้อยหลังจากเมื่อคืนเกิดเรื่องวุ่นวายนิดหน่อย ดังนั้นเจ้าของเกาะจึงสั่งเข้มเพื่อตรวจตราพื้นที่ทุกตารางนิ้วให้อยู่ในความสงบมากที่สุด
หากว่าในเวลาที่ทุกคนกำลังตรวจตราสำรวจพื้นที่ชายหาดเม็ดทรายขาวละเอียดอยู่นั้น
“นายหัวครับ” สำเนียงภาษาใต้ชัดเจนร้องเรียกนายหัว ดังขึ้นทันทีเมื่อสายตาปะทะกับอะไรบางอย่างคล้ายร่างคนนอนอยู่เบื้องหน้า ใกล้กับโขดหิน
“อะไรดิษแหกปากซะลั่น” นายหัวเวหา สีหราชไม่ได้หันไปทางดิษซึ่งเป็นหัวหน้าคุมคนงาน บนเกาะแห่งนี้หากแต่เอ่ยถามออกไปก่อน
“ดูก่อนครับตรงโน้น” ดิษ ดุสดี ชี้ไปเบื้องหน้าของตนเอง พลางสาวเท้าย่ำเม็ดทรายไปตรงจุดนั้น สายตาวัยสี่สิบปลายๆ ไม่หลอกเขาแน่กองอะไรบางอย่างเบื้องหน้าต้องเป็นคนแน่ๆ
ดังนั้นชายฉกรรจ์อีกคนจึงเร่งฝีเท้าตามไปด้วย เพื่อดูว่าสิ่งที่หัวหน้าคนงานตกอกตกใจนั้นคืออะไรกันแน่ และแล้วเมื่อพวกเขาไปถึงสายตาจึงปะทะกับร่างคนที่นอนแน่นิ่งคว่ำหน้าอยู่ไม่ห่างจากโขดหินสีดำทะมึนนัก
“นี่มันคนนี่พี่ดิษ” พฤตมองสิ่งที่อยู่ไม่ห่างจากปลายเท้านั้นด้วยอาการตกตะลึง
“ตายหรือยังวะนั่น” ดิษตาตื่นไม่ต่างกับพฤต ขณะนายหัวเวหากลับก้าวช้าๆ ตรงมาทางพวกเขาด้วยอาการไม่ตื่นตระหนกใดๆ
“เอาไงดีครับนายหัว” หัวหน้าคนงานเอ่ยถามเพื่อขอการติดสินใจ ปกตินายหัวไม่ไว้ใจพาสิ่งแปลกปลอม ไม่ว่า คน สัตว์ สิ่งของ เข้ามาในเกาะถ้าไม่จำเป็น แต่เหตุการณ์ตรงหน้านี้น่าจะเรียกว่าจำเป็นแล้ว
“จัดการเอง ฉันไม่เกี่ยว” เวหาเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา โดยไม่ได้แสดงสีหน้าบ่งบอกถึงอารมณ์ความตื่นเต้นใดๆ
“อ้าว !!” ทั้งดิษและพฤตอุทานออกมาพร้อมกัน ทั้งสองต่างจ้องหน้ากันแล้วหันไปทางนายหัว พวกเขาก็รู้อยู่ว่านายหัวไม่เคยสนใจอะไรทั้งสิ้น นอกจากงาน และชีวิตคนงานภายใต้การปกครอง แต่ตอนนี้เรื่องมันมาเกยถึงคางควรจะออกความคิดเห็นให้ความกระจ่างแก่พวกเขาหน่อย
“เอาไงดีพี่ดิษ” พฤตเอ่ยขอความเห็นจากหัวหน้าที่ตนนับถือรองลงมาจากนายหัวผู้ทรงอิทธิพล
“ดูก่อนแล้วกันว่าตายหรือเป็น” ดิษย่อมต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อยได้รู้ว่าคนตรงปลายเท้ายังมีชีวิตอยู่หรือสิ้นลมหายใจไปแล้ว
หัวหน้าคนงานสัมปทานรังนกนางแอ่นแห่ง “เกาะใต้จันทร์” ย่อเข่าลงไปนั่งลงข้างร่างที่ยังแน่นิ่ง เอื้อมมือไปพลิกร่างที่นอนคว่ำหน้ากับผืนทราย เพื่อสำรวจว่าผู้เคราะห์ร้ายคนนี้คือหญิงหรือชาย และยังพอมีลมหายใจหรือไม่
“ไอ้พฤตผู้หญิง” ดิษตะโกนสำเนียงใต้เสียงดังฟังชัด เบื้องหน้าเขาคือมนุษย์เพศหญิง หน้าตามอมแมมเปรอะเปื้อนด้วยสาหร่าย เม็ดทราย รวมทั้งมีสภาพบาดเจ็บ เพราะพบรอยถลอก หนำซ้ำยังดูเหมือนว่าร่างนี้จะได้รับบาดเจ็บที่ไหนสักแห่งเพราะเห็นคราบเลือดเกาะกรังอยู่ตามใบหน้า
“เอาไงดีครับนาย...” ดิษอ้าปากเพื่อจะถามนายหัว แต่ยังไม่ทันเอ่ยจบประโยคเขาก็เห็นแผ่นหลังผึ่งผายไวๆ ห่างออกไปเบื้องหน้า “อ้าว !” นายหัว คำว่านายหัวหลุดผลุบหายเข้าไปในลำคอ
“พี่ๆ ดูเหมือนว่ายังไม่ตาย” พฤตอังนิ้วตรงใต้จมูกเพื่อให้มั่นใจร่างผู้หญิงคนนี้ตายหรือไม่ตายกันแน่
“เวรแล้วไง” ดิษอุทานอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ถ้าตายก็แค่ฝังหรือเผา แต่นี่ยังมีชีวิตอยู่เขาควรพากลับหรือแจ้นไปถามนายหัวก่อนตัดสินใจทำอะไรก่อนหลังดี แต่ความเป็นคนด้วยกันผลักดันให้ดิษตัดสินใจในวินาทีต่อมา “พากลับไปที่บ้านพักคนงานหญิงก่อน”
“เอางั้นหรือพี่” พฤตลังเลเขาเป็นแค่คนงานไม่กล้าอาจหาญตัดสินใจอะไรเอง ถ้านายหัวไม่สั่งนายหัวผู้เยือกเย็น แม้ไม่พูดไม่ใช่ไม่คิด นายหัวคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาในสมอง แต่จะมีสักคนที่อ่านความรู้สึกนายหัวออก
“เออ...คนเหมือนกันเห็นอยู่ว่ายังไม่ตายจะทิ้งไว้แบบนี้ ได้ตายจริงๆ แน่” ดิษว่าอย่างนั้นพร้อมกับช้อนอุ้มร่างบอบบางมอมแมมยิ่งกว่าผ่านการหลบระเบิดมากระนั้น
ดิษอุ้มร่างบอบบางซึ่งแทบเรียกว่าไร้น้ำหนักกลับมาที่เรือนพักคนงานหญิงบนเกาะใต้จันทร์ เกาะส่วนตัวที่ห้ามคนภายนอกเข้ามาบนเกาะเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเกาะซะก่อน
“นั่น...นั่นตาดิษแกไปเอาอะไรมา” รินจงเมียหัวหน้าคนงาน อยู่ที่เรือนเห็นสามีอุ้มบางสิ่งเดินตรงเข้ามา พร้อมกับวางลงอย่างเบามือ นางก็ขยับเข้าไปก้มมองแล้วก็พบว่าสามีของตนอุ้มผู้หญิงเข้าบ้าน “ไอ้แก่เดี๋ยวนี้แกริอ่านพาผู้หญิงคนอื่นมาหยามเมียถึงที่เลยเหรอ” รินจงทำท่าจะฟาดฝ่ามือลงที่กบาลสามี
“เฮ้ย...ดูก่อน” ดิษคว้ามือเมียสุดที่รักตัวอวบอ้วน ผิวคล้ำอย่างสาวใต้ ที่เมื่อก่อนแต่งงานหุ่นช่างบอบบางน่าถนอม จนเขาหลงรักหัวปักหัวปำกระทั่งลงทุนฉุดมาทำเมีย แล้วค่อยขอแต่งงานกับผู้ใหญ่ทีหลัง พอกาลเวลาผ่านไปรินจงผู้บอบบางก็กลายเป็นรินจงผู้ขยายข้างในเวลาไม่กี่ปี
รินจงก้มมองสิ่งที่สามีนำมาวางลงตรงแคร่ไม้ไผ่ พบว่าผู้หญิงคนนี้มีเส้นผมยาวดกดำ เปียกลู่ติดหนังศีรษะ ปิดบังใบหน้า นางจึงยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมออกจากดวงหน้านั้น
“คนหรือตุ๊กตาวะเนี่ย” รินจงอ้าปากค้างพร้อมกับอุทานเมื่อพิศมองดวงหน้าคนหมดสติ แล้วพบว่าช่างน่ารักน่าใคร่หากสะอาดสะอ้านกว่านี้น่าจะสวยราวกับนางฟ้าเลยเชียวล่ะ
“รู้สึกบาดเจ็บด้วยวะ” ดิษขยับมายืนข้างเมีย
“ตายๆ พาคนแปลกหน้ามาแบบนี้นายหัวรู้หรือยัง” รินจงเป็นกังวลเพราะนายหัวไม่ชอบให้คนนอกเข้ามายุ่มย่ามบนเกาะ แล้วผู้หญิงที่ไม่รู้จักแบบนี้ด้วยคงเป็นเรื่องหากรู้เรื่องนี้ขึ้นมา คนงานทุกคนต่างรู้ข้อนี้ดี นายหัวทั้งเข้มงวด ดุดัน เย็นชาดั่งน้ำแข็ง แล้วอย่างนี้สามีของนางจะทำอย่างไร ถ้านายหัวรู้เรื่องนี้ นางรู้สึกเสียวสันหลังวาบ เมื่อต้องปะทะสายตาดุกร้าวจากผู้เป็นนาย
“รู้แล้ว” ดิษกล่าวแต่เขาไม่ใจดำพอจะทิ้งคนที่ยังมีลมหายใจไว้แบบนั้นจนค่อยๆ หมดลมหายใจได้ ใจจืดใจดำใจร้ายเกินไป และเขาเชื่อว่านายหัวของเขาถึงจะนิสัยเย็นชา ก็คงไม่ใจร้ายปล่อยเหตุการณ์ให้เป็นเช่นนั้นแน่
“แล้วนายหัวว่าอย่างไร” รินจงยังคงซัก ลำพังนางไม่มีปัญหาหากแต่ให้ฝืนคำสั่งนายหัวนางก็ไม่กล้าเสี่ยงเหมือนกัน
“ให้ไปจัดการเอง ข้าก็จนปัญญาเลยพามาที่นี่ล่ะ เอ็งช่วยจัดการหน่อยริน” ดิษบอกเมียด้วยสีหน้าเป็นกังวลเกรงตุ๊กตาสกปรกตัวนี้จะตายซะก่อน
“รอให้ฟื้นก่อนดีกว่า เราไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ไม่รู้มาจากไหน คนดีหรือคนร้ายข้าก็ไม่อยากช่วยเท่าไหร่หรอกนะ”
“ผู้หญิงตัวบางๆ แบบนี้ไม่รู้โดนอะไรมา” ท้องทะเลอันเวิ้งว้างไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรก่อนหน้านั้น เรือโดนปล้น หรือว่าเจอพายุร่างอันไร้สติถึงได้ลอยมาติดชายหาดเกาะใต้จันทร์ อันสงสบร่มเย็น จะว่าสงบก็ไม่ใช่ซะทีเดียวเมื่อคืนยังมีคนร้ายบุกเข้ามาขโมยรังนกที่เพิ่งไปเก็บมาจากเกาะเหนือจันทร์ เมื่อเช้าตรู่เมื่อวาน เพื่อจัดเตรียมส่งลงเรือในเช้าตรู่วันนี้ แต่กลับต้องชะงักเพราะกลุ่มโจรเมื่อคืนเป็นเหตุ แล้วนี่ก็ยังจับพวกมันไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นคนกลุ่มไหนกันแน่ โจรสลัด หรือว่าผู้ไม่หวังดีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นายหัวเองก็เร่งจัดการอยู่
“เอางั้นหรือ” รินจงเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“อืม ฟื้นมาค่อยไต่ถามก็แล้วกัน” ดิษเห็นว่าอย่างนั้น “มีอะไรข้ารับผิดชอบเอง” แม้ตัวเขาเองก็ไม่สามารถฝืนคำบัญชาจากนายหัวได้ก็ตาม แต่ถ้าหล่อนผู้นี้ฟื้นขึ้นมาคงได้รู้ความจริง ว่าบ้านช่องห้องหับอยู่ที่ไหน ถึงเวลานั้นเขาจะเป็นคนพาหล่อนไปส่งยังฝั่งเอง
“ตาดิษเอ็งก็ใจดีตามเคยนะ” รินจงต่อว่าด้วยไม่คิดอะไรมาก นางเองก็คงใจจืดใจดำไม่พอที่ปล่อยให้คนเป็นๆ ตายไปต่อหน้า ถึงสามีจะตัวดำผมหยิก ก็หล่อที่หัวใจในสายตาของนางอยู่วันยันค่ำ
“ผู้หญิงตัวเล็กแค่นี้ถ้าเป็นคนไม่ดีจริง ข้าก็จัดการได้เอ็งดูแลให้หน่อยเถอะ” ดิษกล่าวตัวบางเท่านี้จับมือเดียวคงจะแตกแหลกละเอียด หากเป็นผู้ร้ายเขาจะจับหักคอโยนลงทะเลเสีย