ตอนที่ 25 ร้านชื่อดีกับเจ้าของตัวแสบ (1)
ตอนที่ 25 ร้านชื่อดีกับเจ้าของตัวแสบ (1)
หลังจากจัดบำเพ็ญกุศลเจ้าของร้านเกม เสือน้อยก็ไปร่วมงานตามมารยาท
โชคดีที่จัดงานอยู่วัดใกล้ ๆ บ้าน เขาจึงถีบจักรยานไปแป๊บเดียวก็ถึง พอถึงงานเสือน้อยก็เดินเข้าไปในงานคนเดียวพร้อมซองขาว เพื่อแสดงความเสียใจต่อภรรยาสาวสวย ที่แต่งชุดดำคอยยืนรับแขก
สวดจนจบงาน เสือน้อยก็เตรียมร่ำลากลับบ้าน แต่ถูกพี่ปานรั้งไว้ก่อน ภรรยาสาวแสนสวยที่กลายเป็นหม้ายผัวตาย บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย “ทำเอาหัวใจของเสือน้อย เต้นดังโครมคราม ความคิดเตลิดไปไกล!”
เขานึกถึงคำที่พวกเพื่อนในร้านเกมแซวกันอย่างปากเปราะว่า “ใครจะเป็นคนเคลม สาวสวยรายนี้ไป” เสือน้อยยืนอึ้ง “อย่าบอกนะว่าเป็นกู!” ก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่ม
เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง “ไอ้บ้าอย่าบอกนะว่าพี่เขาคิดจะกินเด็ก แต่เอ็งมีเป้าหมายอยู่แล้วนะโว้ยไอ้เสือ!” ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเขา ค่อย ๆ สลัดความคิดไม่ดีออกไป!
แต่พอเธอกลับมา ก็พูดเข้าเรื่องที่ต่างไปจากความคิดของเสือน้อยไปโดยสิ้นเชิง …เธอบอกเสือน้อยว่าจะขายกิจการ ช่วยหาคนมาซื้อให้หน่อย หรือถ้าเสือน้อยอยากได้ก็ลองถามพ่อแม่ดู!
หลังจากกลับบ้าน เสือน้อยจึงปรึกษาพ่อแม่ว่าจะเอาดีมั้ย? เขาอยากได้ร้านประจำจริง ๆ นั่นแหละ อีกทั้งยังเอามาทำ “ห้องปั๊มเงิน” ไว้ให้ลูกน้องได้ด้วย…
ทั้งครอบครัวปรึกษากันอยู่ได้ไม่นานพอรุ่งเช้า เสือน้อยก็ได้พาพ่อกับแม่ไปดูทำเลสถานที่ตั้งทันที
แม่ชบาเห็นว่าอยู่ใกล้โรงเรียนมาก เดินแค่ไม่ถึงห้าสิบเมตรกว่า ๆ เลยป้ายรถเมล์มาหน่อยเดียว จึงบอกว่า “น่าสนใจถ้าเอาไว้ทำอย่างอื่นก็คุ้มแล้ว” จึงพากันไปเจรจากับหล่อนดู
สาวสวยอ่อนเยาว์ ดูมีสง่าราศีไปอีกแบบจึงมานั่งปรึกษากันหลังร้าน ทั้งยังพาไปดูชั้นบนจำนวน 4 ชั้น ส่วนใหญ่ด้านบนก็จะเป็นร้านเกมหมด เธอกับสามีไม่ได้อยู่ที่นี่ “และร้านนี้ก็เป็นเธอออกหุ้นด้วย คนละครึ่งกับแฟน”
พ่อกับแม่เดินดูแล้วถามว่า “ราคาที่คิดในใจไว้จะปล่อยเท่าไหร่?” แน่นอนว่าต้องใช้เงินของเสือน้อยออก ตอนปรึกษากันเมื่อวาน แม่พูดแทรกขึ้นมาว่า “มันอยากได้ก็ใช้เงินมันสิ!”
ราคาที่เธอปล่อยด้วยความรีบร้อน จึงคำนวณจากจำนวนเครื่องคอม โต๊ะเก้าอี้แอร์ เธอตีเป็นตัวเลขประมาณ ห้าแสนเท่าทุนที่สามีเธอลงไป แต่เสือน้อยก็ส่ายหน้า “คอมเก่าสองปีแล้วราคานี้ต้องลดอีกหน่อยเถอะพี่ เบาะก็พัง ไปมากแล้วเด็กหนุ่มชี้ให้เห็น”
สาวสวยกัดฟันพูด “งั้นลดให้ห้าหมื่น! เป็นสี่แสนห้าหมื่นบาท พี่ไหวแค่นี้!” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ถ้าตัดราคามากกว่านี้เธอก็คงต้องปฏิเสธ
เสือน้อยหันไปคุยปรึกษาหารือกับพ่อแม่ ก่อนที่ตัดสินใจรับซื้อกิจการต่อ…
จากนั้นก็เรียกทนายความมาดำเนินเอกสาร เขาสมองตื่นรู้นานแล้ว “มีอะไรเรียกทนายไว้ไม่เสียหาย เพราะถ้าเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมา…จะเสียหายหนักกว่าการจ้างทนาย” เพื่อแลกกับความสบายใจแล้ว มันคุ้มสุด ๆ
…
“เปลี่ยนเป็นสัญญาเช่าช่วงเหลืออีกแปดปี ค่าเช่าก็ตกเดือนละสองหมื่นกว่าบาท” ลุงทนายดำรงติดต่อไปทางเจ้าของตึกและพูดคุยเจรจากันใหม่…แม่ก็รู้จักแกดี เจ้าของตึกยังบอกอีกว่า ถ้าให้ราคาดีคูหาข้าง ๆ ก็เช่าได้นะ
แกเล่าให้แม่ชบากับลุงดำรงฟังว่า เพราะรู้จักพ่อของคูหาข้าง ๆ เขามานาน จึงยอมลดราคาค่าเช่าให้เป็นกรณีพิเศษ หากแม่ชบาจะเช่าในราคาเดียวกันกับคูหาที่เสือน้อยอยากได้ ก็จะให้สิทธิ์แม่ชบาเช่นกัน เพราะรู้จักแม่มานานตั้งแต่สมัยเธอออกข่าวหน้าหนึ่งแน่ะ
“ค่าเช่าแพง” นี่คือหลักใหญ่ใจความที่พี่ปาน จำต้องรีบปล่อยร้านออกไป ไม่เช่นนั้นคงแย่เป็นแน่ และหม้ายสาวก็ไม่ได้ชำนาญพวกร้านเกม ด้วยเพราะเธอมีงานประจำอยู่แล้ว เป็นพนักงานบริษัท และกำลังคุยกับเพื่อน ๆ ว่าจะไปสมัครงานในกรุงเทพฯ
ลุงดำรงก็สอบถามกรรมสิทธิ์อย่างละเอียด ก่อนที่จะให้เซ็นสัญญาซื้อขายกิจการ และสัญญาเช่าตึกใหม่
จากนั้นไม่นานพ่อก็จ้างเพื่อนมาช่วยออกแบบร้านเกมให้เสียหน่อย เสือน้อยต้องการด้านล่างให้เป็นร้านปริ้นเอกสาร ถ่ายเอกสาร เป็นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ไม่ใช่ร้านเกมกระจอก ๆ จากประสบการณ์ของเขาที่เข้าร้านเกมมาไม่ต่ำกว่าห้าสิบร้าน
ทั้งละแวกนี้ และย่านอื่น เช่นรังสิต ในห้างฟิวเจอร์ปาร์ค ปากเกร็ด กองสลากสนามบินน้ำ เขาเคยไปเล่นไปดูมาแล้ว จึงเกิดความคิดรวบยอดขึ้นมา
วันต่อมา ลุงถิ่นก็มาเยือนถึงที่ และเป็นวันอาทิตย์พอดี เสือน้อยร่างแบบในจินตนาการให้ลุงถิ่นฟังแถมยังขอคำปรึกษาไปเรื่อย เขาอธิบายสิ่งที่อยากได้ให้ลุงแกฟังอย่างจริงจัง พร้อมกระดาษวาดภาพ “จะชั่วดีก็เป็นของลูกศิลปินจิตรกร จะวาดไม่เป็นเลยก็กระไรอยู่ คงอายแย่ถ้าคนอื่นเขารู้ จึงต้องเรียนรู้ไว้นิด ๆ หน่อย ๆ”
เขาอยากได้ชั้นที่หนึ่ง…ทำเป็นอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ เป็นคอมไว้สำหรับทำงาน และคนที่ต้องทำการบ้านหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต โดยมีหัวใจหลักเป็นร้านถ่ายเอกสาร มีเครื่องปริ้นเตอร์สำหรับให้คนที่มาใช้ พร้อมสั่งพิมพ์งานด้วยตัวเอง หรือจ้างพนักงานให้ช่วยทำ”
ทั้งยังขายพวกกระดาษปกแข็ง รวมไปถึงพวกสันปก ตามแต่ที่ร้านถ่ายเอกสารควรจะมี อีกทั้งพวกขนมทานเล่น พร้อมกับพวกเครื่องดื่มน้ำอัดลม ของหวานพร้อมบริการ “มีไว้สำหรับคนที่อยากทำงานกลุ่ม รวมกันทำงานไปกินขนมไป…แน่นอนว่าราคาก็สมน้ำสมเนื้อ!”
จากปัญหาที่เสือน้อยพบเจอมาเองกับตัว และเพื่อนคนรอบข้างเลยก็คือ “แถวนี้ไม่มีร้านพิมพ์งาน หรือถ่ายเอกสารที่ไหนใกล้ ๆ เลย” อีกทั้งเครื่องปริ้นเตอร์เป็นปัญหาอีกอย่าง เพราะตลับหมึกแท้มันแพงมาก “พอไม่พิมพ์นานวันเข้าหัวก็ตัน พัง เสีย ซ่อมก็จะตามมาเป็นพรวน ไม่สู้ทำในคอม แล้วมาสั่งปริ้นเอาง่ายกว่า!”
ส่วนชั้นที่สอง…เสือน้อยคิดไว้นานมากแล้ว เขาอยากได้ร้านอินเทอร์เน็ต ไว้ให้เฉพาะสำหรับพวกผู้หญิงเท่านั้น!
พ่อแม่หันมามองหน้าเขาอย่างมีเลศนัย รอยยิ้มจาง ๆ บนมุมปากเผยให้เห็น…ฟันสีขาวนวลของแต่ละคน
ทำเอาเด็กหนุ่มร้อนตัวโบกมือพัลวัน “ไม่ใช่แบบนั้นนะพ่อแม่ คือว่า…” เสือน้อยอธิบายต่อ เขาบอกว่าตั้งใจมานานแล้วทำเป็น Lady Zone เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น!
ใครบอกผู้หญิงไม่เล่นเกม? เขาเห็นมีเยอะแยะ “แต่เวลาเข้าร้านเกม กลัวไอ้พวกผู้ชายบ้ากามทั้งหลาย ที่หื่นกาม บ้างก็ชอบส่งเสียงดังโวยวาย”
อีกทั้งยังใช้ดึงดูดเด็กผู้ชายให้มาเล่นชั้นสามด้วย ใช้กลยุทธ์ดึงลูกค้าเข้าร้าน และสมมติว่ามีลูกค้าน้อย เขาก็จะเปลี่ยนเป็นร้านเกมธรรมดาสองชั้น
ส่วนชั้นสามและสี่ คือร้านเกมของจริง แล้วแต่ลุงจะช่วยออกแบบเลย มีคอมทั้งหมด…
หลังจากอธิบายเสร็จก็พาลุงถิ่นไปดูสถานที่จริง…ลุงไม่ลืมที่จะเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ มาวัดขนาดให้ด้วย ส่วนเสือน้อยเปิดภาพที่ค้นหาและพิมพ์ออกมาให้ลุงถิ่นดู เขาอยากได้ทำนองนี้แต่ราคาไม่แรงมาก เอาให้ชั้นหนึ่งเป็นหน้าเป็นตา
พอพ่อกับแม่ได้ยินแผนธุรกิจของเสือน้อย พวกเขาก็ยิ้มปลื้มใจ เพียงแต่ว่ายังไม่แสดงอาการออกมา โดยเฉพาะแม่ชบา “ไอ้เสือโง่ มันก็ฉลาดเหมือนกันนะ!”
หลังจากใช้เวลากันอยู่นาน…เสือน้อยก็มีเวลาหนึ่งอาทิตย์ในการเตรียมตัว แรงงานชั้นดีคือเพื่อนบ้านโดยรอบ และพวกนักมวยที่ว่างจากการฝึกซ้อม
“ใช่ว่าทุกคนจะได้ขึ้นชก หรือขึ้นชกแล้วจะประสบความสำเร็จ จาก 100 เพียงแค่ 10 คนเท่านั้นที่ประสบผลสำเร็จ” ดังนั้นพวกนี้ จึงผันตัวมาเป็นพี่เลี้ยง หรือว่าผู้ช่วยแทน เช่นถือเป้าล่อ หรือไม่ก็ไปทำความสะอาดนวมชกมวย เบาะรอง กระสอบทราย
ทว่าค่าแรงก็ไม่ได้เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นเด็กในพื้นที่ทั้งนั้นอายุน้อย ตั้งแต่สิบกว่าขวบไปถึงยี่สิบกว่า ๆ ส่วนพี่พวกสามสิบกว่า ๆ มีค่าตัวแพงแล้วจึงไม่ค่อยสนใจเสือน้อยเท่าไหร่ แต่พอเห็นว่าเสือน้อยจะเปิดร้านเกมก็ยินดีช่วยเหลือ
.....
ตอนเด็ก ๆ เสือน้อยที่นั่งอยู่ม้านั่งไม้ตัวประจำ “มักเห็นเหตุทะเลาะวิวาท ตบตีทั้งลักวิ่งชิงปล้นก็ผ่านตามาแล้ว” เสือน้อยมองเห็นผัวเมียตีกัน…เด็กน้อยที่เห็นพ่อแม่กันทะเลาะกัน ก็ได้แต่ร้องไห้จ้า “กว่าจะตีกันจบก็นานหลายนาที ถึงจะมีคนมาห้ามปราม”
เสือน้อยก็คิดว่า “ถ้าทุกคนมีความสุข มีงานทำมีเงินทอง” ปัญหาเหล่านี้ก็คงจะน้อยลงไปได้มาก ดังนั้นตอนเสือน้อยมีงานอะไร…เขาก็จะพยายามจ้างวานเพื่อน ๆ ในชุมชนด้านข้าง หรือคนในละแวกบ้าน แน่นอนเขาไม่ทำอะไรเกินตัวโดยเด็ดขาด เขาทำเท่าที่ตัวเองทำไหวจ้างเท่าที่ตัวเองไหวเท่านั้น!
ตัวอย่าง เช่น ขาดคนช่วยเล่นเกม เขาก็ไปจ้างคนมาช่วย และที่นึกถึงก็คือเพื่อน ๆ แถวบ้าน หรือพวกเพื่อน ๆ ในค่ายมวย “ครั้งนี้ตอนย้ายข้าวของ…ก็เช่นกันจึงแห่กันมาเป็นขบวน!”
....
-------------------
เริ่มต้นเข้าสู่บทสนุกของภาคนี้แล้ว!