ตอนที่ 21 ปะทะเดือด (1)
ตอนที่ 21 ปะทะเดือด (1)
หลังจากวันที่มีเรื่องกับเจ้าสามคนนั้นพวกเขาก็เหมือนพยายามจะเข้ามาตีสนิทกับเสือน้อย ผ่านทางหัวหน้าห้องซึ่งทำหน้าที่เป็นกาวใจให้ พวกเขากลัวเจ้าหมอนี่จริง ๆ หากมันบ้าขึ้นมาพวกเขาได้ซวยเป็นแน่
เสือน้อยเห็นความจริงใจก็เรียกพวกมันมาพูดเปิดใจกัน ปรองดองกันไว้ไม่เสียหายมีมิตรดีกว่ามีศัตรู พวกผู้ชายทั้งห้องก็เหมือนจะยกเจ้าเสือน้อยเป็นหัวหน้าใหญ่ หรือลูกพี่ใหญ่ไปโดยปริยาย “เกมชิงบัลลังก์แย่งถ้ำของห้อง 11 จึงจบลงด้วยดี แถมยังสนิทกันมากขึ้นไปอีก”
ภาษิตว่า “ไม่ตีกันไม่รู้จักกันก็เป็นเช่นนี้” ทั้งสามก็มีพฤติกรรมดีขึ้น แต่ยังไม่ทิ้งนิสัยกวนโอ๊ยเดิม ๆ ทั้งห้องผู้ชายจึงกลมเกลียวกันเป็นอย่างมาก สามัคคีช่วยกันมีชั่วร่วมทำ มีกรรมร่วมก่อ
เพื่อนห้องอื่นก็ได้ยินแว่ว ๆ ที่เสือน้อยอาละวาดไปวันก่อน จึงเล่าลือกันไปต่าง ๆ นานา ชื่อเสียงก็เหมือนจะดังขึ้นมาบ้างในหมู่นักเรียนชาย…
ทุกวันเขายังแวะเดินผ่านห้องเรียนของเหมือนฝันอยู่เป็นเนือง ๆ หมั่นไปเอาใจมาแบบรู้จังหวะ ไม่ได้ตามตื๊อจนน่ารำคาญ ฝ่ายหญิงเองก็มีตัวเลือกมากมาย เช่น รุ่นพี่ ม.2 นักฟุตบอลโรงเรียน
ทั้งรุ่นพี่และรุ่นเดียวกัน มีแต่คนหน้าตาดี ๆ เข้ามาจีบเธอ ทั้งลูกเศรษฐีแถวรังสิต แถมยังมีนายพี นักกีฬาหนุ่มเทควันโด ที่หน้าตาหล่อเหลา ทำให้สาว ๆ ยากที่ปฏิเสธ และทางบ้านของเจ้าตัวก็มีฐานะดี…
มีคนโดดเด่นมากมายในโรงเรียนมาตามชื่นชอบเธอ ขึ้นอยู่กับว่าตัวเธอจะเลือกใครก็เท่านั้น!
เพื่อน ๆ ร่วมกลุ่มของเหมือนฝัน ก็ยังแอบชอบพวกผู้ชายที่มาตามจีบเธอ ทั้งแอบหยอดใส่หนุ่ม ๆ บางคนเป็นพิเศษ และก็ทำแบบเปิดเผย ซึ่งเหมือนฝันไม่ได้ว่าอะไรเพื่อน ๆ เพราะมีอะไรแบ่งกัน เธอใช่จะคว้ามาครองได้หมดเสียเมื่อไหร่!?
ส่วนทางด้านมะปรางก็มีคนมาติดพันอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เธอก็สวยไม่หย่อนไปกว่าใครนักในกลุ่มแก๊งนางฟ้า…
ส่วนทุกวันนี้ไอ้เข้มเปลี่ยนไปจีบคนอื่นแล้ว แถมจีบติดเสียด้วย ฝ่ายหญิงยอมคุยด้วย ยังมาโม้ให้เสือน้อยฟังอยู่รอมร่อ
เป็นเหมือนที่พ่อบอก…เมื่อโตขึ้นก็จะเจอคนใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ
ส่วนมะปรางนั้นชอบนายเสือน้อยมาก บางครั้งก็แสดงออกแต่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ “จึงหันไปสนับสนุนให้นายพีจีบเหมือนฝันสำเร็จ” เจ้าเสือน้อยจะได้เปลี่ยนไปจีบคนอื่น ซึ่งนั่นอาจเป็นโอกาสของเธอก็ได่
ผู้หญิงมากมายอิจฉาเหมือนฝันเช่นกัน คนหนุ่มแต่ละคนที่มาจีบเธอ มีทั้งเพื่อนร่วมรุ่น ทั้งรุ่นพี่มีมาไม่ขาดสาย เห็นได้ชัดถึงความมีเสน่ห์ของตัวเธอเป็นอย่างมาก “…ทั้งความสวยเฉพาะตัว พร้อมกิริยาท่าทาง ทำเอามองแล้วก็ยังอยากมองอีก”
….
หลังเลิกเรียนวันหนึ่ง…
เสือน้อยเสียบหูฟังเปิดเพลง เขาเดินเตร็ดเตร่อยู่คนเดียว กำลังจะเดินไปหาไอ้เข้มเพื่อนรักเพื่อดูหน้าค่าตาแฟนมันเสียหน่อย
ขณะเดินผ่านกลุ่มนักเรียนที่นั่งอยู่ห้าคนก็ถูกมองด้วยสายตาอาฆาต “เสือน้อยที่ฟังเพลงอารมณ์ดี จึงหันไปยิ้มให้อีกฝ่าย โดยที่ไม่สนใจสายตาเหล่านั้น!”
“ไอ้ลูกแมวนี่แม่งขี้เก๊กวะ จัดแม่งเลยมั้ยไอ้พี?” เพื่อนในกลุ่มยุยงเด็กหนุ่มคิ้วหนาเข้ม หน้าตาหล่อเหลา
“เอาจริง ๆ กูก็หมั่นไส้มันมานานและ” พีพูดออกมาจากใจจริง มีหรือที่ตัวเขาจะชอบใจคนที่กล้ามาแย่งจีบสาวแข่งกับตน เขาเหม็นขี้หน้ามันตั้งแต่ที่กระแทกมันวันแรก ๆ ที่พึ่งเปิดเรียนแล้ว
เพื่อนอีกคนพูดเสริม “ตอนนี้แม่งอยู่คนเดียวด้วย จัดเสียหน่อยมั้ยล่ะ?” เพื่อนในกลุ่มอีกหลายคนพยักหน้า บางคนท้าทายกันว่าใครจะเปิดก่อน ท้ากันไปมา
จนสุดท้ายเด็กหนุ่มร่างใหญ่ชื่อ นิวได้พูดขึ้น “เดี๋ยวกูเปิดเอง” เขาหัวเราะร่านี่คือแก๊งนักเลงที่เกิดจากการรวมตัวของพวกหัวโจก จากหลากหลายห้อง
จากนั้นห้าคนก็เดินตามเสือน้อยไป พอถึงด้านหลังเป้าหมายก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง…
นิวจึงกระโดดถีบขาคู่ใส่เสือน้อยจากด้านหลัง ทำเอาเสือน้อยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ปลิวล้มคะมำลงไปกับพื้น…
แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ผ่านการเคี่ยวกรำมานาน เขารีบดีดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมวิ่งพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจคนที่ถีบเขา “เพื่อหาทางตั้งหลักก่อน…หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกต้อนปิดทางหนีทีไล่!”
พอตั้งหลักได้ เสือน้อยหันมาจ้องมอง ด้วยสายตาฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก!
สายตาสาดประกายคมกริบของเขากวาดมองคนทั้งห้า “ใครถีบกู!” เสือน้อยตะโกนถามเสียงดังลั่น ก่อนที่จะวางกระเป๋าลง เพื่อเตรียมรับมือ
แน่นอนว่าผู้คนรอบด้าน แม้จะเลิกเรียนไปแล้ว แต่ก็ยังมีนั่งอยู่ในโรงเรียนบ้างประปราย ผู้คนเมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังกึกก้อง จึงต่างพร้อมใจกันหันไปดูต้นเสียงตามสัญชาตญาณ
เด็กหนุ่มร่างใหญ่ที่ชื่อนิวเดินออกมา “กูเอง…มึงจะทำไม?” บรรยากาศที่พร้อมหาเรื่องขนาดนี้ ทำให้เสือน้อยที่อยู่ด้านหน้าตื่นตัวจนถึงขีดสุด เขาแอบขยับข้อไม้ข้อมือทันที
เสือน้อยมองพวกเขาก่อนถามว่า “พวกมึงจะเข้ามาพร้อมกันหรือทีละคน?” เขาเดินขยับตัวเปลี่ยนมุม เขาก็แค่อยากพูดถ่วงเวลาให้ตัวเองตั้งหลักได้ พร้อมมองหาทางหนีทีไล่…หากว่าสู้ไม่ได้ กลยุทธ์สุดท้ายคือหนี
เสียงหัวเราะดังลั่นออกมา “แม่งปากดีวะ กูชอบเดี๋ยวกูนี่แหละจะจัดเอง” คนชื่อนิวพูดขึ้น “มึงมาใส่เดี่ยว ๆ กับกูตอนนี้เลยมา!” เขาเดินออกมาด้านหน้าพร้อมถ่มน้ำลายลงพื้น “แต่ในขณะที่เขากำลังถ่มน้ำลายอยู่นั้น…”
“เสือน้อยก็วิ่งเข้าใส่ กระโดดถีบคืนโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะยืนขยับเท้าไปมารอให้ฝ่ายตรงข้ามลุกขึ้นยืน” เขาไม่ต้องการให้ขาตาย จึงจำต้องเดินขยับขา เตรียมตัวให้พร้อมคอยรับมือกับสถานการณ์
เด็กหนุ่มร่างใหญ่พอถูกถีบคืน จึงรู้สึกโกรธและรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก วิ่งปรี่เข้าไปพร้อมเหวี่ยงหมัดเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง
เสือน้อยตั้งหลักเตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว ครั้งนี้เขาไม่ปรานีแล้วจริง ๆ “หมัดที่เหวี่ยงใส่กระสอบทรายมานับไม่ถ้วน ปล่อยออกไปอย่างมีจังหวะชั้นเชิง เขาใช้มือหนึ่งปัดป้องหมัดที่พุ่งมา ใช้ส่วนสองขายืนปักหลักคล้ายรากไม้ ที่ต้านทานแรงช้างสาร…”
หลังจากปัดหมัดของอีกฝ่ายด้วยวิธีการพื้นฐาน ยังไม่ทันจะให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว “เขาจึงปล่อยหมัดชุด” โดนบริเวณสองจุดเข้าท้องหนึ่งหมัด ส่วนที่เขาเน้น ๆ ก็คือหมัดที่ต่อยใส่เป้ากางเกง ซึ่งทำเอาอีกฝ่ายจุกใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด
จากนั้นเสือน้อย ปล่อยหมัดซ้ายที่ชักมือกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต่อยเสยเข้าที่ปลายคางของอีกฝ่าย...
สองเท้าของเสือน้อยหลังจากปักหลักแล้ว ก็เคลื่อนไหวออกมาอย่างคล่องแคล่ว…
ความจริงแล้วเล่าเหมือนยาว หากแต่เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเท่านั้น!
ไม่รอให้ชายร่างใหญ่ตั้งตัวสองนิ้วของเขาจิ้มเข้าที่ลูกกระเดือกอย่างแรง จากนั้นก็ชกเข้าที่จมูก พร้อมเตะที่ขาพับอย่างเต็มกำลัง เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ร่วงลงไปนอนกองกับพื้น…เด็กหนุ่มร่างใหญ่ ไม่รู้ว่าจะเจ็บตรงไหนดีก่อน
ตัวเขาเมาหมัดอยู่ครู่หนึ่ง พยายามที่จะประคองสติ แต่สุดท้ายก็สลบเหมือดไป
เสือน้อย…ถอยตัวออกมาจากจุดที่อีกฝ่ายล้มลง เพราะเพื่อน ๆ ในกลุ่มอีกฝ่าย เมื่อเห็นเพื่อนท่าไม่ดีจึงพากันกรูเข้าไปช่วยเหลือ เสือน้อยที่เตรียมตัวอยู่ครู่หนึ่ง
พอเห็นกลุ่มคนอีกสี่คนพุ่งปรี่เข้ามาพร้อมกัน “เขาจึงจำต้องเลือกเหยื่อสักคนหนึ่ง” ซึ่งเป็นคนที่อยู่ตรงกลาง ส่วนไอ้พีที่ยืนอยู่หลังสุดก็วิ่งเข้ามาเช่นกัน…
เสือน้อยกระโจนพุ่งเข้าไปชน มองดูคล้ายกระทิงเปลี่ยวที่พร้อมจะเจ็บตัวจากการถูกเฆี่ยนตี เขากระโดดแทงเข่าลอยไปหาคนตรงกลาง… “ส่วนอีกฝ่าย เนื่องจากวิ่งมาแบบเรียงหน้าสามคน จึงทำให้เสือน้อยต้องจำใจยอมรับมือรับเท้าของอีกฝ่ายบ้างไปโดยปริยาย”
ยามที่เข่าของเสือน้อยกระแทกโดนคนตรงกลาง อีกสองคนด้านซ้ายขวา ที่วิ่งมาก็ปล่อยหมัดออกมาชกใส่ลำตัว กับใบหน้าของเขาคนละที แต่สำหรับเสือน้องที่เกร็งตัวรอไว้นานแล้ว จึงทนเจ็บได้อย่างสบาย ๆ
…เป็นนักมวยไทยสำคัญที่ยืนระยะยาว ใครทนเจ็บได้มากกว่าบางครั้งก็ชนะไป!
ขณะที่เท้าแตะถึงพื้น สองมือของเสือน้อยก็ปล่อยหมัดออกไปโดยไม่เลือกจุด “เขารู้แต่ว่าต้องปล่อยหมัดออกไป เพื่อช่วงชิงเวลาอันเล็กน้อยที่แลกมาด้วยความเจ็บปวด”
ตอนนี้เองนายพีก็เข้ามาเสริมทัพ “พยายามจะต่อยใส่เสือน้อย แต่เขากลับก้มลงหลบหมัดได้อย่างเฉียดฉิว” สองมือที่ดึงกลับคืนมา ก็พลันปล่อยหมัดไปอีกชุดใหญ่เต็มกำลัง! เป้าหมายคือคนที่อยู่ด้านขวาก่อน
“…เขาจำต้องทำให้คู่ต่อสู้เจ็บหนักไปสักคนหนึ่งก่อน ยิ่งคนเหลือน้อยเขายิ่งรับภาระทางร่างกาย และสมองน้อยลงเท่านั้น!”
นายพีที่อยู่ด้านหลังสุดพอชกลม ก็พยายามจะวิ่งอ้อมเข้ามาเตะเสือน้อย
ส่วนเจ้าอ้วนที่อยู่ด้านซ้ายมือโกรธจัดที่โดนต่อยเข้าที่แก้ม เขาจึงอาศัยความตัวใหญ่ของตน “ทั้งไขมันที่แน่นขนัด พุ่งโถมเข้าใส่เสือน้อยทั้งตัว มองดูคล้ายลูกชิ้นขนาดยักษ์กำลังจะพุ่งกระแทกก็ไม่ปาน”
แต่จนแล้วจนรอดเสือน้อยก็ไม่ยอมยืนนิ่งอยู่กับที่ให้ตัวเองกลายเป็นเป้าให้พวกมันซ้อม เขาขยับตัวไปอยู่ในตำแหน่งอื่นอย่างฉับพลัน ทำให้นายอ้วนที่พุ่งเข้ามาก็ได้แต่วิ่งเก้อ
ส่วนนายพีที่เดินหน้ามาพร้อมท่าเตะเทควันโดพื้นฐาน เสือน้อยก็ปล่อยหมัดล่อออกไปข้างหนึ่งเพื่อชกไปที่นายพี แต่นายพีกลับก้าวถอยไปหนึ่งก้าว ตั้งท่าเตรียมพร้อมเตะสวนคืนมา
ทำเอาเสือน้อยจำต้องถอยร่นก่อนเช่นกัน เพราะเจ้าอ้วนพยายามจะจับปล้ำเขาลงไปกับพื้นให้ได้
ส่วนคนตรงกลางที่โดนเข่าลอยกระแทกไปคนแรกก็เริ่มฟื้นตัวยืนขึ้นมาได้นิดหน่อยแล้ว ไม่เหมือนอีกสองคน “…คือคนแรกที่กระโดดถีบหลังเสือน้อย” กับ “คนที่อยู่ด้านขวาที่ถูกเสือน้อยปล่อยหมัดชุดใหญ่เต็มกำลัง” จนจุกล้มไปนอนกองกับพื้น
เสือน้อยมองทั้งสาม ก่อนเลือกที่จะเล่นงานไอ้อ้วนตรงหน้า “เล่นงานคนที่อ่อนแอที่สุดก่อน” หลักการพื้นฐานแค่นี้สำหรับเขาแล้วไม่มีอะไรเลย ส่วนคนตรงกลางที่ร่างได้สัดส่วน เขาตั้งท่ามวยไทยพยายามจะรอเสริมทัพเจ้าอ้วน …
“ส่วนไอ้พีที่เจ้าเล่ห์ที่สุด มันกลับรอฉกฉวยโอกาสเล่นงาน เพราะดูเหมือนไอ้หมอนี่จะไม่กระจอกอย่างที่เขาจินตนาการไว้!!”
เสือน้อยแสร้งทำทีจะสะดุดล้ม เปิดโอกาสให้เจ้าอ้วนพุ่งปรี่เข้ามา ก่อนใช้เท้าสกัดให้อีกฝ่ายกลิ้งลงไปบนพื้น ทำเอาอีกฝ่ายกลิ้งล้มเข่าถลอกจนเป็นแผลไปทั้งตัว
คนตรงกลางที่ตั้งท่าดูเหมือนจะเป็นมวย ชั่วพริบตาก็วิ่งเข้ามาปล่อยหมัดใส่ ทางด้านนายพีที่กำลังเตรียมเป็นกองหนุน เมื่อเห็นเพื่อนช่วยบุกเป็นด่านหน้าให้แล้ว
เขาจึงประสานงานอาศัยจังหวะไม่ทันตั้งตัวของเสือน้อย เคลื่อนไหวคล้ายเงาไปมาอยู่ด้านหลังเพื่อน
เสือน้อยหลบหมัดตรงซึ่งอีกฝ่ายปล่อยมาได้ “…แต่ทว่ากลับโดนหมัดของนายพีจากมุมอับสายตาต่อยเข้าที่ขมับ” ทำเอาเขาซวนเซ แต่ยังไม่ลืมที่จะสับศอกใส่คนตรงหน้า เสือน้อยพยายามสับศอกลงบนกลางอก
…หากแต่ความแรงลดลงไปมาก เพราะโดนหนึ่งหมัดเข้าที่ขมับ ทำเอาเรี่ยวแรงเกินกว่าครึ่งหายไป เขาต้องถอยร่นไปด้านหลังหลายก้าวเพื่อเว้นระยะห่าง
เจ้าอ้วนลุกขึ้นมาใหม่พยายามจะทำแบบเดิม แต่คราวนี้เสือน้อยกัดฟัน ทำทีเหมือนจะพุ่งชนเข้าประสานงา ทว่าพอเข้าใกล้กัน เขาพลันก้าวไปด้านข้าง ใช้มือซ้ายสองนิ้ว จิ้มตาของอีกฝ่าย
พออีกฝ่ายหลับตา…ก็จะเป็นเวลาที่เสือน้อยเริ่มขย้ำเหยื่อ
พอเจ้าอ้วนหลับตาลง เสือน้อยก็ปล่อยหมัดเข้าชายโครงอย่างเต็มกำลัง อีกหมัดก็ต่อยเข้าท้องน้อย “พร้อมแทงเข่าใส่เป้ากางเกงของอีกฝ่าย ทำเอาจุกจนลงไปนอนกองกับพื้น…”
“ต้องเข้าใจก่อนว่า ความเร็วในการออกหมัดของนักมวย…ที่ต่อยใส่กระสอบทรายเป็นประจำกับคนที่ไม่เคยฝึกมาก่อน เอาแต่ท้าตีท้าต่อยอย่างเดียวนั้นมันต่างกันมาก!”
-------------------
“อย่าลืมกดหัวใจ” และสามารถคอมเมนต์ติชม พูดคุยกันได้นะครับ