ตอนที่ 33 เสือแบกเป้…พีเปิดแผล
ตอนที่ 33 เสือแบกเป้…พีเปิดแผล
มีคนกล่าวเอาไว้ว่า “ช่วงมัธยมคือช่วงที่ดีที่สุดของชีวิต ต้องสนุกกับมันให้เต็มที่…”
พอขึ้น ม.2 เสือน้อยรู้สึกเหมือนว่าเวลาผ่านไปไวเหลือเกิน คงด้วยเพราะงานที่เขาทำมีมากมายเหลือเกิน จึงคล้ายกับว่าเวลาเดินเร็วกว่าปกติ…
ส่วนทางด้านนายพีนอกจากซ้อมเทควันโดตอนปิดเทอมแล้ว ก็ไม่ลืมบริหารเสน่ห์ ด้วยตัวเขาเองแล้วมีสาวทั้งเพื่อนร่วมรุ่น ทั้งรุ่นพี่เข้ามาหามากหน้าหลายตา แต่ระหว่างนี้ก็แอบ ๆ คุยกันโดยตลอด เพราะเป้าหมายหลักของเขาก็คือเหมือนฝัน “ส่วนคนอื่นก็เพียงแค่ทางผ่าน”
คล้ายก๋วยเตี๋ยวที่กินตามข้างทางเสร็จแล้วก็ขับรถต่อไป หรือจะเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็คือแวะเข้าไปฉี่ในปั๊มน้ำมัน พอเสร็จก็กลับออกมาหน้าตาเฉย
สาวที่โทรมาตามตื๊อเขาไม่ได้น้อยไปกว่าผู้ชายที่มาตามจีบเหมือนฝันเลย กลับเยอะเสียกว่าด้วยซ้ำไป และตอนที่ปิดเทอมตัวเขาก็ควงสาว ๆ เหล่านี่ไปดูหนังอาทิตย์ละคน…ไม่ซ้ำหน้า จนกระทั่งต้องยอมนั่งดูหนังในโรงหนังเพื่อดูเรื่องซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ ถึงสามสี่ครั้งก็มี
มือมารที่คล้ายงูเลื้อยคลานอยู่บนทรวดทรงองค์เอว ทั้งสองเนินจนไปถึงใต้สะดือ “เด็กสาวหลายต่อหลายคน” พอเขาเล่นจนหนำใจก็บอกเลิกด้วยเหตุผล “เราไปกันไม่ได้”
ตัวเขาคิดว่า “ไม่ผิดที่จะบอกเลิกก็เพราะฝ่ายหญิงหลายคน รู้ดีแก่ใจว่าเขากำลังคบหาดูใจกับเหมือนฝัน ก็ยังมาเสนอตัวให้เขาถึงที่”
พีคิดว่ามันคงเป็นความฝันของสาว ๆ ที่อยากใกล้เข้าชิดเขา “เฮ้อ!” บางครั้งเด็กหนุ่มก็แอบถอนหายใจ “คนหน้าตาดีมันก็ลำบากเหมือนกันแฮะ…”
ผู้หญิงที่อยากได้เขามีมานับไม่ถ้วนจริง ๆ จนบางครั้งเครื่องโทรศัพท์ของเขาก็ค้างไปเลย เนื่องจากว่า SMS ที่ส่งมาเยอะเกินจะเปิดอ่าน
ส่วนใน MSN หรือ HI5 นั้นไม่เคยขาดคนมาอ่อย สำหรับคนที่มาให้ท่าถึงที่ ตัวเขาก็ได้จัดการตามระเบียบสองฝ่ายยินยอม…ทำให้เขาหักอกบรรดาสาว ๆ มากมายเกินจะนับไหว
บางคนเขาถึงขั้นจำหน้าไม่ได้ด้วยซ้ำ เวลาที่เจอกันยังเรียกชื่อผิดเรียกชื่อถูกอยู่เลย
ส่วนคนที่เก็บเป็นอะไหล่สำรองนั้นย่อมมีดีในตัวไม่น้อย เช่นรุ่นพี่ ม.2 คนหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้เหมือนฝันแม้แต่น้อย เขากระเหี้ยนกระหือรือที่อยากจะได้ผู้หญิงคนนี่รองจากเหมือนฝัน
ด้วยเพราะวัยรุ่นเป็นวัยแห่งความคึกคะนอง…อยากรู้อยากลอง พีรพัฒน์เองก็เหมือนเปลวไฟอันร้อนแรง ส่วนหญิงสาวก็เหมือนแมลงเม่าที่โหยหาแสงสว่างอันเจิดจ้า จนบางครั้งพวกมันก็เผลอถูกไฟเผาตาย
พอยิ่งขึ้น ม.2 พีก็เหมือนปลาได้น้ำคราวนี้เขาได้กลายเป็นรุ่นพี่แล้ว ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาย่อมดึงดูดบรรดาสาวน้อยที่พึ่งลืมตาดูโลกกว้างใหญ่ ทำเอาเจ้าตัวรู้สึกเหมือนเป็นดาราที่มีสาว ๆ มารุมล้อม
ทว่าเป้าหมายหลัก ๆ ของเขาก็ยังเป็นเหมือนฝัน แต่ทว่าเมื่อผ่านผู้หญิงมาหลายคน ความโหยหานางในฝันของเขาก็ค่อย ๆ จืดจางลงไป “กลับเป็นตัณหาเข้ามาแทนที่เสียมากกว่า”
เด็กหนุ่มยังไม่ลืมเล่าวีรกรรมอันเด็ดดวงให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มก๊วนฟัง ทำเอาเพื่อน ๆ พากันอิจฉาเสียเต็มประดา
...
ในวันหนึ่งเมื่อเสือน้อยกับเพื่อน ๆ เดินผ่านกลุ่มของพวกเขา…
โทสะที่อัดอั้นมานานก็คล้ายได้โอกาสปลดปล่อย เขาอยากตอกหน้ามันจริง ๆ ถ้าเป็นไปได้อยากจะชกมันเต็มๆ สักหมัด วันนี้เมื่อเห็นมันเดินผ่านมาเขาตั้งใจจะหักหน้าไอ้หมอนี่ จึงหันไปกระซิบกับกลุ่มเพื่อนร่วมแก๊ง “ที่เห็นฉากรจนาเลือกคู่ในวันนั้น!”
“กิ๋ว ๆ เฮ้ย…นี้มันพี่ลูกแมวนี่หว่า!” พีเดินออกมาขวางทางอยู่คนเดียวก่อนพูดจาเยาะเย้ย “เป็นไงได้ข่าวซื้อมาลัยไปให้ผู้หญิง แต่ผู้หญิงเขาดันเอาไปให้ผู้ชายคนอื่นว่ะ…ฮ่าฮ่าฮ่า!” เขาหัวเราะลั่นทำเอาคนที่อยู่โดยรอบหันมามอง กลุ่มเพื่อน ๆ ก็ผสมโรงเยาะเย้ย
“นี่วันหลังถ้ามึงอย่างเป็นสังข์ทองนะ มาบอกกูก็ได้เดี๋ยวช่วยหาให้เพื่อน!” พีเอามือตบไหล่อีกฝ่าย “นางรจนาเขาไม่เลือกมึงว่ะ…แต่เขาเลือกพี่ชายกู!” เด็กหนุ่มพูดจาเสียงดังกลัวว่าคนจะไม่ได้ยิน
ยังพูดซ้ำแทงใจดำต่อด้วยว่า “ไอ้รจนาเลือกคู่ที่มึงคิดอะ แม่งโคตรน้ำเน่าเลยว่ะไอ้ลูกแมว!”
“เหมียว ๆ” เสียงแซวดังมาจากกลุ่มเพื่อน
เสือน้อยพอได้ฟังก็เข้าใจรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร อีกฝ่ายพูดเปิดเผยมาหมดเสียขนาดนี้ ถ้าเกิดเขาไม่เข้าใจก็โง่เต็มทน ส่วนกลุ่มเพื่อนด้านหลังที่โกรธแทนเสือน้อยก็พากันกำหมัดแน่น
เสือน้อยรวบรวมสติข่มอารมณ์ “ที่มึงให้ไอ้รุ่นพี่คนนั้นมาจีบมะปรางก็เพราะจะล้างแค้นกูเหรอ?” เสือน้อยถามทั้งที่ตนรู้อยู่แก่ใจ
พียิ้มละไมเขาไม่มีคำตอบใด ๆ ให้เสือน้อย
“เฮ้อ...ใส่ที่ปิดตามาเกือบเทอม มันไม่ได้กระเตื้องปัญญามึงขึ้นมาบ้างเลยเหรอวะ ไอ้ทรพี!” เสือน้อยพูดกลั้วหัวเราะ เขาก็สามารถเปิดแผลอีกฝ่ายได้เหมือนกัน
พอพีได้ยินดังนั้นจึงเกิดอารมณ์ขึ้นมาจากสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน…ตอนนี้เปลี่ยนมาเต็มไปด้วยโทสะสองมือกำแน่น
ตลอดเวลาที่ฝึกเทควันโดมาหลายเดือน เขาตั้งใจจะเอาไว้สู้กับไอ้หมอนี่ตัวต่อตัวมาโดยตลอด
เสียงหัวเราะของสิงหาดังขึ้น “ไอ้ทรพีเหรอวะ…มึงแม่งเข้าใจคิดนี่ไอ้เสือน้อย ฮ่าฮ่าฮ่า!” ก่อนที่จะสัพยอกต่อว่า “เฮ้ย...นี่อย่าบอกนะว่าพ่อมึงชื่อพา?”
เสือน้อยยิ้มหยัน “กูว่าก็คงงั้นว่ะเพื่อน ไอ้ทรพี ลูกไอ้ทรพา” เด็กหนุ่มเห็นอีกทำตาใส จึงหัวเราะลั่น
ก่อนจะพูดเย้ยหยันว่า “เฮ้ย...อย่าบอกนะว่ามึงไม่รู้จัก จุ๊จุ๊ สมเป็นไอ้ทรพีจริงๆ วะ?” เสือน้อยหัวเราะลั่น ชี้ไปที่ไอ้พวกกลุ่มเพื่อนซึ่งกำลังนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม “นี่ ๆ พวกมึงรู้จักมั้ย ทรพีลูกของทรพาอะ?”
เพื่อน ๆ กลุ่มของพีไม่มีใครสักคนที่รู้จัก ก็เพราะเด็กเกเรมารวมตัวกันนี่นะ พวกเขาตาใส ทั้งส่งสายตาให้แก่กัน “เชิงถามว่ามีใครรู้จักมั้ย?”
จากนั้นแก๊งตัวป่วนเพื่อนของเสือน้อยก็พูดพลางชี้มือใส่ไอ้พี “ทรพา ทรพา ทรพา!” กลายเป็นมหกรรมล้อเลียนชื่อพ่อไปโดยปริยาย ทั้ง ๆ ที่เดาแบบสุ่ม ๆ แต่พ่อของเขาดันชื่อพาเสียได้
“ไอ้ลูกแมว!” เด็กหนุ่มกัดฟันกรอด ทำท่าจะชกต่อย เอาจริง ๆ เขาก็ไม่รู้เรื่องไอ้ทรพาอะไรนั่น…แต่มันโกรธเวลาโดนแซว โดนเรียกแบบนี้
เสือน้อยยิ้มบาง ๆ พูดขึ้น “ดูสิ…โมโหแล้ววะ เฮ้ย! อย่าใช้กำลังสิปัญญาชน เถียงสู้เขาไม่ได้!” เสือน้อยพูดเตือนสติ ก่อนหันไปมองกลุ่มเพื่อน ๆ ของนายพี “เชื่อกู...อยู่ห่าง ๆ เพื่อนมึงไว้แม่งตัวหายนะ เลยนะพวกมึง” เขาแสร้งถอนหายใจเสียงดัง ทำทีปลงตกกับไอ้ทรพี
“ส่วนมึงไอ้ทรพี ไอ้ไก่อ่อนสอนขัน...ระวังตัวไว้ให้ดีนะเพื่อน!” เสือน้อยเดินไปตบบ่าเขาคืนแบบแรง ๆ
...
“ที่แท้ไอ้รุ่นพี่คนนั้นก็เป็นแผนของไอ้ทรพีนี่เอง...” เขาอดส่ายหน้ายิ้มเจื่อนไม่ได้ ความจริงถ้าฝ่ายหญิงมั่นคงเสียหน่อยก็คงไม่เป็นเช่นนี้ ส่วนตอนนี้สมองของเขาก็กำลังคิดวางแผนจะเอาคืนไอ้ลูกควายที่ยังไม่โตเต็มวัยคนนี้ยังไงดี
ก่อนหันไปหาเพื่อน ๆ “เอ่อ…มีใครอยากได้เงินใช้บ้าง อันนี้กูจ้าง”
กลุ่มเพื่อนมองหน้ากัน และถามว่า “งานอะไรวะ!?”
“กูต้องการรู้ประวัติไอ้พีทั้งหมด…เพื่อนสนิทในโรงเรียน รุ่นพี่ในโรงเรียน พ่อแม่ของมันทำอาชีพอะไร? งานนี้กูต้องการข้อมูลแบบละเอียด ส่วนค่าจ้าง…อยู่กับไอ้เสือไม่มีคำว่าเอาเปรียบแน่นอน!”
ก่อนเพื่อน ๆ ในกลุ่มจะสุมหัวคิดกัน “พวกกูรับเอง วางใจได้”
ทว่าเสือน้อยก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “พูดกันให้ชัดก่อนนะ งานนี้ต้องสืบแบบลับ ๆ ช่วงนี้มันทำอะไรบ้าง เกี่ยวข้องกับใครบ้าง ต้องไม่ให้มันรู้ตัว...เข้าใจตรงกันนะ เพราะถ้ามันจับได้พวกมึงอาจอยู่ในอันตราย มีเวลาให้หนึ่งอาทิตย์”
สำหรับเสือน้อยคิดว่าถ้าจะให้ม้าวิ่งก็ต้องมีหญ้าให้กิน คนก็เช่นกัน คิดจะใช้เพื่อนทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นได้อยู่ “แต่หากใช้เรื่องใหญ่ ๆ อย่างน้อยควรตอบแทนให้สมน้ำสมเนื้อ”
.....
ในอาทิตย์ที่ผ่านมาเสือน้อยตอนพักกลางวันหรือตอนเย็นแทบไม่เจอเพื่อนเลย จึงโทรเรียกสมุนมือซ้ายขวามา “เฮ้ย! พวกมึงไปสืบได้ยังพวกคนไหนที่รวย ๆ ดูมีสตางค์จะได้ขายกระเป๋ากันเสียที อย่าลืมนะว่าต้องกระจายข่าวแบบลับ ๆ”
ยักษ์ : ได้มาหลายคนแล้วพี่เสือส่วนใหญ่เป็นเด็กห้องสิบสี่
ใหญ่ : ผมก็กระจายข่าวคร่าว ๆ แล้วกระเป๋ามีน้อยคนมีเยอะราคาน่าจะดีดขึ้นพี่
เสือน้อย : ดีมาก ถ้ามันมีคนต้องการเยอะ มึงก็ซื้อใจไว้!
ตั้งแต่เข้าเรียนไม่ผิดจากที่คาดเสือน้อยให้เจ้าสองคนนี้และเด็กแถวบ้านที่เป็นลูกสมุนใส่กระเป๋ารุ่นเก่า “เอาไว้คุยข่มกับเพื่อนเช่นว่า มรดกตกทอด ฯลฯ จนมีข่าวแพร่สะพัดในกลุ่ม ม.1 ว่ามีคนปล่อยกระเป๋ารุ่นเก่า ใครที่ใส่มันก็ดูเด่นสะดุดตา ดูเท่กว่าคนอื่นเป็นไหน ๆ”
เสือน้อยทยอย ๆ ปล่อยของราคาก็ดีดขึ้นเป็น 5 เท่าในช่วงเริ่มแรก เขาปล่อยเพื่อให้คนลองตลาดให้คนที่เห็น อิจฉาจนอยากได้เสียก่อน จากนั้นก็กระจายข่าวไปเพิ่มความน่าสนใจไปอีกระลอก คราวนี้ไม่ใช่แค่เด็ก ม.1 ที่ร่วมด้วย ยังมี ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ม.6 ตามมาด้วย
เมื่อความต้องการสูงปริมาณน้อย “ราคาย่อมพุ่งขึ้นเป็นธรรมดา”
เสือน้อยจ้างคนมารับเจรจาปล่อยของ บ้างก็ทำเป็นเรื่องเป็นราว เปิดประมูลพวกที่สภาพดีที่สุดสิบใบไปเลย แต่ละใบมีรูปถ่ายแนบว่าได้มาจากใคร...
...
หลายวันถัดมาใช้เวลานานกว่าที่คาด พวกกลุ่มเพื่อน ๆ ที่นำโดยไอ้สมชายก็กลับมารายงานหัวหน้าแก๊ง อย่างละเอียดยิบ
สิงหาได้ทีก็เป็นนำเสนอผู้เปิดหัว “ที่กูพบมานะ ตอนปิดเทอมไอ้นี่แม่งสุดจัดปลัดบอก ควงหญิงอาทิตย์ละคนได้ไปหลายคนด้วยทั้งรุ่นพี่ รุ่นเดียวกัน เพื่อนสนิทมันยืนยันมาเอง กูไปหลอก ๆ ถามสองถึงสามคน”
ต่อมาต่ายก็เสริมขึ้นทันควัน “กูสืบประวัติครอบครัวมันมาละไอ้ห่าที่น่าตกใจคืออะไรรู้มั้ย? พ่อมันชื่อพาที มีคำว่าพาจริงๆ ด้วยโว้ย”
เสือน้อยทำท่าตกใจเล็กน้อย เขาหันมามองไอ้ต่ายอย่างสนอกสนใจในข้อมูล “พ่อมันเป็น สจ. แม่เป็นนักธุรกิจ ครอบครัวมีลูกคนเดียว ญาติพี่น้องเยอะ เครือข่ายอิทธิพลของ สจ. มันมีเยอะอยู่”
สมชายยิ้มอย่างมีเลศนัย “แต่ของกูนี่สิน่าสนใจ...ไอ้พีแม่งเป็นนายหน้าขายบุหรี่เว้ย!” ทุกคนก็หันมามองเพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ “คือมันมีประเด็นอยู่ว่า…กูไปเยี่ยวแล้วเจอเพื่อนเก่าถามมันว่าไป เอาบุหรี่มาจากไหนวะใครแม่งขายให้มึง?”
“มันก็บอกว่าพี่ทิด ม.5 เป็นคนขายให้ ตอนแรก ๆ กูก็ปล่อย ๆ ผ่าน จนกระทั่งสืบคนที่ไอ้พีแม่งสนิทด้วยปรากฏว่าเจอ ‘ไอ้ทิดกับไอ้พี’ มันเหมือนจะร่วมมือกัน อันนี้กูก็เลยร่วมมือกับไอ้วา เพราะแม่งหน้าตาดูเหมาะเป็นเด็กล่อซื้อที่สุดละ”
วาพูดขึ้นด้วยความภูมิใจ “กูไปถึงขั้นตามย้อนรอยเลย มันขายกันเปิดเผยแต่ราคาแพงเอาเรื่อง แต่ขายทุกวันขายคนประจำเท่านั้น กูไปขอแบ่งซื้อมา” จากนั้นพวกเขาก็สาธยายถึงวิธีได้มาของข้อมูล
เปรม สาม เอส “พวกกูสามคนรับล่ารายชื่อคนสนิทที่อยู่ในโรงเรียนมาให้ อีกทั้งยังได้ผู้หญิงที่มันไปพัวพันด้วย แต่มีคนหนึ่งเหมือนจะยอมพูด แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดปากง่าย ๆ กูว่าอันนี้มึงต้องใช้เงินง้างปากเธอเอง…”
เสือน้อยพูด “ดีมาก! จัดการต่อไปเรื่องบุหรี่ให้ความสำคัญหน่อย บีบจุดอ่อนมันง่ายเลย ส่วนผู้หญิงที่มันเคยไปมีอะไรด้วย พามาหากูหน่อยประเดี๋ยวจัดการเอง” ก่อนจะแจกจ่ายเงินให้เพื่อน ๆ คนละสามพัน ทำเอาทุกคนตาลุกวาว
“ตามอีกเน้นไปที่ เรื่องของบุหรี่กับผู้หญิงคนนั้น...” เสือน้อยนึกถึงการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้อย่างเลือนราง
....…
ผ่านไปไม่นานเปรมก็พาเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นปีมาหาเสือน้อยจนได้
เสือน้อยได้พูดกล่อมว่า “นี่…ไม่มีอะไรเราแค่อยากถามเกี่ยวกับนายพี เธอรู้ใช่มั้ยเราเคยตามจีบเหมือนฝันอยู่?” เขาเน้นที่คำว่าเคย
เธอจึงตอบว่า “อื้อ!”
หน้าของเสือน้อยเป็นเหมือนกับมาสคอตประจำโรงเรียนก็แน่ล่ะใคร ๆ ก็จำเขาได้ทั้งนั้น
“ดังนั้นเราจึงอยากรู้เรื่องความเจ้าชู้ของไอ้พี...จะได้เอาไปเป็นไม้เด็ดพิชิตใจสาว ถ้าเธอยอมบอกเรามีค่าจ้างให้ด้วยนะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นหญิงสาวก็ได้บรรยายความเลวของไอ้ทรพีเสียเต็มประดา เธอเองก็ได้เล่าเรื่องที่ตัวเธอและเพื่อนแข่งกันตามตื๊อนายพี จากนั้นก็ถูกมันลวนลาม สุดท้ายมันตะล่อมจนเผลอตัวเผลอใจให้มัน
“และพอเราไปโวยวายตามตื๊อขอให้มันรับผิดชอบ มันก็ปัดบอกต่างสนุกด้วยกันทั้งคู่จะมาเอาอะไรอีก?” หญิงสาวคนนี้เล่าอธิบายเรื่องนี้ให้เสือน้อยฟัง
เสือน้อยก็ขอเบอร์ติดต่อเธอเอาไว้ เขาเตรียมวางแผนให้เธอไปเล่าเรื่องนี้ให้เหมือนฝันฟัง พร้อมให้ค่าจ้างไม่ใช่น้อย
ส่วนถ้าเธอยอมร่วมมือไปเล่าเรื่องนี้ให้เหมือนฝันฟังตามแผนจะให้เพิ่มอีก ระหว่างนี้จึงขอให้เธอพยายามตื๊อไอ้พีไว้ก่อน ก่อนจะดำเนินการตามแผน ทั้งคู่ต่างได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายหญิงเธอชื่อเพลงขวัญ เป็นผู้หญิงน่ารัก ๆ เป็นดาวเด่นประจำห้องเจ็ดเลย หน้าตาในช่วงอายุเท่านี้บางมุมก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร มันออกมาจากความมั่นใจของเธอเอง
ความจริงในใจของเพลงขวัญเองก็ไม่อยากให้ไอ้พีมันลอยหน้าลอยตาแบบนี้ ได้เธอแล้วก็ทิ้งไป เธอยังไปกล้าเรียกร้องอะไรได้อีกโชคดีที่ป้องกันเมื่ออีกฝ่ายไร้เยื่อใยกับเธอก่อนบวกกับแผนของนายเสือน้อยก็ยิ่งทำให้เธอฮึกเหิมขึ้นมา
“ค่าจ้างดีทำให้มีแรงผลักดัน…”
-------------------
เอาล่ะมาดูศึกต่อไป สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพทหาร!