ซุกเมีย3 ศึกษามาแล้ว
“พีช ไม่เอาอย่าเล่นแบบนี้” เสียงนุ่มนวลของฟิล์มร้องปรามเมื่อฉันจับแขนของเธอทั้งสองข้างขึงลงกับเตียงนอนและกดเอาไว้
“ฟิล์มจ๋า ไม่ห้ามได้ไหม พีชอยากจูบ” ฉันเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานเยิ้ม บอกถึงความต้องการที่กำลังพลุ่งพล่านไปทั่วร่าง
“พีชสัญญาก่อนสิว่าจะรักฟิล์มแค่คนเดียว” ฟิล์มยิ้มยั่วหลังจากที่เธอลั่นวาจาว่าต้องการคำสัญญา
“ฟิล์มจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พีชรัก” ฉันบอกอย่างไม่ลังเล เพราะฉันคิดว่าฉันรักผู้หญิงที่นอนอยู่ใต้ร่างฉันตอนนี้
ฉันรู้สึกใจเต้นแรงกับฟิล์มมาเนิ่นนาน เราสองคนอยู่ในสถานะของคำว่าเพื่อนรัก ทุกช่วงเวลาของฟิล์มมีฉันอยู่ข้างๆ เสมอตั้งแต่เรารู้จักกัน
“พีชก็เป็นคนเดียวที่ฟิล์มรัก ฟิล์มจะรักแค่พีชคนเดียวและตลอดไป” เมื่อสิ้นประโยคนี้ ฉันกรีดยิ้มหวานก่อนจะโน้มหน้าลงไปใกล้ชิด เราสองคนสบตากัน
เรียวปากของเราทั้งสองประกบแนบชิด ก่อนจะป้อนจูบที่ไม่ประสีประสา สอดเรียวลิ้นเกี่ยวกันอย่างทุลักทุเล
เราเป็นครั้งแรกของกันและกัน
“พีชรักตัวนะ” ฉันถอนจูบออกแล้วพร่ำคำรัก
ต่อจากนั้นฉันก็ลุกขึ้นนั่งปลดชุดนอนตัวยาวออกจากเรือนร่างของฟิล์ม ส่วนฟิล์มก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วถอดชุดนอนของฉันออกเช่นกัน
ตอนนี้ร่างของเราสองคนเปลือยเปล่า ฉันมองจ้องผิวขาวเนียนสวยผ่อง แล้วค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบไล้ตามเรือนร่างงาม ลูบคลำไปทั่วเรือนกายแล้วมาหยุดอยู่ที่เต้าเต่งตึง
ฉันใช้มือกอบกุมและใช้นิ้วลากไล้ที่ยอดเม็ดอก ขณะที่ใบหน้าของฉันซุกอยู่ที่ซอกคอของฟิล์ม
“พีช...เค้าเสียว” เสียงครวญครางหวานๆ ทำให้ฉันขบเม้มที่ซอกคอของฟิล์มแรงขึ้น
“เค้าขอทำตัวบ้า” ฟิล์มผลักฉันนอนลงบนเตียง จากนั้นเธอก็โน้มตัวมาทาบทับฉัน เราจูบแลกลิ้นกัน ต่อมาเธอก็ซุกไซ้บริเวณซอกคอ เลื่อนตัวต่ำลงไปเรื่อย ๆ
ฟิล์มใช้ลิ้นแตะเลียที่ยอดอกที่เต่งตึง ซึ่งไม่เคยผ่านมือชาย
ฟิล์มดูดเลียเหมือนเด็กหิวนมแม่
“อ๊ะ! ตัว...เค้ารู้สึกแปลกๆ” ฉันครางด้วยน้ำเสียงแหบพร่า รู้สึกเหมือนจะขาดใจ บางคราเหมือนลอยคว้างกลางอากาศ
“มีมากกว่านี้อีกนะตัว เค้าศึกษามาแล้ว” ฟิล์มเคลื่อนตัวขึ้นมาประกบเรียวปากฉัน จากนั้นก็ถอนจูบออกแล้วส่งยิ้มแสนหวาน
“ศึกษายังไง ไหนทำให้เค้าดูหน่อย จะเก่งไหมน้า...” ฉันยิ้มยั่วพร้อมท้าทาย
“หืม... ท้าเค้าเหรอ เตรียมเสียงไว้ครางได้เลยจ้ะ” สิ้นประโยคนี้ฟิล์มก็เคลื่อนตัวและซุกหน้าลงกลางกายของฉัน
ตื่นเต้นจัง ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย!
ฟิล์มบรรจงจูบกลางเนินสามเหลี่ยม แล้วใช้นิ้วแหวกกลีบกุหลาบแยกจากกัน จากนั้นเรียวลิ้นเล็กก็แตะลงกลางเม็ดเสียวซ่านที่ทำให้ฉันสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ฉันผงกศีรษะและขยับตัวเล็กน้อย เพื่อมองการกระทำของฟิล์ม ฟิล์มกำลังพิถีพิถันในการทำอย่างตั้งใจ ผู้หญิงหน้าสวยกำลังพยายามสร้างความสุขให้ฉัน
“อ๊ะ! อื้ม” ฉันครางออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว เพราะฟิล์มรัวลิ้นเรียวและจูบดูดตรงติ่งเสียว พร้อมกับแยงนิ้วเข้าออกในช่องสงวนของฉัน
“อ๊า! ตัว...คะ เค้าจะขาดใจแล้ว อื้ม...” ฉันร้องเสียงกระเส่าพร้อมกับบิดตัวไปมา มันทรมานปานจะขาดใจ
ยิ่งฟิล์มเห็นฉันตอบสนอง ฟิล์มก็ยิ่งละเลงตรงจุดที่ทำให้ฉันส่งเสียง
ผู้หญิงมักจะรู้จุดเสียวซ่านของตัวเอง ฟิล์มจึงใช้ทุกวิธีที่มีมาบำเรอร่างกายฉัน
และไม่นานนักร่างของฉันก็เบาหวิวอ่อนระทวยไปทั้งตัว ฉันนอนหอบหายใจรวยริน พยายามปรับรับอากาศเข้าปอด หลังจากที่เหนื่อยหอบมาหลายนาที
“เป็นไง ฝีมือเค้าใช้ได้ไหม” ฟิล์มเอ่ยถามพลางทิ้งตัวลงนอนข้างฉัน เธอใช้มือบางลูบไล้เกลี่ยเส้นผมที่ปกคลุมใบหน้าฉัน แล้วจากนั้นก็ขยับตัวเข้ามาประชิดและประกบจูบที่เรียวปากฉัน
“ดีมากเลยจ้ะ ไหนให้เค้าลองทำตัวบ้างดิ” ว่าจบฉันก็ลุกขึ้นคร่อมแล้วใช้ลิ้นลากเลียที่หน้าอกเต่งตึง ขยับโน้มหน้าไปที่ซอกคองาม ซุกไซ้ขบเม้มที่ลำคอ พลางใช้มือลูบคลำที่กลางเนินสามเหลี่ยม
ใช้นิ้วค่อยๆ แหวกกลีบกุหลาบออกจากกัน แล้วจากนั้นก็สอดใส่นิ้วเรียวเข้าไปในช่องทางรัก
“อ๊ะ! พีช...” ฟิล์มส่งเสียงครางเมื่อฉันกระดกนิ้วเรียวขึ้นลงในช่องทางรักขณะที่นิ้วโป้งก็บี้เบาๆ ตรงติ่งเกสร
ฉันประกบริมฝีปากบางในทันที แล้วจากนั้นก็ละเลงช่วงล่างตามจังหวะท่วงทำนองที่ฉันเป็นคนสร้าง
เสียงครางของฟิล์มอู้อี้อยู่ในลำคอ มือบางของเธอลูบไล้ไปมาที่แผ่นหลังของฉัน
ไม่นานนักเธอก็อ่อนระทวยเหมือนที่ฉันเป็นเมื่อก่อนหน้านี้...
“เค้ารักพีชนะ” ฟิล์มกอดซบฉันไว้แน่นหลังจากที่เราทำเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาทำกัน
จะผิดแผกก็ตรงที่เราสองคนเป็นผู้หญิงด้วยกัน!
แต่สมัยนี้ไม่มีใครเขาแคร์แล้วเถอะ
“พีชก็รักฟิล์ม” ฉันบอกพร้อมกับหอมที่แก้มใสอมชมพู
ฉันไม่รู้หรอกว่าความรักของคนอื่นเป็นแบบไหน
และไม่รู้ด้วยว่าที่รู้สึกกับฟิล์มเรียกรักไหม?
แต่ที่แน่ ๆ ...ฉันคิดว่าฉันรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอสวย น่ารัก น่ามอง
และเธอคือคนที่ดีที่สุดของฉัน...
“พี่ชายพีชจะให้พีชย้ายเข้าไปอยู่บ้านตอนมอเปิด” ฉันบอกกับฟิล์ม ถึงสิ่งที่ฉันไม่สามารถขัดได้
พี่ชายที่ว่าก็คือ อิเสี่ยขวางโลกนั่นไง!
ฉันไม่เคยบอกฟิล์มเรื่องชีวิตส่วนตัวของฉัน เพราะฉันคิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องไปเล่าเรื่องน่าเศร้าของครอบครัวให้คนอื่นฟัง
“ทำไมล่ะ” ฟิล์มลุกขึ้นนั่งรอคำตอบจากปากฉัน
“เขาเป็นห่วงมั้ง” ฉันตอบไปงั้นๆ ไม่คิดจะบอกความจริง
แล้วอีกอย่าง คนอย่างนั้นน่ะเหรอ จะมาห่วงฉัน
เฮ้อ แค่คิดว่าจะต้องห่างฟิล์ม ใจฉันก็รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ช่างเถอะ อีกตั้ง2เดือนกว่าจะห่างกัน
ยังมีเวลาทำอะไรอีกเยอะ...