บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 อร่อยจนข้าอยากร้องไห้

ชีหงทำหน้าตายุ่งเหยิงขึ้นมา รีบคำนับอย่างรีบร้อน “หวางเฟยมิได้เพคะ ชีหงเป็นเพียงสาวใช้คนหนึ่ง เจ้านายกับบ่าวแตกต่างกัน สามารถสังหารบ่าวได้เลยเพคะ”

ไป๋เชียนฟานยังคงกล่าวอย่างถ่อมตัวว่า: “พี่สาวมาอยู่ก่อนข้า อายุก็มากกว่าข้าด้วย เรียกพี่สาวก็เป็นการสมควรแล้ว ข้าเพิ่งมาถึงไม่คุ้นเคย เรื่องมากมายก็ยังไม่เข้าใจ ยังหวังจะให้พี่สาวชี้แนะมากหน่อย”

ชีหงคิดไม่ถึงว่าหวางเฟยที่ฉู่หวางแต่งเข้ามาจะเป็นเช่นนี้ โดยปกติก็เป็นคนหนักแน่น แต่ในตอนนี้ก็ค่อนข้างว้าวุ่นแล้ว พยายามร้องขอความช่วยเหลือไปทางห่าวผิงก้วน “พ่อบ้านใหญ่ ท่านพูดแทนข้าหน่อย”

ห่าวผิงก้วนลุกขึ้นมานานแล้ว กำลังคิดว่าจะสื่อสารกับหวางเฟยยังไงดี เห็นนางเรียกว่าพี่ชีหง ก็ค่อนข้างชะงักไปเล็กน้อย เด็กสาวตัวน้อยคนนี้ทำตัวโง่เขลาหรือแสร้งทำตัวอ่อนแอเพื่อหลอกให้ศัตรูตายใจกันแน่?

ลูกสาวของจวนไป๋เซี่ยงควรค่าแก่การพิจารณาอย่างระมัดระวังจริงๆ ด้วยสิ......

เขาชดเชยโดยการยิ้มออกมา “หวางเฟย ชีหงเป็นสาวใช้ หากท่านเรียกนางว่าพี่สาว นางรับไม่ไหว หวางเหย่ได้ยินเข้าก็จะโมโหไปด้วย” ชะงักไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกว่ามีความจำเป็นที่จะต้องให้หวางเฟยคนใหม่ได้ทราบความร้ายกาจของฉู่หวาง ก็เลยเพิ่มเติมอีกหนึ่งประโยคว่า “หากหวางเหย่โมโห ผลลัพธ์ก็จะร้ายแรงมาก”

ไป๋เชียนฟานถาม “ด้านนอกต่างก็ว่ากันว่าพอฉู่หวางโมโห เลือดก็จะไหลเป็นแม่น้ำเลย เป็นแบบนี้งั้นหรือ?”

ห่าวผิงก้วนไม่กล้าวิจารณ์นายของตนเองลับหลัง อีกทั้งก็กลัวว่าเด็กสาวตัวน้อยอยู่ไม่สุขอีก แล้วก่อเรื่องให้เขา ก็เลยกล่าวอย่างคลุมเครือว่า: “ก็ประมาณนั้นแหละ”

ชีหงแอบปิดปากหัวเราะอยู่ด้านข้าง “หวางเฟยอย่ากลัวไป หวางเหย่ไม่ใช่คนไม่ดี เขาเพียงแค่หน้าตาเย็นชาไปหน่อยเท่านั้นเอง”

สาวใช้คนหนึ่งเรียกนายว่า ‘เขา’ รับรองว่าความสัมพันธ์ย่อมไม่ธรรมดาเป็นแน่ ไป๋เชียนฟานยิ่งมั่นใจในการตัดสินของตนเองมากขึ้น

ห่าวผิงก้วนทำท่าทางมือเป็นการเชิญ “นี่ก็ไม่เช้าแล้ว ข้านำหวางเฟยกลับเรือนของตัวเองจะดีกว่า”

ไป๋เชียนฟานเห็นของร่วงกระจายเต็มพื้นไปหมด ลังเลอยู่ “ของของข้า......”

ชีหงกล่าว “หวางเฟยอย่ากังวลไป ของพวกนี้ข้าจะเก็บเอง แล้วให้คนส่งไปให้เพคะ”

ไป๋เชียนฟานกำลังจะยกเท้า ท้องก็ร้องจ๊อกๆ ออกมาสองที นางหิวจนสะดือจมไปติดแผ่นหลังแล้วจริงๆ เดินก็ยังโซเซเลย ขนมพวกนั้นที่ทานไปเมื่อคืนไม่หลงเหลือไปนานแล้ว

ห่าวผิงก้วนเห็นนางมีท่าทางโซเซไปมา ไม่กล้าจะเร่งรัดอีก ชีหงก็เลยกล่าวว่า “หากหวางเฟยหิวแล้วแน่ๆ บ่าวเอาข้าวต้มสักถ้วยมาให้หวางเฟยร้องท้องสักหน่อยก่อน หลับไปถึงหลันเยว่เก๋อแล้วค่อยไปเตรียมมื้อเช้าอีกก็ได้เพคะ”

ห่าวผิงก้วนรู้สึกว่าก็คงต้องเป็นเช่นนี้ ดีที่หวางเหย่ยังไม่ได้กลับมาในช่วงระยะนี้ รีบให้หวางเฟยกินสักสองสามคำแล้วก็รีบไปเถอะ

ไป๋เชียนฟานเป็นคนไร้ตัวตนคนหนึ่งในจวนไป๋เซี่ยง หลังจากแม่นมเสียไปแล้ว ก็ไม่มีใครมาสนใจนางอีก ในจวนหากหิวหรือกระหายขึ้นมา ต่างก็จะจัดการด้วยตัวเอง นานมากแล้วที่ไม่มีใครมาเป็นห่วงนางเช่นนี้ ข้าวต้มที่ร้อนระอุกลิ่นหอมหวนยกมาวางตรงหน้านาง ไม่คิดเลยว่าจะทำให้นางตื้นตันใจขึ้นมา น้ำตาเกือบจะไหลออกมา ตักหนึ่งคำเข้าปาก กลิ่นหอมเปี่ยมจมูก ข้าวที่เข้มข้นละลายไปในทันใด อร่อยจนทำให้นางน้ำตาไหลเต็มหน้าเลย

ห่าวผิงก้วนกับชีหงเห็นนางเป็นเช่นนี้ ก็ตกใจขึ้นมาทันที แม้ว่าจะไม่เป็นที่ใยดีของหวางเหย่ งั้นก็ยังเป็นหวางเฟยที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมนะ ห่าวผิงก้วนรับโค้งลำตัวลงไปกล่าวถาม “หวางเฟย ข้าวต้มนี้ไม่ถูกปากท่านงั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ไป๋เชียนฟานเบะปากอยู่อย่างไม่ได้เรื่อง “ไม่ใช่ ข้าวต้มอร่อยมากต่างหาก อร่อยจนข้าอยากจะร้องไห้”

ห่าวผิงก้วนกับชีหงสบตากันครู่หนึ่ง คิดว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไร

ห่าวผิงก้วนรู้สึกว่าแม้ว่าไป๋เชียนฟานจะเด็กยังไง แต่ก็ออกมาจากจวนไป๋เซี่ยง อาจจะมีความคิดที่ไม่ดีอยู่ในใจก็เป็นได้ วางท่าเช่นนี้ออกมา ก็แค่เพื่อมัวเมาพวกเขาเท่านั้นเอง

ชีหงกลับคิดว่าหวางเฟยไร้เดียงสาเกินไป ต่อไปต่อหน้าฉู่หวางก็คงจะเกิดเรื่องอีกเยอะเลย

ไป๋เชียนฟานทานได้ไวมาก หนึ่งชามเล็กๆ ไม่นานก็ตักจนเกลี้ยงแล้ว นางเงยศีรษะมองไปทางชีหงตากะพริบไปมา รูปร่างเล็กๆ ชวนให้สงสารเชียว

ห่าวผิงก้วนกลัวว่านางจะเตะถ่วงเวลาอีก จึงรีบกล่าวว่า “หวางเฟย กลับไปถึงหลันเยว่เก๋อ บ่าวจะรีบเตรียมมื้อเช้าให้ทันที อยากทานอะไรก็ได้หมดเลยพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋เชียนฟานยังคงมองไปที่ชีหงอยู่ “ข้าชอบกินข้าวต้มขาวอันนี้ พี่สาวเป็นคนทำหรือเปล่า?”

“เป็นบ่าวที่ทำเอง หวางเฟยกลับไปก่อน บ่าวรีบเรียกให้คนส่งไปเดี๋ยวนี้เพคะ” ไม่สามารถให้หวางเฟยมาทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ได้ หากปะทะเข้ากับหวางเหย่แล้วจะไม่งาม ชีหงก็คิดหาทุกวิถีทางไล่นางให้ไปโดยไว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel