บทที่ 3 แก้วตาดวงใจ - 2
เมื่อคิดได้อย่างนั้นอู๋เยว่ฉินก็พยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้มอ่อน ยินยอมให้สามีมีบุตรกับสตรีคนอื่นในเรือนหลัง
“เยว่เอ๋อร์...จำไว้ให้ดีว่าเจ้ากับลูกทั้งสองคือแก้วตาดวงใจของพี่”
“เจ้าค่ะ น้องจะจำเอาไว้”
และหลังจากที่พูดคุยกับสามีในวันนั้นแล้ว คืนต่อมาเขาก็ทำตามอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ จ้าวเสวี่ยไปนอนค้างที่เรือนอนุนางอื่นจนกระทั่งครบเดือน หลังจากนั้นเขาก็หยุดการกระทำดังกล่าวและเฝ้ารอฟังข่าวว่าจะมีสตรีนางใดตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกหรือไม่
กระทั่งสองเดือนต่อมาหม่าชิงจูก็เกิดล้มป่วย สาวใช้คนสนิทของนางรีบไปตามหมอหลวงมาดูอาการผู้เป็นนายด้วยความร้อนอกร้อนใจ
อู๋เยว่ฉินเมื่อรู้ข่าวก็เกิดมีใจห่วงใยอีกฝ่ายขึ้นมาจึงได้สั่งให้เหลียนฝางผู้เป็นสาวใช้คนสนิทมาเยี่ยมอาการป่วยของอนุหม่าถึงที่เรือนของอีกฝ่าย
ทว่า...ข่าวที่เหลียนฝางนำกลับไปบอกกับอู๋เยว่ฉินนั้นกลับไม่นับว่าเป็นข่าวที่น่ายินดีสักเท่าไหร่นัก เพราะความจริงแล้วหม่าชิงจูนั้นหาได้ล้มป่วยร้ายแรงอันใดไม่และสาเหตุที่นางเป็นลมล้มพับไปนั้นก็เพราะว่านางกำลังแพ้ท้องต่างหาก
ใช่...เวลานี้หม่าชิงจูกำลังตั้งครรภ์บุตรของจ้าวเสวี่ยอยู่!
“มิคิดเลยว่าเจ้ากับข้าจะมีชะตาร่วมกันเช่นนี้” ผู้เป็นฮูหยินเอกของจวนเอ่ยขึ้นหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากเหลียนฝาง
เวลานี้นางอยู่เพียงลำพังในห้องนอนกับทารกน้อยทั้งสองผู้เป็นบุตรสาวบุตรชายของนาง คืนนี้ผู้เป็นสามีของนางส่งคนมาบอกกับนางว่าเขาจะไม่ได้มานอนค้างที่เรือนหลังนี้เฉกเช่นทุกวัน ซึ่งสาเหตุนั้นคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเขาจะต้องอยู่เป็นเพื่อนอนุคนงามที่กำลังแพ้ทองอย่างหนักที่เรือนของอีกฝ่าย
อันที่จริงอู๋เยว่ฉินน่าจะคิดได้ว่าสามีของนางนั้นอยากได้ลูกมากเพียงใด เขารอเวลาที่จะเป็นพ่อคนมาไม่รู้กี่ปี ครั้นพอมีบุตรได้สักคนเขาก็เกิดความติดใจอยากมีคนต่อไปอีกเรื่อยๆ มีหรือที่เขาจะสามารถหยุดความต้องการอยากมีทายาทเยอะๆ นั้นของตนเองได้
แล้วที่เขาแกล้งทำทีมาปรึกษานางเรื่องต้องการมีบุตรกับสตรีอื่นอีกโดยให้เหตุผลว่าทำเพื่อชิงเอ๋อร์กับปิงเอ๋อร์ ทุกอย่างนั้นก็เป็นเพียงวาจาเลื่อนลอยหลอกล่อให้นางตายใจเพียงเท่านั้น เขาแสร้งกระทำเช่นนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรตินางเพราะถึงอย่างไรคนที่มีทายาทให้เขาได้ก่อนก็คือนาง ต่อให้เขาไม่รักนางจากใจจริงแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องให้เกียรตินางที่เป็นฮูหยินเอกของเขาอยู่ดี
แก้วตาดวงใจรึ?
คำคำนี้บุรุษผู้นั้นคงยินดีที่จะใช้กับลูกของหม่าชิงจูมากกว่าบุตรชายหญิงทั้งสองของนาง...ในเมื่อเขาและหม่าชิงจูเคยเป็นคู่กันในวัยเด็ก
ทว่าด้วยสาเหตุที่ตระกูลเดิมของหม่าชิงจูต้องโทษอาญาและถูกเนรเทศออกนอกเมืองหลวงเป็นเวลาสิบปี ครั้งเมื่อโทษทัณฑ์นั้นสิ้นสุด หม่าชิงจูจึงได้กลับเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงได้อีกครั้ง แต่เพราะเรื่องราวในอดีตทำให้นางไม่สามารถแต่งเป็นภรรยาเอกของผู้ใดได้ ทำให้แม้ในใจจะอาลัยอาวรณ์คนรักในวัยเยาว์มากเพียงใด จ้าวเสวี่ยก็ทำได้เพียงแต่งนางเข้ามาเป็นอนุผู้หนึ่งเท่านั้น
ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ทั้งจ้าวเสวี่ยและหม่าชิงจูต่างก็เก็บเป็นความลับมาโดยตลอดและสาเหตุที่นางรู้เรื่องนี้ก็เป็นเพราะมารดาของนางนำเรื่องนี้มาบอกให้รู้หลังจากที่นางคลอดเจ้าก้อนแป้งน้อยสองก้อนนี้แล้ว
“ชิงเอ๋อร์ ปิงเอ๋อร์ แม่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเจ้าทั้งสอง เจ้าสองคนจะต้องเติบโตมาเป็นอย่างดีนะรู้ไหม...แก้วตาดวงใจของแม่”