บทที่ 3 แก้วตาดวงใจ - 1
ข่าวการมีทายาทพร้อมกันทั้งชายหญิงของจ้าวเสวี่ยดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง เพื่อนพ้องขุนนางทั้งหลายต่างพากับตบเท้ามาร่วมแสดงความยินดีกับรองเสนาบดีกรมขุนนางผู้นี้กันอย่างไม่ขาดสาย กระทั่งฮ่องเต้ผู้อยู่เหนือเศียรของคนทั้งปวงยังร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วย
นั่นจึงยิ่งทำให้ผู้คนต่างได้รู้ว่าจ้าวเสวี่ยผู้นี้เป็นขุนนางคนหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยกับฝ่าบาท เห็นอย่างนั้นผู้คนที่หวังพึ่งพาอำนาจและผลประโยชน์ต่างก็ยิ่งพากันเข้าหาจ้าวเสวี่ยมากขึ้น จากคนที่มีอำนาจเงินทองมากมายอยู่แล้ว เวลานี้จ้าวเสวี่ยกลับยิ่งมีบารมีเพิ่มมากขึ้นไปอีก ผลที่ตามมาจึงหนีไปพ้นเด็กน้อยสองคนที่ไม่แคล้วจะถูกดึงไปใช้เป็นตัวหมากในการสร้างและขยายอำนาจของนักล่าอำนาจทั้งหลาย
จ้าวเสวี่ยที่พึ่งจะมามีบุตรเอาเมื่อตอนแก่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงบุตรชายกับบุตรสาว เขาตั้งใจไว้แล้วจะสั่งสอนเด็กน้อยทั้งสองที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขาอย่างดีเพื่อที่ว่าวันหนึ่งเด็กน้อยทั้งสองจะสามารถปกป้องตัวเองจากอันตรายที่อยู่รอบกายได้
“เยว่เอ๋อร์ เจ้าจะคิดเห็นเช่นไร? หากพี่จะมีลูกกับสตรีอื่นอีกสักคน” จ้าวเสวี่ยเอ่ยถามผู้เป็นภรรยาขึ้นในคืนหนึ่ง
เวลานี้อู๋เยว่ฉินเป็นฮูหยินเอกที่เพียบพร้อม นางมีทั้งบุตรชายและบุตรสาวให้ผู้เป็นสามี ฐานะในจวนตระกูลจ้าวของนางในเวลานี้เรียกได้ว่ายิ่งเสียกว่ามั่นคง ดังนั้นเวลานี้นางจึงมีน้ำหนักในใจของผู้เป็นสามีไม่น้อย ระยะมานี้จะทำการสิ่งใดเขาจึงมักจะปรึกษานางก่อนเสมอ
ภรรยาสาวฟังแล้วได้แต่เม้มริมฝีปากเข้าหากันจนแทบเป็นตรง นางในเวลานี้เป็นเพียงสตรีแม่ลูกอ่อนที่ไม่สามารถปรนนิบัติสามีได้ หากเขาเอ่ยปากเช่นนี้นางหรือจะสามารถห้ามปรามอะไรเขาได้
“น้อง...แล้วแต่ท่านพี่เจ้าค่ะ”
จ้าวเสวี่ยยิ้มบางๆ ก่อนจะรั้งเรือนกายบางของภรรยาเข้ามาในอ้อมกอด “อย่าเพิ่งงอนพี่ไป การที่พี่อยากมีลูกอีกสักคนก็ทำเพื่อเจ้าก้อนแป้งสองก้อนนี้” จ้าวเสวี่ยเอ่ยยิ้มๆ พร้อมกับทอดสายตามองสองทารกน้อยวัยสองเดือนที่กำลังหลับอยู่
จ้าวเสวี่ยยิ้มบางอีกครั้งเมื่อเห็นร่องรอยความงุนงงสงสัยในแววตาของภรรยาสาว
“เวลานี้ทุกคนต่างรู้ว่าก้อนแป้งน้อยสองก้อนนี้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพี่ หากมีคนเอ็นดูพวกเขาก็แล้วไป แต่แน่นอนว่ามีคนเอ็นดูย่อมต้องมีคนอิจฉา ภายภาคหน้าพวกเขาอาจจะได้รับอันตรายจากความอิจฉาริษยาเหล่านี้ โดยเฉพาะปิงเอ๋อร์ นางเกิดมาเป็นหญิง แน่นอนว่าภายหน้าจะต้องแต่งออกไปเพราะเหตุผลทางการเมือง ดังนั้นแล้วจะเป็นการดีที่สุดหากพี่มีลูกสาวอีกสักคนมาเพื่อทำหน้าที่นี้แทนนาง นางจะได้อยู่กับพวกเรานานขึ้นอีกหน่อย”
“อีกอย่าง เวลานี้เรือนหลังมีสตรีมากมายเกินไป พี่จึงคิดจะให้พวกนางจากไปเสีย เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องยุ่งยากรำคาญใจกับพวกนางอีก...หลังจากวันนี้ไปพี่จะไปนอนกับพวกนางทุกคน หลังจากนั้นก็นับไปอีกสองเดือน หากคนใดที่สามารถตั้งครรภ์ได้พี่ก็จะเลี้ยงไว้ หากคนใดไม่มีพี่ก็จะมอบเงินให้ออกไปตั้งตัวที่อื่น”
อู๋เยว่ฉินยิ้มบางกับความคิดของผู้เป็นสามี อันที่จริงนางไม่เห็นด้วยเลยกับการที่สามีจะมีลูกกับหญิงอื่นอีก อีกทั้งหากเขาต้องการจะเลิกราหย่าขาดกับอนุภรรยาเหล่านั้นจริงๆ ลำพังแค่มอบเงินให้ไปตั้งตัวเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องร่วมหลับนอนกับพวกนางเพื่อให้มีทายาทเพิ่มเลยสักนิด
ทว่า...แม้ในใจจะคิดอย่างนั้นทว่าภรรยาที่ดีย่อมต้องเชื่อฟังสามี ดังนั้นแม้ใจไม่อยากยอมรับ แต่ปากก็ไม่สามารถเอ่ยปฏิเสธออกไปได้
อย่างไรเสียเวลานี้นางก็ทำได้เพียงล่องเรือตามน้ำไป อีกทั้งในใจลึกๆ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าสตรีนางใดในเรือนจะตั้งท้องต่อจากนาง
เพราะถึงอย่างไรแล้วต่อให้พวกนางเหล่านั้นตั้งครรภ์อีกสักคนสองคน ทว่านางก็ยังคงเป็นฮูหยินเอกของจวนแห่งนี้