บทที่ 5
ชาลีใจเต้นเล็กน้อยกับงานพิเศษนี้
เขาเดินไปยังห้องด้านในที่ทองอุไรบอกเขาไว้ว่า ‘ลูกค้า’ รออยู่ในนั้น ใจเขาเต้นด้วยความตื่นเต้นจนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ไปประชุมกับบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับเรื่องลงทุนเขายังไม่ตื่นเต้นเท่านี้
คิดแล้วก็หัวเราะนิดๆ ขำตัวเองที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ถ้าแม่ของเขารู้เข้า...คุณมัทนารู้ว่าลูกชายกำลังทำอะไร จะเต้นขนาดไหนกันนะ
ท่านยิ่งเปรยๆ ปรามๆ มาว่าพักนี้ ขอให้เขางดเที่ยวบ้าง งดสังคมกับสาวๆ บ้าง ท่านไม่อยากให้เขาควงใครออกหน้าพักนี้
เปรยมาแบบนี้
เขาก็พอจะรู้อะไรเลาๆ อยู่บ้าง
ชาลียิ้ม...นัยน์ตาเปล่งประกายวับ ยามนึกถึงมารดาสุดเจ้ากี้เจ้าการของตน เขาหนีท่านไปไกลถึงอเมริกา แต่ก็ต้องกลับมาช่วยงานท่านเพราะบิดาขอ เขาก็พอรู้ล่ะว่า การมาทำงานกับท่านหนนี้ มันก็แค่เรื่องบังหน้า จริงๆ ท่านต้องการอะไรจากเขา
คนอย่างชาลี บังคับได้ สั่งได้ แต่จะทำไหม อีกเรื่องนะครับคุณแม่
เขาเปิดประตูเข้าไป สายตามองไปยังจุดน่าสนใจที่กำลังนั่งขัดสมาธิบนเตียง ตาคมปลาบมองไปยังร่างเล็ก ที่อยู่ในชุดสูทกางเกงแบบเรียบร้อย หล่อนหัวหูยุ่ง หน้าแดงก่ำ มองเขาตาเยิ้ม แล้วกวักมือเรียกเขา พลางส่งเสียงยานคาน
“มาแล้วเหรอ มาหาพี่สิ มามะๆ”
อา...
ตาเขามองกวาดไปทั่วใบหน้าจิ้มลิ้มรูปหัวใจนั่น หล่อนตัวเล็ก ผมตัดสั้นแค่คอ หล่อนดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก เครื่องหน้านั้นดูรับกัน ยามยิ้มกว้างส่งให้เขา เห็นลักยิ้มกดลึกทั้งสองข้าง ฟันของหล่อนเรียงกันสวย มีเขี้ยวเล็กๆ ยิ่งทำให้หล่อนมีเสน่ห์ หล่อนเป็นคนยิ้มได้เขย่าหัวใจมาก
รอยยิ้มนั้นทำให้เขารู้สึก...
ชาลียิ้มตอบหล่อน
อย่างน้อยลูกค้ารายแรกของเขาก็ไม่ได้อายุหกสิบปี แถมยังน่ารัก น่าฟัดมากเสียด้วย
อชิรญารู้สึกตาลายเพราะมึน และเพราะรอยยิ้มจากผู้ชายหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามา...
โอ...นี่เทพบุตรหรือเปล่านะ
การซื้อบริการทำให้ได้ของระดับแรร์ขนาดนี้เลยเรอะ!
คำที่พวกผู้หญิงเปรี้ยวๆ หรือพวกเก้งกวาง มักจะพูดเวลาเห็นผู้ชายหล่อๆ อย่างหล่อจนน้ำเดิน...น่ะ ตอนนี้...เอ่อ...เธอดันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
เธอรู้สึกเลือดลมแล่นพล่าน เพียงแค่มองสบตาเขาเท่านั้น
หรือจะเพราะเมานะเรา
เมาก็ดีแหะ จะได้กล้า เอาล่ะวันนี้ วาววา หล่อนจะได้รู้สึก ถึงคำว่าจุดสุดยอดเสียที!
........................................
ชาลีค่อยเดินเข้าหา ‘ลูกค้า’ ที่นั่งมองจ้องเขม็งมายังเขา หล่อนอ้าปากค้างตอนมองเขา จนน้ำลายจะยืดแล้วมั้งนั่น
เขาทรุดลงนั่งบนเตียง ที่หล่อนนั่งอยู่ หล่อนสะดุ้งน้อยๆ แต่ยังคงจ้องเป๋งมาที่เขา เขาเห็นอะไรบางอย่างที่มุมปากของเธอ รอยยิ้มนั้นยิ่งกว้างขวาง เขาต้องกลั้นขำไว้จนสุดความสามารถ ก่อนจะทำเสียงให้เป็นปรกติ เอ่ยทักเธอออกไปได้
“หุบปากหน่อยไหมครับ น้ำลายจะยืดแล้ว”
“ซี๊ด”
เสียงเธอสูดน้ำลายกลับเข้าไป มันทำให้ชาลีต้องตัวสั่นเพราะเกรงว่าจะขำออกไป ตอนนี้หน้าเขาแดงก่ำไปหมดแล้ว เธอกลืนน้ำลายดังเอื๊อก ก่อนจะทำตาปริบๆ มองเขา
“พอใจไหมครับผม คุณลูกค้า”
เขาแกล้งหยอก อชิรญาพยักหน้า เธอมือสั่นเมื่อควานไปยังตรงข้างเตียง แน่ล่ะเธอเก็บบางอย่างไว้ที่นั่น แล้วเธอก็ยกมันขึ้นกระดก ชาลีมองอย่างตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนลูกค้าของเขากำลังจะย้อมใจ
เพิ่งเคยทำอะไรแบบนี้หรือเปล่านะนั่น...
ตอนแรกคิดภาพ ว่าเขาจะถูกสาวสุดหื่นจู่โจม แต่กลับเจอแม่สาวที่นั่งมองเขาอ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก มันก็ทำให้เขาผ่อนคลายไปได้เหมือนกัน
ผ่อนคลายและรู้สึก ‘ขำ’ เธอดูตลก เหมือนเด็กๆ มองเขาเหมือนเป็นสิ่งมหัศจรรย์อะไรอะไรสักอย่าง มองจนน้ำลายหยดอีกต่างหาก เขาน่ากินขนาดนั้นเลยหรือ?
“เอ่อ...คือ...อื้อ” พยักหน้า แล้วก็ยกเหล้าดื่มไปอีกอึกใหญ่ โอย...”
พอดื่มเข้าไปแล้ว เธอก็กุมขมับ เพราะมันพุ่งขึ้นไปยังสมองปรี๊ด!
“พอก่อนครับ เดี๋ยวเมาแย่ ไม่สนุกนะ”
คำพูดปรามนั่น แถมด้วยมือที่เอื้อมมาแย่ง ทำให้คนที่เริ่มเมา มองเขาตาขวาง
ยามเมานั้น อชิรญาไม่ธรรมดานักหรอก ในบรรดาเพื่อนทั้งสามคน เธอเมาได้เพี้ยนที่สุด จึงพยายามไม่ค่อยดื่มมากนัก เพราะรับตัวเองยามเมาไม่ค่อยได้ เฮ้อ...แต่วันนี้ มันคือการฉลองความโสดอย่างเป็นทางการ เลยไม่มีใครห้ามเธอ แถมยังเสริมส่งประสบการสุดเพี้ยนให้เธออีกด้วย ด้วยการ...ออฟผู้ชายมาให้เธอ
คนที่เธอออฟมา เธอจะทำอะไรกับเขาก็ได้สินะ
ก่อนอื่นก็ต้อง...
สำรวจก่อน
“เฮ้! ไหนลองถอดให้ดูหน่อยสิ”
เสียงอ้อแอ้นั่นสั่ง ชาลีขมวดคิ้ว แล้วก็อมยิ้ม พลางเริ่มถอดเสื้อยืดที่ตัวเองสวมออก
โอ้ว...
กล้าม...
ไอ้หย่า...
ขาวมาก...
ตาของคนเมามองไล่ลงต่ำ ไปตามไรขนที่กระจายตัวจากแผงอก ลงไปยังเอวสอบ หายไปใน...
ตาของเธอเหมือนจะใกล้มันไปทุกที
นั่นเพราะความเป็นจริงเธอกำลังชะโงกหน้า ก้มมองขนหน้าอก ขนท้องของเขาจนแทบจะชนปลายจมูกเธอแล้วตอนนี้
ชาลีขำมากกว่าอย่างอื่น เขายืนท้าวเอว ปล่อยให้เธอมองเต็มที่ ตาเธอมองจ้อง...ตรงนั้น แล้วมันก็เหมือนมีชีวิต มันค่อยๆ พองใหญ่ขึ้นมา เธอเขม้นมองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา เอานิ้วจิ้มๆ เป้าของชาลีอีกต่างหาก
“นี่ เนี่ยยย แอบพกอะไรซ่อนไว้อะ ทำไมมันตุงจัง มันหย่ายยย ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“หึๆ ไม่ได้พกอะไร ของจริงล้วนๆ”
“โหย...ไม่ช่ายอะ ไม่น่าใช่ล่ะ มันจะได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
“มาเดี๋ยวจะให้ดูว่าใช่ไหม”
โดนท้าเข้า ชาลีก็บ้าจี้พอ ที่จะถอดให้เธอดูเสียเลย ว่าที่เธอจิ้มเล่นไปเมื่อกี้น่ะ มัน...เป็นแบบไหน
เมื่อส่วนนั้นผงาดเต็มตา
คนเมาก็อ้าปากค้าง
อุทานออกมาเสียงดังลั่น
“โอ้ว แม่เจ้า อนาคอนด้าชัดๆ ไม่เอาอะ ไม่เอาแล้ว กลัวววว ง่า เค้าเคยเจอแต่หนอนน้อยอ่า แบบนี้เค้าไม่เอา ไม่เอ๊า”
แล้วหล่อนก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง คนที่ยืนแก้ผ้าให้หล่อนตรวจสอบคุณภาพก่อนจะใช้งาน ตอนนี้ถึงกับหดลงไปไม่ขยายพองแบบเดิม เพราะเขามัวแต่หัวเราะ
โอย...เป็นงานที่บันเทิงมากจริงๆ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน ชาลีหัวเราะจนหนำใจ ก่อนจะขยับกางเกงขึ้นมาใส่แบบเดิม โปงที่คลุมลูกค้าเขาไว้ สงบนิ่งไม่มีการกระดุกกระดิกเขาจึงดึงผ้าของหล่อนลง ปรากฏว่า...
“เฮ้ๆ หึๆ เฮ้ๆ ตื่นมาก่อน มาใช้บริการผมก่อนสิ”
“อื้อ จะนอน จะนอนแล้ว”
“อย่าพึ่งนอนสิ”
“ไม่เอา ง่วง”
แล้วหล่อนก็ผุดลุกขึ้นนั่ง ทำตาขวางใส่เขา ชาลีนั่งขัดสมาธิ มองหล่อนอย่างขำๆ ปาดน้ำตาไปด้วยเพราะเมื่อกี้เขาหัวเราะหล่อนจนน้ำหูน้ำตาไหล
“บอกว่าง่วง ไป๊ ไปไกลๆ คนอะไรน่ากลัว ไม่เอาแล้วอะ”
“เอ้า ไม่เอา ผมไม่คืนเงินนะจะบอกไว้ก่อน”
“ไม่คืนก็ไม่คืน โอ๊ย...ร้อน ร้อนจัง”
แล้วหล่อนก็เริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเองทีละชิ้น ทีละชิ้น เล่นเอาชาลีถึงกับตาเบิกโพลง กับภาพที่เห็น เรือนร่างขาวโพลนในชุดชั้นในลายการ์ตูนสองชิ้นนั่น ส่วนบนของหล่อนกำลังเหมาะมือ แม้จะไม่อวบล้น แต่ก็น่ารักน่ามอง เอวหล่อนคอดนิดเดียว สะโพกของหล่อนผายออกกลมมน เป็นสะโพกสวยที่น่าเอามือไปตีหยอกมันเบาๆ เหลือเกิน เขาไม่เคยเห็นสาวที่ไหนก้นงอนถูกใจได้ขนาดนี้ และพื้นที่บางส่วนเตะตาเหลือเกินมันอวบอูมล้นเหลืออกมาจนบิกินี่แทบจะปิดไม่มิด