บทที่1 เจ้านายคนใหม่ & จูบแรกพบ (1)
บทที่1
เจ้านายคนใหม่ & จูบแรกพบ
เพล้ง!! เสียงแก้วน้ำแตกกระจายลงบนพื้น ทำให้สาวใช้ที่นั่งตัวสั่นอยู่ที่พื้นต้องลนลานคลานไปเก็บเศษแก้วด้วยตัวที่สั่นระริก โดยมีผู้ชายอายุ25ปีนั่งกอดอกอยู่บนโซฟาราคาแพง
“ชงกาแฟรสชาติห่วยแตกมาก ฉันไล่เธอออก” เขาพูดเสียงเย็น ทำเอาสาวใช้ต้องร้องไห้โฮวิ่งออกไปจากห้องโถงทันที
“นัตจะอารมณ์ร้ายเกินไปแล้วนะ มีเหตุผลหน่อยสิลูก เรื่องแค่นี้เอง ให้อภัยเขาไปเถอะ” คุณทัศนีย์พูดอย่างระอา เมื่อเดินเข้ามาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าพอดี
นับตั้งแต่วันที่คุณวิชัย บิดาของธนัตได้เสียชีวิตลงเพราะโดนคนรับใช้ยิงตาย ธนัตก็เกลียดสาวใช้แทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้
“แต่ผมไล่เขาออกแล้ว” ธนัตยกมุมปากขึ้น เป็นรอยยิ้มที่ชวนให้คุณทัศนีย์รู้สึกกลัวใจลูกชายตัวเองเป็นครั้งแรก
“แม่ไม่ต้องหาสาวใช้ประจำตัวให้ผมแล้วนะ ผมโตแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีพี่เลี้ยง” เขาหัวเราะหึหึ ก่อนจะผิวปากเดินออกไปจากบ้านอย่างอารมณ์ดี โดยทิ้งความหนักใจไว้ให้คุณทัศนีย์ขบคิดอยู่เพียงผู้เดียว
ธนัตเป็นคนรูปหล่อ ร่ำรวยและบริหารบริษัทต่อจากผู้เป็นบิดาจนเจริญรุ่งเรืองแตกสาขาออกไปถึงต่างประเทศ
แต่ข้อเสียของลูกชายเธอก็มีเช่นกัน นั่นก็คือ...ธนัตเกลียดสาวใช้จนเข้าไส้ ชนิดที่ว่าต้องหาเรื่องมากลั่นแกล้งจนไม่มีใครทนทำงานต่อไปไหว แต่ก็ยังดีอยู่บ้างที่สาวใช้ที่มาทำงานบ้านหรือทำกับข้าวให้ ธนัตไม่ได้แสดงความรังเกียจออกมาจนนอกหน้าเพราะเห็นว่าคุณทัศนีย์จะลำบากทำงานบ้านคนเดียวถ้าคนใช้พากันลาออกจากงานกันหมด จะมีก็แต่สาวใช้ส่วนตัวนี่แหละ...ที่ธนัตมักจะหาเรื่องมาแกล้ง
เธอจะต้องรีบหาสาวใช้คนใหม่ที่จะมาเปลี่ยนความคิดของธนัตให้จงได้!!
ลันตาเดินเตะฝุ่นข้างถนนด้วยใบหน้ามันย่อง แก้มนวลๆแดงปลั่งเมื่อต้องเดินตากแดดมาเป็นเวลานาน ในที่สุด..เธอก็โดนไล่ออกจากงานอีกจนได้ แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปดี แค่คิด เธอก็รู้สึกแย่มากแล้ว
ตั้งแต่ยายที่เลี้ยงเธอมาได้เสียชีวิตลงไป หญิงสาวก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียว ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง และในตอนนี้เธอก็ตกงาน เมื่อไม่มีงาน...ก็จะไม่มีเงิน
หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างเข้าพอดี
ป้ายสีขาวติดอยู่ที่หน้าประตูรั้วบ้านอันใหญ่ มีตัวอักษรเขียนไว้อย่างเด่นชัดว่า 'รับสมัครสาวใช้'
ทำยังไงดีล่ะ เธอควรจะไปสมัครงานเป็นสาวใช้ดีหรือเปล่า แต่เธอจบด้านบัญชีมา จะให้มาเป็นคนใช้ได้ไงกัน
แต่มาคิดไปคิดมาแล้ว... ถ้าเลือกงาน เธอก็จะไม่มีเงิน ยิ่งคิดถึงเงินที่มีจำนวนน้อยนิดอยู่ในกระเป๋าแล้ว หญิงสาวก็ยิ่งเครียด
เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองดูสักหน่อยก็คงจะไม่เป็นอะไร
หญิงสาวคิด พร้อมกับยื่นนิ้วไปกดกริ่งทันทีเมื่อตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด