บทย่อ
"ขอบคุณนะครับ ที่คุณเข้ามาในชีวิตของผม" ชายหนุ่มก้มลงจูบที่เปลือกตาของหญิงสาวที่ถูกเขาโอบกอดอยู่ "ฉันต่างหากละค่ะ ที่ต้องขอบคุณ คุณเสียมากกว่า ที่วันนั้นคุณรับเราสองแม่ลูกมาอยู่ที่นี่กับคุณด้วย" แนะนำเรื่อง ในคืนที่ฝนตกกระหน่ำลงมาเส้นทางข้างหน้าแทบมองไม่เห็นอะไร หญิงสาวได้อุ้มลูกชายตัวเล็กของเธอพากันตากฝนพร้อมกระเป๋าหนึ่งใบ เหมือนว่าพวกเขากำลังจะหนีอะไรอยู่ เธอวิ่งมาได้สักพักก็พบแสงไฟของรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามา เธอกวักมือขอความช่วยเหลือจากรถคันนั้น โชคดีของเธอกับลูกที่ชายที่ได้ขับรถมานั้นได้ให้เธอกับลูกขึ้นไปกับเขาด้วย แม้ว่าเธอจะกลัวเพราะเขาเป็นผู้ชาย แต่ถ้าเธอไม่หนีไปตอนนี้เธอก็ไม่น่าจะรอด เธอตัดสินใจกระโดดขึ้นรถของเขาด้วยความเต็มใจ และมันก็เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอตลอดกาล...
บทที่ 1
"รินรีบพาเจ้าหนูหนีไป "
วริษาวิ่งมาหาน้องสาวของเธอ ตะโกนบอกเธอที่ยังยืนนิ่งงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กระนั้นเธอก็รีบไปอุ้มหลานชายตัวเล็กที่ยังนอนหลับไม่รู้เรื่องมาไว้ในอ้อมกอดของเธอ
"เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงได้พาลูกวิ่งตากฝนมา"
เธอถามพี่ถามเธอด้วยความสงสัย สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากหน้าท้องของพี่สาว
"พี่ไม่มีเวลาอธิบายหรอกนะ พี่ฝากเจ้าหนูด้วยแล้วรีบหนีไปก่อนที่คนชาติชั่วพวกนั้นจะตามมาทัน "
"พี่บาดเจ็บนี่คะ เกิดอะไรขึ้นรินจะไม่ยอมไปไหนถ้าพี่ไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น เราต้องไปด้วยกันค่ะ "
"ไม่ทันแล้วล่ะ พี่ไม่ไหวแล้ว นี่เอกสารกับของเจ้าหนู พี่ฝากด้วยนะ รับปากพี่สิว่าจะดูแลเจ้าหนูให้ดี"
รินเธอไม่รู้ต้นสายปลายเหตุได้แต่มองดูพี่สาวของเธอเจ็บปวดเพราะบาดแผล เธออยากจะพาพี่เธอไปด้วยแต่ตอนนี้เจ้าหนูที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอสำคัญยิ่งกว่า
"ได้ค่ะ รินสัญญาว่าจะดูแลเจ้าหนูให้ดี พี่ไปกับรินนะคะ"
เธอได้ร้องไห้ออกมาที่เห็นภาพของพี่สาวของเธอกำลังหมดลมไปต่อหน้า
"พี่ไปไม่ไหวหรอก ลูกชายหนูไปอยู่กับน้ารินแล้วอย่าดื้อรู้มั้ย แม่กับพ่อรักหนูมากๆ นะ แต่ตอนนี้แม่ต้องไปแล้ว ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้เราแม่ลูกเกิดมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกนะ แม่ขอโทษที่อยู่กับหนูจนโตไม่ได้"
"ฮื้อ ๆ พี่อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ ฉันจะพาพี่ไปหาหมอ "
ไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไร เสียงก็ดังมาจากข้างนอก รินหันไปเห็นชายฉกรรจ์ชายคนกำลังบุกมาที่ห้องของเธอ เธอต้องตัดสินใจทิ้งพี่สาวของเธอที่ใกล้ตาย พาหลานชายตัวน้อยหนีออกมาด้วยความจำใจ สายฝนเหมือนรับรู้ถึงความโศกเศร้าของเธอ พากันกระหน่ำลงมาไม่หยุดหย่อน เธออุ้มหลานชายวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต จนมาถึงถนนใหญ่ เธอได้เห็นแสงสว่างของไฟรถที่กำลังวิ่งมา ตัดสินใจกวักรถขอความช่วยเหลือจากเขา เธอไม่รุ้ว่าคนในรถจะเป็นพวกเดียวกับชายกลุ่มนั้นมั้ย แต่ถ้าเธอไม่ลองดู เธอต้องหนีไม่ทันแน่นอน
"ช่วยๆ ช่วยด้วยค่ะ "
ชายหนุ่มที่ขับรถมาอย่างช้าๆ เขาได้มองเห็นหญิงสาวที่อุ้มเด็กตากฝนขอความช่วยเหลือ ในตอนแรกเขาก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่ด้วยความสงสารเด็กเขาเลยจอดรับสองแม่ลูกขึ้นมาบนรถของเขา
"เกิดอะไรขึ้นครับ ขึ้นมาก่อนสิ"
หญิงสาวที่เปียกปอนไปด้วยน้ำฝนยืนสั่นอยู่ที่ข้างรถ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจขึ้นรถของเขามา
"ขอบคุณนะค่ะ ที่ช่วยเราสองคน ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีชายกลุ่มหนึ่งกำลังตามไล่ล่าฉัน คุณช่วยพาฉันหนีหน่อยได้มั้ยคะ แล้วฉันจะตอบแทนสิ่งที่คุณช่วยเหลือฉันในวันนี้ ถ้าคุณต้องการอะไร ถ้าฉันทำให้คุณได้ฉันจะทำให้ทุกอย่าง ขอแค่เพียงคุณพาฉันไปในที่ปลอดภัยไม่มีใครตามหาเจอก่อนได้มั้ยคะ"
ชายหนุ่มที่ได้ยินก็ฉงนใจ แต่เขาก็พาเธอกับเด็กขับรถออกมาด้วยความเร็ว แม้ว่าฝนจะตกหนักเพียงใด มันไม่ได้กระทบในการขับรถของเขาเลย
ตลอดทางที่ขับรถมาเขาไปมองกระจกหลังดูเธอตลอด แม้ใบหน้าของเธอจะเปียกไปด้วยน้ำฝน มันไม่ได้ทำให้ความสวยของเธอน้อยลงเลย เธอเอาแต่ร้องไห้ก้มดูเด็กตลอดทาง เขาอยากจะถามเธอยิ่งนัก แต่ตอนนี้มันคงไม่เหมาะสม เขาได้พาเธอมาที่บ้านสวนของเขา
รินได้อุ้มหลานชายของเธอเดินตามผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาที่บ้านของเขา
“คุณกับลูกชายของคุณพักที่ห้องนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน น่าจะมีของคุณแม่อยู่บ้าง”
ชายหนุ่มแปลกหน้าได้พาเธอมาที่ห้องรับแขกของที่บ้านพักหลังนี้ รินได้อุ้มหลานชายไปนอบนเเตียงก่อนจะแก้เสื้อผ้าให้กับหลาน
“หนาวใช่มั้ย เดี๋ยวน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นะครับ”
เด็กน้อยที่ตื่นมาขึ้นมาหันซ้ายหันขวาเมื่อไม่เห็นแม่ของเขาก็ได้ร้องออกมาอย่างเสียงดัง ทำให้ธนินที่เดินเอาเสื้อผ้ามาให้รินเปลี่ยนได้ยินพอดี
“ผมขอเข้าไปหน่อยได้มั้ยครับ “
“เข้ามาสิคะ”
“เจ้าหนูทำไมถึงร้องไห้หนักขนาดนี่ละ หนาวเหรอครับ “
“สงสัยแกจะไม่คุ้นชินกับสถานที่ด้วยนะค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยเราสองคนถ้าไม่มีคณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคน”
เขามองดูสีหน้าที่เศร้าสร้อยของรินด้วยความสงสาร
“ไม่เป็นไรครับ เอาเด็กมาให้ผมอุ้มสิ คุณจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า คุณเองก็หนาวจนตัวสั่นหมดแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายเอา วันนี้คุณกับลูกก็พักผ่อนให้สบายนะครับ แล้วพรุ้งนี้เราค่อยคุยกันต่อ”
ธนินได้ส่งเสื้อผ้าของแม่ให้กับรินไป ก่อนจะอุ้มเอาตัวเด็กมาอุ้ม พอเด็กมาอยู่ในอ้อมแขนของธนิน เขาก็หยุดร้องไปทันที
“ขอบคุณค่ะ งั้นฉันขอฝากเด็กสักครู่นะคะ”
เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำอาบน้ำแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า เธอเดินออกมาก็พบว่าธนินได้ทำให้หลานชายของเธอหลับไปแล้ว เขาช่างเก่งจริงๆ ไม่เหมือนกับเธอที่ไม่ค่อยชอบเด็กสักเท่าไหร่ นานๆ ทีที่พี่สาวของเธอจะมาฝากไว้ ไม่รู้ว่าเธอจะเลี้ยงหลานของเธอตต่อไปอย่างไร
“คุณคะ ฉันเสร็จแล้วละค่ะ “
“อ้อ ครับงั้นผมจะกลับไปที่ห้องก่อน คุณพักผ่อนให้สบายนะครับ”
“ค่ะ “
เขาเดินออกไปนอกห้องเธอรีบไปล็อคห้องทันที แม้เขาจะเป็นคนดีที่ช่วยเหลือเธอแต่เธอก็ยังไม่มั่นใจสักเท่าไหร่
เธอเดินกลับมาดูหลานตัวน้อยที่นอนหลับปุ๋ยอย่างไร้เดียงสา
“แทนคุณ ปานนี้คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูจะเป็นอย่างไรบ้างนะ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้มาเกิดกับครอบครัวของเราด้วย “
เธอลูบที่หัวของเด็กน้อยด้วยความสงสาร พรางคิดถึงพี่สาวที่เสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาเธอ
ครอบครัวของเธอเหลือเพียงสองคนพี่น้อง พ่อกับแม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่เธอยังเรียนไม่จบปริญญา ทำให้เธอกับพี่สาวต้องดิ้นรนหาเงินส่งเสียตัวเองเรียน แต่พี่สาวของเธอไม่เรียนต่อเธอเลือกที่จะให้น้องสาวเรียน ทั้งสองได้มาทำงานที่ไร่ของธนา ธนาได้หลงรักกับพี่สาวของเธอ และแต่งงานกันจนมีเจ้าก้อนตัวน้อยที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ในตอนนี้ ครอบครัวของเธอไม่เคยทำอะไรให้ใคร เธอไม่เข้าใจทำไมคนพวกนั้นถึงได้มาตามไล่ล่าฆ่าคนในครอบครัวของเธอ เธอร้องไห้ด้วยความความเหนื่อยจนหลับไปทั้งน้ำตา