บทที่ 5 เสน่ห์รักข้ามศตวรรษ...วันประกวดจริง...(โปรดเตรียมผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชูไว้ซับน้ำลายเพราะอาหารน่ากินทุกเมนู)
วันประกวดผู้เข้าแข่งขันทุกคนมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระมารดามหาราชาสุเรนทราอาทิตยวรรธสิงหนาทนฤบดินทร์ที่วันนี้มาเป็นผู้แทนพระองค์กรรมการกิตติมศักดิ์เจ้าของโรงแรม ชัยปุระ ฮาวา รอยัล พาวิลเลี่ยน สถานที่จัดงานประกวด ...สุดยอดฝีมือเชฟอาเซียน2020...ครั้งนี้ เพราะมหาราชาสุเรนทราฯทรงติดธุระเสด็จมาไม่ทันและจะเสด็จมาร่วมงานในภายหลังโดยผู้กล่าวรายงานอ่านชื่อสกุลและตำแหน่งของผู้เข้าประกวดสิบคนพร้อมผู้ช่วยเชฟ และผู้แทนพระองค์กรรมการกิตติมศักดิ์ได้กล่าวต้อนรับและกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ
การประกวดรอบรองเริ่มขึ้นช่วงบ่าย วัสสิกาที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวเต็งในการประกวดแข่งขันทำให้คณะกรรมการทึ่งจัดด้วย อาหารชุดที่หนึ่ง อย่างแรก คือ เมนูข้าวบริยานีอินเดียในแบบมังสวิรัติสูตรเฉพาะของวัสสิกาจะใช้ข้าวบาสมาติ(Basmati)ของ อินเดียที่มีรูปเมล็ดเรียวยาวสวยงามน่ากินหุงกับหญ้าฝรั่นให้สีเหลืองสวยใส่ผงกระวานเขียวให้ความหอมและส่วนประกอบใน ข้าวแตกต่างจากคนอื่น คือ โปรตีนเกษตร เม็ดบัว เก๋ากี้ แปะก๊วย พริกหวาน และ สับปะรดอบแห้ง แต่งรสด้วยผงการัมมัสซาลาที่มี รสเผ็ดเล็กน้อย
อย่างที่สอง คือ แป้งนานกับแป้งจาปาตีที่ดัดแปลงทำจากแป้งถั่วควินัวผสมฟักบัตเตอร์นัท แครอต บีทรูต และน้ำคั้นจากใบเตยสด ที่ให้สีสันสวยงาม กินกับแกงดาลหรือแกงถั่ว ทำด้วยพริกแกงเขียวหวานใส่โปรตีนเกษตร อย่างที่สาม คือ หมี่กรอบมัสซาลาที่วัสสิกาใช้โปรตีนเกษตรอบกรอบแทนเต้าหู้กับถั่วอัลมอนต์หั่นแท่งปรุงรสเค็มอมหวานแกมเผ็ดหอมเครื่องเทศกินคู่กับสลัดผักที่น้ำสลัดทำจากโยเกิร์ต-เลมอน-เกลือ รสอมเปรี้ยวแกมเค็ม อย่างสุดท้ายเป็นของหวานสีสันสวยน่ากิน คือ ขนมกุหลาบจามุน (Gulabjamun)ขนมยอดนิยมของชาวอินเดียที่สูตรของวัสสิกาจะใช้แป้งผสมเนื้อ ฟักทอง มันม่วง (มันเทศสีม่วง) หรือ เผือก บีตรูท กับ และน้ำใบเตย เพิ่มรสชาติแปลกใหม่ และที่ขาดไม่ได้ คือ ขนมกินเล่นหรือของว่าง ขนมที่เป็นนางเอกของทีมวัสสิกา คือ ขนมพุดดิ้งเฟรสมิลค์ สูตรพิเศษ คือ...พุดดิ้งราสมาไลย์...ที่วัสสิกาดัดแปลงจากขนมราสมาไลย์อันมีส่วนประกอบเฉพาะตัว
สูตรของวัสสิกาพิเศษที่เนื้อโปรตีนนมหรือที่นิยมเรียกว่าก้อนชีสเนื้อนุ่มจะมีหลายสีเป็นสีธรรมชาติของเนื้อฟักทองหรือเนื้อบัตเตอร์นัทเป็นสีเหลือง สีแดงจากเนื้อบีตรูท สีม่วงจากเนื้อมันม่วง น้ำใบเตยเข้มข้น โดยนำก้อนเนื้อโปรตีน(ก้อนชีส)มานวดใส่เนื้อฟักทองหรือบัตเตอร์นัทมันม่วงและบีตรูทที่ต้มสุกบดละเอียดมานวดเข้าด้วยกัน(ใช้ปริมาณพอให้ออกสี)นวดจนเนื้อเนียนเป็นครีม(มีความมันและไม่ติดภาชนะ)เติมแป้งข้าวโพดนวดให้เข้ากันแล้วแบ่งเป็นชิ้นขนาดหนึ่งเซ็นคลึงเป็นก้อนกลมบีบแบนเล็กน้อยวางใส่ถาดคลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆพักไว้เมื่อนำน้ำกับน้ำตาลทรายตั้งไฟทำน้ำเชื่อม ใส่แป้งโปรตีนนม(ก้อนชีส)ที่ปั้นไว้ลงในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือด ปิดฝาหม้อ รอ 15 นาที ตัวก้อนโปรตีนนม(ก้อนชีส)จะพองเป็นสองเท่า และยกลงพักไว้ให้เย็น
ต่อมานำน้ำนมถั่วเหลืองผสมน้ำข้าวมอลต์ที่ผ่านกระบวนการแบบเดียวกัน คือ นำมาอบหรือคั่วให้หอมก่อนนำมาต้มและบดกรองเอาแต่น้ำ ตั้งไฟให้เดือด ใส่น้ำตาลทราย ถั่วอัลมอนด์หั่นแท่ง ผงกระวานเขียว เดือดอีกครั้งปิดไฟ ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน และหยดน้ำกลิ่นดอกบัวหลวง โดยสูตรของวัสสิกาจะใส่เม็ดบัว(ต้มสุกหั่นชิ้นเล็กๆ) กับ เม็ดแปะก๊วย แทนทั่วพิตาชิโอที่เชฟคนอื่นๆนิยมใส่ในขนมหรืออาหารอินเดีย และแต่งหน้าด้วยกลีบบัวหลวงตัดจากพิมพ์รูปดอกไม้เล็กๆ เครื่องดื่มสูตรของวัสสิกาเป็นมาลาไจหรือชานมที่ชาวอินเดียนิยมดื่มโดยทำจากชาดาร์จีลิงผสมน้ำนมทั่วเหลืองและน้ำข้าวมอล์รสชาติหวานหอม
ส่วนอาหารชุดที่สองวัสสิกาคิดค้นแป้งจาปาตี หรือแป้งพัฟโร่แบบใหม่ให้สีสันน่ากิน สีแดงชมพูจากบีทรูต สีม่วงจากมันม่วงกับเผือก สีเหลืองจากบัตเตอร์นัตหรือฟักทอง สีเขียวจากน้ำคั้นใบเตยสด และนำแป้งเหล่านื้มาทำเป็นพัฟโร่เนื้อปูผัดชีสใส่ผงการัมมัสซาลาเพิ่มความเผ็ดร้อนในรสชาติห่อผักสดกับแป้งจาปาตีหรือแป้งพัฟโร่บางๆกรอบๆกินกับซอสมิ้นต์ผสมด้วยโยเกิร์ตกับถั่วอัลมอนด์บดรสกลมกล่อม วุ้นเส้นมัสซาลาอบกุ้งล็อบเตอร์ พาเนียร์มากานีทำจากผักโขมกับชีสสดที่วัสสิกาเดิมผงมัสซาลาสูตรของตัวเองรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และสลัดผลไม้รวมกับเครื่องดื่มชาอินเดียที่รสชาติเข้มข้น พร้อมด้วยขนมหวาน มุงดอลฮัลวา(Moonb Dal Hanwa)ที่ทำจากถั่วหลายชนิดกวนน้ำตาลมะพร้าวที่วัสสิกาใช้เนื้อมะพร้าวกับน้ำมะพร้าวอ่อนทำให้ได้ความหอมหวานมากขึ้นโรยด้วยงาคั่วและถั่วอัลมอนด์หั่นแท่ง ขนมปังโรลคาร์ดามอมไส้หวานหอมทำจากเนยน้ำตาลทรายผงกระวานเขียวอบเชยและงาทำจากแป้งขนมปังโฮลวีตเนื้อนุ่ม กล้วยหอมราดคาราเมลมะเดื่อฝรั่งใส่นํ้ากุหลาบกลิ่นหอมชวนกิน และชาเขียวร้อนควันกรุ่น โดยอาหารและเครื่องดื่มเป็นสูตรเฉพาะที่วัสสิกาคิดเติมแต่งส่วนผสมและรสชาติขึ้นมาเอง
ส่วนอาหารรอบชนะเลิศที่เหลือผู้แข่งขันสามคน กรรมการกำหนดให้ผู้เข้าแข่งขันคิดสร้างสรรค์เมนูใหม่ขึ้นมาสอง ชุด คือ ภาคเช้าเป็นอาหารอินเดียมังสวิรัติสามอย่างกับของหวาน และเครื่องดื่มหนึ่งอย่าง และภาคบ่ายเป็นอาหารอินเดียที่ใซ้เนื้อสัตว์กับของหวานและเครื่องดื่มหนึ่งอย่าง ซึ่งทุกอย่างผู้เข้าแข่งขันต้องทำในปริมาณที่พอกับจำนวนคณะกรรมการสิบคน จากกลุ่มอาเซียนและกรรมการกิตติมศักดิ์จากพระราชวงศ์สิงหนาทแห่งชัยปุระอีกสี่พระองค์ที่ครั้งนี้มหาราชาสุเรนทราฯ เข้าร่วมงานด้วย และผลการตัดสินจากคะแนนเป็นเอกฉันท์ให้ทีมวัสสิกาชนะเลิศทั้งสามประเภท ทั้งความคิดสร้างสรรค์ ทั้งรสชาติอาหาร ทั้งการตกแต่งจานอาหาร
อาหารเมนูเด่นในภาคเช้าของทีมวัสสิกาได้รับคำชมเชย จากคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ทั้งสี่พระองค์ คือ ขนมพุดดิ้งที่วัสสิกาใช้น้ำนมถั่วเหลืองกับเนื้อมะม่วงสุกและพริกหวาน เขียว-แดงแช่อิ่มใส่ผงมัสซาลาสูตรพิเศษสำหรับของหวาน ในภาคบ่ายได้รับคำชื่นชมจากสูตรไอศกรีมนมถั่วเหลืองผลไม้ รวมกับขนมพุดดิ้งราสมาไลย์ที่มีรับสั่งจากคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ว่าขนมพุดดิ้งราสมาไลย์ของวัสสิกามีรสชาติและส่วนผสมเหมือนขนมพุดดิ้งนมสดราสมาไลย์ตำรับเก่าแก่ของห้องเครื่องเสวยในพระตำหนักมณีจันทราฯที่ตกทอดมาถึงคนรุ่นใหม่เป็นเวลายาวนานนับร้อยปี
กรรมการทุกคนส่งเสียงฮือฮาด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้ยินว่าขนมตำรับของวัสสิกาเหมือนตำรับเก่าแก่ของแม่ครัวในห้องเครื่องเสวยของพระราชวัง ต่างคิดว่าว่าช่างเป็นความบังเอิญเหนือจริงที่ผู้หญิงอาชีพทำครัวสองคนอยู่ต่างยุคต่างสมัยกลับมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำอาหารออกมาเหมือนกัน
หลังจากถ้อยรับสั่งจากมหาราชาสุเรนทราฯที่สร้างความประหลาดใจแก่ทุกคนจบลงแล้ว เสียงประกาศให้ทีมผู้ชนะเลิศขึ้นรับรางวัลก็ดังขึ้นวัสสิกากับเพื่อนทั้งสองขึ้นรับรางวัล ท่ามกลางแสงแฟล็ชต์รัวเร็วและเสียงปรบมือดั่งสนั่นหูตาพร่าพรายจนมองไม่เห็นว่าใครเป็นใคร เสร็จพิธีรับรางวัลมณีรัตน์ได้ชวนบุรินทร์ขึ้นห้องพักเพื่อไปเอาโทรศัพท์มือถือที่ลืมไว้ จะเอามาถ่ายภาพของทั้งสามเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งก่อนหน้าทั้งสองได้แอบเตรียมช่อดอกไม้และของขวัญไว้เซอร์ไพรส์เพื่อ แสดงความยินดีในความสำเร็จของเพื่อนสาว โดยนัดหมายไปถ่ายภาพร่วมกันในสวนดอกไม้และให้วัสสิกาลงไปรอในห้องล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่งของโรงแรมก่อน...แต่เมื่อทั้งสองลงมากลับไม่เจอตัววัสสิกา...