ตอนที่ 4
เขาหัวเราะเบา ๆ เมื่อยกมือบีบจมูกของหล่อนเบา ๆ แล้วยกแขนโอบร่างบางเอาไว้
“ไป”
“ไปไหนคะ”
“ดินเนอร์ไงครับ”
“ไอยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวเลยนะคะ เราออกเดทกันครั้งแรกในเมืองไทยเลยนะคะ ให้ไอสวยกว่านี้ได้ไหม”
เขาใช้สายตามองร่างบางของหล่อนเพียงแวบเดียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“หากสวยกว่านี้ ผมคงไม่สามารถทำอะไรได้ คงต้องนั่งเฝ้านอนเฝ้าคุณ เพราะหากคุณสวยกว่านี้ ผมคงต้องเหนื่อยที่จะต้องถือไม้ไว้กันชายอื่นที่จะวิ่งเข้ามาหาคุณ”
“ฟังดูไม่เหมือนว่าคุณจะป้องกันคนอื่นมาจีบไอ แต่เหมือนคุณกันของรักหรือสัตว์เลี้ยงแสนซนไม่ให้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านมากกว่านะคะ”
“คิดมาก”
เขาบีบปลายจมูกของหล่อนอีกครั้งก่อนจะกึ่งกอดกึ่งประคองให้หล่อนก้าวไปกับเขา แม้หล่อนจะไม่อยากรอ และเบื่อที่จะต้องมานั่งเฝ้าเขาบางครั้งก็ไม่ได้ แต่ก็เพราะรัก แล้วความตั้งใจที่มีไว้แต่เดิมทำให้หล่อนต้องอดทน ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหน หล่อนจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้หลุดมือไปเป็นอันขาด
“แม่เฒ่า..”
เสียงเรียกที่ดังมาจากเบื้องหลังทำให้หญิงชราวัยเจ็ดสิบ ผมสีดอกเลาที่ยาวเหยียดเกล้าเป็นมวยไว้อย่างเรียบร้อย สวมชุดสีขาวนั่งสมาธิอยู่หน้าขันน้ำมนต์ขนาดใหญ่ในศาลาแปดแหลี่ยมที่มุงด้วยแฝก ต้องเงยหน้าขึ้น
“ท่านจะมองอยู่เช่นนี้โดยไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นหรือ”
ชายคนหนึ่งในกลุ่มกว่าสิบคนเอ่ยถามขึ้นแล้วที่เหลือก็ต่างส่งเสียงสนับสนุน
“ใช่ ศพของท่านเจ้าเมืองกับแม่เมือง เราก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะเราต้องรอมัชฌิมากลับมา”
“ใช่ แม่เฒ่ามิใช้เวทมนที่มีอยู่ช่วยกำจัดภูตมนต์ดำตนนั้นเล่า เพื่อที่มัชฌิมาจะได้กลับมาเพื่อจัดการศพของท่านเจ้าเมืองและแม่เมือง”
“ใช่ จากนั้นเราจะได้เลือกพ่อเมืองคนใหม่มาปกครองดูแลเมืองลับนครแห่งนี้”
แม่เฒ่าจิตตรีหันมาหาทุกคน
“มันเป็นชะตากรรมของมัชฌิมา อย่าได้เอ่ยถึงนางอีก เพราะนางไม่สามารถกลับมาที่เมืองลับนครได้อีกแล้ว”
“แล้วผู้ใดจะเป็นคนจัดการศพของท่านเจ้าเมืองเล่า”
แม่เฒ่าจิตตรีนิ่ง
“แล้วยังลูกแก้ววิเศษนั้นอีก มันเป็นของวิเศษคู่มากับเมืองลับนคร ใยท่านให้มัชฌิมาเอาออกไปได้เล่า”
“ใช่แล้ว ต่อให้ลูกแก้วมีพลังวิเศษสักปานใด เมื่ออยู่นอกเมืองลับนคร อิทธิปาฏิหาริย์ก็จะเบาลง ไม่ได้ยั่งยืนยาวนานเหมือนอยู่ที่นี่ เหตุใดท่านให้มัชฌิมาเอาออกไป”
“ทางที่ดีท่านควรฆ่าเจ้าภูตมนต์ดำนั่นซะแล้วให้มัชฌิมากลับ เข้าพิธีบูชายัญแล้วแต่งตั้งเจ้าเมืองคนใหม่ขึ้นมา เพื่อที่เมืองลับนครของพวกเราจะอยู่อย่างสงบสุข”
“และทางที่ดีแม่เฒ่าท่านควรปิดประตูระหว่างเมืองมนุษย์กับเมืองลับนครเสียด้วย”
เสียงอื้ออึงของผู้คนได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อพวกเขาต่างทยอยเข้ามาที่พักของแม่เฒ่าจิตตรี
“เพลานี้คำหยาดได้รับอันตรายอย่างหนัก ด้วยมือของรศยาซึ่งไม่สามารถควบคุมตนเองได้ แล้วไม่ได้อยู่ในอำนาจของข้าที่จะออกไปช่วย จนกว่า..”
“จนกว่าอะไรหรือแม่เฒ่า”
“จนกว่าวันนั้นจะมาถึง”
“วันไหนกันเล่า”
แม่เฒ่านิ่ง
“ข้าบอกพวกเจ้าไม่ได้ แต่ขอให้พวกเจ้าเตรียมตัวจัดงานศพเถิด เราไม่จำเป็นต้องรอมัชฌิมา ส่วนการคัดเลือกบุคคลมาแทนท่านเจ้าเมือง ข้ากับเหล่านักบวชจะคัดเลือกบุคคลที่จะมาปกครองเมืองลับนครต่อจากท่านเจ้าเมืองภพธรรมเอง ไม่ต้องรอมัชฌิมา เพราะว่า นางไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีก นับจากนี้ นางไม่ใช่คนของเมืองลับนครอีกต่อไป”
แม่เฒ่าจิตตรีพูดจบก็หันหน้ากลับไปยังทิศทางเดิมแล้วเข้าสมาธิทำให้ผู้คนที่ทยอยเข้ามาพากันออกไปแต่ยังไม่วายโจทขานถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัวนั้น
“แม่เฒ่า ไม่มีทางช่วยพี่มัชฌิมาได้จริงหรือ”
เมื่อคล้อยหลังผู้คนที่ทยอยกันออกไปจนหมดแล้วเด็กชายคนหนึ่งวัยสิบขวบก็ร้องถามแม่เฒ่าขึ้นทันที พร้อมกับชะโงกหน้าเข้าไปมองในขันน้ำมนต์ขนาดใหญ่ แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโพรงเมื่อมองเห็นมัชฌิมาในขันน้ำมนต์นั้น
“โอ๊ะ! นั่นมัน”
แม่เฒ่าจิตตรีหันมาทางเจ้าแกะ เด็กชายที่ไว้แกะสองข้างหน้าตาน่ารักที่กำลังมองดูความเคลื่อนไหวของมัชฌิมาที่กำลังไปดักรอกานต์ยังบริเวณใกล้ปราสาทสีงาช้างที่คุมขังคำหยาด
“ข้าได้ยินพ่อข้า คุยกันว่า ลูกแก้ววิเศษจะมีฤทธิ์อ่อนลงเมื่ออยู่ในเมืองมนุษย์นาน ๆ มันจะไม่สามารถคุ้มกันพี่มัชฌิมาได้นาน สักวันมันจะหมดฤทธิ์แล้วภูตมนต์ดำจะมองเห็นพี่มัชฌิมา..จริงหรือไม่แม่เฒ่า”
“จริง..”
แม่เฒ่าตอบรับเบา ๆ
“ใยท่านมิช่วยพี่มัชฌิมาให้กลับมาโดยเร็วเล่า ด้วยมนต์คาถาของท่านสามารถกำจัดภูตตนนั้นได้มิใช่หรือ”
“เจ้าจะรู้อะไรเจ้าแกะ ออกไป”
แม่เฒ่าเอ่ยปากไล่แต่เจ้าแกะยังมองในขันน้ำมนต์อยู่
“ขอข้าดูพี่มัชฌิมาด้วยคนเถิด ข้าคิดถึง”
เจ้าแกะพูดพร้อมกับยังคงมองดูภาพของมัชฌิมาในขันน้ำมนต์
“โอ๊ะ! นั่นคืออะไรแม่เฒ่า พี่มัชฌิมา!”
แม่เฒ่าหลับตาลงเมื่อมองเห็นภาพที่มัชฌิมาจงใจวิ่งออกไป เมื่อมองเห็นรถและจำเลขทะเบียนรถของกานต์ได้
..เอี๊ยด..
กานต์เหยียบเบรกจนเกือบตันเมื่อจู่ ๆ ก็มองเห็นร่างของใครคนหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากข้างทาง ครั้นพอเขาตั้งสติได้ ก็มองเห็นร่างบางระหงนอนเหยียดยาวขวางหน้ารถอยู่ในระยะกระชั้นชิด
“คุณ!”
เร็วเท่าความคิด กานต์เปิดประตูออกมาพร้อมกับถลาเข้าไปประคองร่างบางนั้นให้หงายหน้าขึ้น
“เอ๊ะ?”