บทที่4
บรืน
ปึก
"นารี"
"ต้นอ้อ"สองเพื่อนสาวต่างโผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึงทันทีเมื่อรถคันหรูของอัคคีเล่นเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านเรือนไทย ต้นอ้อดีใจจนเนื้อเต้นเธอรีบเปิดประตูลงมาจากรถเมื่อเห็นว่านารีเพื่อนสนิทสมัยเด็กกำลังยืนรอเธออยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน
"ฮึก คิดถึง คิดถึงมาก"
"คิดถึงเหมือนกัน ไม่เอาสิไม่ร้อง"นารีดันร่างเล็กของเพื่อนรักออก เธอบรรจงเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของต้นอ้อด้วยความอ่อนโยนอย่างเบามือ แต่ดูเหมือนว่าเธอยิ่งเช็ดสักเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยิ่งปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาไม่หยุด จนอัคคีว่าที่สามีของต้นอ้อต้องรีบเดินมาดูแลว่าที่ภรรยา
"ตัวเล็กหยุดร้องไห้ก่อนนะครับคนดี"
"ฮึก ก็คนมันคิดถึงเพื่อนนี่คะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี"ต้นอ้อปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวก ๆ ก่อนเธอจะหันมาแนะนำสามีและพี่ชายของสามีให้เพื่อนรักอย่างนารีได้รู้จัก
"นารี นี่คุณอัคคีว่าที่เจ้าบ่าวของเราเอง"
"สวัสดีค่ะคุณอัคคี"
"สวัสดีครับ"นารียิ้มทักทายชายหนุ่มร่างสูงใหญ่มีใบหน้าหล่อเหลาพ่วงตำแหน่งว่าที่สามีเพื่อนด้วยความเป็นมิตร ซึ่งอัคคีเองก็หันมาส่งยิ้มทักทายด้วยความเป็นมิตรเช่นเดียวกัน
"ส่วนคุณคนนั้นคือคุณเมฆา พี่ชายของคุณอัคคี"แววตาอ่อนโยนของนารีหันไปมองหน้าชายหนุ่มซึ่งยืนนิ่งราวกับรูปปั้นอยู่ทางด้านหลัง เพียงแค่ได้สบนัยน์ตารัตติกาลคู่นั้นก็ทำเอาหัวใจดวงน้อยของเธอวูบโหวงอย่างน่าแปลกประหลาด
"สวัสดีค่ะคุณเมฆา"
เรือนกายสูงตระหง่านแข็งแกร่งทรงพละกำลังอย่างไร้ที่เรียบยืนนิ่ง แววตายากจะคาดเดาไล่มองรูปโฉมงดงามสะคราญตาของผู้หญิงตรงหน้า สตรีร่างเล็กสูงไม่ถึงหัวไหล่ของเขาเธอมีผิวพรรณขาวสะอาดราวกับหิมะ ใบหน้าเรียวเล็กตอบรับกับคิ้วโก่งดั่งคันศร จมูกสวยโด่งรั้นริมฝีปากอวบอิ่มชวนสัมผัส พวกแก้มทั้งสองข้างแดงปลั่ง เธองดงามเหมือนนางวรรณคดีไทย
"กะพริบตาบ้างก็ได้ เดี๋ยวไก่ตื่นหมด"
"เสือก"
"เอ้า ไอ้นี่ คนเขาอุตส่าห์หวังดี"
"เรื่องของกู"เมฆามองหน้าน้องชายก่อนตนเองจะเดินตามหญิงสาวทั้งสองเดินขึ้นไปภายในบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ซึ่งบริเวณบ้านให้ความเป็นธรรมชาติบรรยากาศร่มรื่น
"แล้วนี่จะมาอยู่กันกี่วัน"
"ก็คงสักสองสามวัน ฉันอยากไปเที่ยวที่อื่นด้วย"
"หืม อยู่ที่กรุงเทพไม่มีที่ให้แกเที่ยวหรือไง"ทั้งสองเดินมาถึงระเบียงที่ต่อยื่นออกมาจากตัวบ้านซึ่งมีสำรับอาหารที่นารีเตรียมวางเอาไว้
"ที่กรุงเทพฉันไปเที่ยวมาหมดแล้ว ฉันอยากกลับมาเที่ยวที่บ้านเกิดของตัวเองบ้าง"นารีย่นคิ้วมองหน้าเพื่อนสาว ก่อนเธอจะเดินหายเข้าไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมกับขันใส่น้ำเย็น ๆ โดยมีดอกมะลิลอยเด่นส่งกลิ่นหอม
"เชิญนั่งกันก่อนสิคะ"นารีบอกสองชายหนุ่มซึ่งทั้งคู่พึ่งจะเดินขึ้นบันไดมาเธอส่งขันน้ำดื่มไปให้เมฆาเงยหน้ามองหญิงสาว เขายอมรับขันน้ำดื่มไปอย่างไม่ลังเล
"น้ำเย็น ๆ ค่ะ "
"ขอบคุณครับ"นารีส่งยิ้มหวานให้อีกครั้งก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างกายของเพื่อนสาว ส่วนเมฆาเขายกขันน้ำขึ้นดื่ม น้ำเย็น ๆ หอมชื่นใจผลจากดอกมะลิในขัน
"แล้วแกอยากจะไปเที่ยวที่ไหนล่ะ"
"ฉันยังไม่รู้เลย แกพอจะมีที่เที่ยวแนะนำฉันบ้างไหม"
"ฉันล่ะเชื่อแกจริง ๆ เลย ยายต้นอ้อ"นารีส่ายหน้าให้กับความโก๊ะของเพื่อนรัก
"แล้วนี่แกจะพักที่ไหนได้จองโรงแรมเอาไว้แล้วหรือยัง"นารีเปิดปากถาม เธอจัดการเปิดฝาครอบอาหาร พลางยื่นมือไปตักข้าวสวยใส่จานให้ทุกคน
"ฉันคุยกับคุณอัคคีมาเรียบร้อยแล้ว พวกเราสามคนจะนอนค้างคืนกันที่นี่"
"จริงเหรอคะ"
"ครับ พวกเราสามคนต้องขอรบกวนคุณนารีด้วยนะครับ"
"ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ ที่นี่มีห้องพักตั้งหลายห้อง"เจ้าบ้านอย่างนารีตอบรับอย่างเป็นมิตร
"แต่ว่าบ้านของนารีไม่มีเครื่องปรับอากาศ พวกคุณสองคนนอนกันได้ใช่ไหมคะ"ครานี้เธอหันไปมองหน้าอัคคีสลับกับเมฆาซึ่งชายหนุ่มนั้นได้มองมาอยู่ที่เธอก่อนแล้ว
"ผมได้อยู่แล้ว แล้วพี่ล่ะพี่เมฆา"
"ฉันไม่มีปัญหา"เสียงเข้มของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ตอบกลับมา นารียิ้มจนตาของเธอเป็นสระอิทำให้หัวใจแกร่งของเมฆากระตุกวูบยามเมื่อเธอส่งยิ้มหวานมาให้
ทั้งสี่นั่งรับประทานอาหารเย็นอย่างอร่อย ฝีมือการทำอาหารใต้ของนารีทำให้ต้นอ้อเติมข้าวไปถึงสองจานไม่เว้นแม้แต่สองชายหนุ่ม ซึ่งในตลอดระยะเวลาสายตาของเมฆาเหลือบมองหน้านารีอยู่บ่อยครั้งซึ่งคนถูกมองก็สัมผัสมันได้แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกไปเพราะแววตาคมคู่นั้นที่มองมามันชั่งยากที่เธอจะหาความหมาย
ปิ๊น ปิ๊น
เสียงแตรรถกระบะมีรั้วเหล็กกันสูงดังขึ้นเรียกความสนใจให้ทั้งสี่หันไปมอง นารีต้องชะโงกหน้าลงไปดูเมื่อรถของเสกสรรกำลังขับเคลื่อนออกมาจากสวนผลไม้
"ใครเหรอนารี"
"รถคุณเสกพ่อค้าที่มารับซื้อทุเรียนน่ะ เดี๋ยวฉันมานะ เชิญพวกคุณตามสบายนะคะ"นารีหยัดกายลุกขึ้นก่อนเธอจะเดินอ้อมหลังชายหนุ่มเดินตรงไปยังทางบันได โดยมีสายตาเข้มมองตามแผ่นหลังของเธอไปโดยไม่ละสายตา
ใบหน้าเรียบนิ่งแววตายากจะคาดเดาของเมฆาทำให้ต้อนอ้อรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ คล้ายกับคนกำลังจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ลมหายใจของหญิงสาวตำแหน่งน้องสะใภ้สะดุดเมื่อเมฆาลุกขึ้นยืนพลางชะโงกหน้ามองไปยังสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งตอนนี้มีหญิงสาวที่พึ่งจะเดินลงไปกำลังคุยพร้อมส่งยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขา
"ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ พรุ่งนี้จะมาอีกใช่ไหม"
"ครับ ผมต้องมาหาคุณอยู่แล้ว"ฝ่ามือใหญ่ของเสกสรรถือวิสาสะวางลงบนท่อนแขนเล็กของนารีทั้งคู่ยืนคุยกันด้วยท่าทีสนิทสนมกันออกนอกหน้า โดยมีสายตาลุกโชนด้วยเปลวไฟของเมฆากำลังมองทั้งคู่อยู่ไม่ไกล
กรอดดด