7 อย่าพูดถึงมันอีกเลย
ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยังคงติดอยู่ในหัว ธันยมัยโกรธตัวเองที่เผลอไผลไปกับการชักนำของเขา หญิงสาวสัญญากับตัวเองว่าจากนี้จะอยู่ให้ห่างจากชายหนุ่มให้มากที่สุด ไม่ใช่เพราะกลัวเขา แต่เธอกลัวใจตัวเองที่มันมักจะเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้ เขาใช้เงินจ้างเธอเพื่อนเป็นผู้หญิงของเขา นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับการขายตัวเลยสักนิด หญิงสาวคิดว่าคงไม่อาจช่วยงานเขาได้อีกต่อไป แต่ก่อนจะคุยอีวานเธอคงต้องจัดการบางอย่าง เพราะไม่อยากกลับไปเรียนโดยที่มีลูกของเขาติดท้องไปด้วย
หญิงสาวออกจากห้องมาก่อนเวลาอาหารเช้าเกือบชั่วโมง เธอขอให้คนขับรถพาไปยังร้านขายยาที่ใกล้ที่สุด เมื่อเห็นว่าเภสัชกรเป็นผู้หญิงเธอจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปปรึกษา เมื่อได้คำแนะนำแล้วเธอก็กลับมาถึงบ้านทันเวลาอาหารพอดี
“คุณขิงไปไหนมาแต่เช้าคะ” พี่แหวนกำลังจัดอาหารถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอเดินมาจากทางประตูหน้า
“ขิงไปธุระมานิดหน่อยค่ะ พี่แหวนทำอะไรคะ น่าทานจังเลย”
“ข้าวต้มกั้งค่ะ เมนูโปรดของคุณขิงกับคุณเอชเลยนะคะ”
ธันยมัยนั่งลงข้างเจ้านาย แล้วนั่งทานอย่างเงียบๆ ไม่สนใจว่าเขาจะตักอาหารทานเองได้หรือไม่ ก็ทีเมื่อคืนเขายังทำตัวอย่างกับคนปกติแล้วเธอจะสนใจเขาทำไมกัน
“คุณเอชทำไมไม่ทานล่ะคะ ให้พี่แหวนช่วยไหม”
“ผมจ้างพี่แหวนมาทำกับข้าว ทำงานบ้าน ไม่ได้จ้างมาดูแลผม” คำพูดประชดประชันนั้นทำให้คนที่ถูกจ้างมาดูแลหน้าง้ำ
หญิงสาวจำต้องตักอาหารให้เขาซึ่งรู้สึกว่าวันนี้นอกจากเขาจะมองไม่ชัดแล้วก็กลายเป็นคนไม่มีแรงไปซะอย่างนั้น
เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาในห้องทำให้คนที่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเคร่งเครียดหยุดไปครู่ ก่อนจะคุยต่อด้วยนำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ เธอไม่เคยเห็นเขามีท่าทางแบบนี้มาก่อน เรื่องที่คิดว่าจะขอให้เขาเลิกสัญญาจ้างก็คิดว่าคงยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก
“คุณมีพาสปอร์ตไหม แล้วเอามาด้วยหรือเปล่า” เขาถามเธอทันทีหลังจากวางสาย
“มี แต่ค่ะ แต่ขิงไม่ได้เอามา”
“มันอยู่ที่ไหนเดี๋ยวผมจะให้ลูกน้องไปเอา” เสียงเขาดูร้อนรนจนเธอไม่กล้าถามว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
แล้วเธอก็โทรศัพท์ไปหาแพรพลอย บอกว่าจะมีคนไปเอาพาสสปอร์ต หญิงสาวบอกเพื่อนเพียงว่าจะต้องไปต่างประเทศกับญาติที่มาทำงานด้วย
“บอกขิงได้หรือยังคะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
อีวานเล่าให้เธอฟังถึงความจำเป็นที่เธอจะต้องเดินทางไปสิงคโปร์กับเขาจากกำหนดเดิมคืออาทิตย์หน้า แต่คงต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน เพราะมันเป็นแผนที่ดูจะผ่านไปได้ง่ายกว่าแผนเดิม
“คุณคิดว่ายังไง เตรียมตัวทันไหม” เขาอยากฟังความเห็นของเธอเพราะไหนๆ เธอก็ต้องล่มหัวจมท้ายไปกับเขา
“ขิงว่ามันกะทันหันอย่างที่คุณบอก แต่มันเป็นผลดีกับคุณมากกว่า การไปประชุมมันก็แค่เจอผู้บริหารและผู้ถือหุ้น แต่ถ้าคุณไปงานเลี้ยงคนที่คุณต้องเจอก็เยอะตามไปด้วย หมายความว่าคุณไม่ต้องดูรายงานการประชุม ไม่ต้องเซ็นเอกสารและอีกอย่างในงานเลี้ยงคงไม่มีใครมาคอยจับผิดคุณหรอก ทุกคนก็คงสนใจแต่เจ้าภาพ ส่วนคุณก็ไปแสดงตัวทักทายคนรู้จักแล้วก็เลี่ยงออกมาเท่านั้น
“คุณคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเหรอขิง”
“ขิงไม่รู้ เพราะไม่เคยเจอคนในสังคมของคุณ ไม่รู้ว่าพวกคนรวยเขาคิดอะไรกันอยู่”
“คุณต้องหัดเรียนรู้ คุณพร้อมจะไปกับผมหรือเปล่า”
“ขิงต้องไปจริงๆ เหรอคะ”
“ถ้าคุณไม่ไปจะให้ผมเดินควงกับเซบไปทั่วงานเหรอ”
ธันยมัยอยากปฏิเสธ แต่มาถึงขั้นนี้แล้วเธอก็อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ตลอดเวลาสองวันก่อนเดินทางธันยมัยต้องพยายามดูรูปถ่ายพร้อมคลิปวิดีโอที่เซบาสเตียนส่งมาให้ หญิงสาวต้องจำทั้งใบหน้ารวมถึงความเกี่ยวข้องของคนเหล่านั้นกับอีวานให้ได้มากที่สุด เพราะเธอคือคนที่จะอยู่ข้างเขาตลอดเวลา
“ขิง”
“คุณจะไม่พูดเรื่องของเราหน่อยเหรอ” เมื่อเห็นว่าผ่านมาถึงสองวันแล้วธันยมัยก็ไม่พูดถึงเรื่องคืนนั้นเลยสักนิด
“อย่าพูดถึงมันอีกเลยค่ะ”
“ทำไม คุณไม่มีความสุขเหรอ” เขาทำหน้าซื่อถามออกมา
“คุณจะพูดให้มันได้อะไรขึ้นมาค่ะ แค่นี้ขิงก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว” หญิงสาวอายเหลือเกินที่เขาพูดเรื่องนั้นขึ้นมาอีก ทั้งที่เธอกำลังพยายามจะลบมันออกจากความทรงจำ
“ทำไม มีอะไรกับผมมันน่าอายมากเลยเหรอ เพราะอะไรคุณบอกผมได้ไหม”
“เพราะคุณบอกว่าจะจ้างขิงให้เป็นผู้หญิงของคุณ”
“คุณเข้าใจผมผิดแล้ว สองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันสักนิด”
อีวานไม่คิดเลยว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้ธันยมัยตีความไปผิดๆแบบนั้น เขาต้องแก้ไขก่อนที่เธอจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“ที่ผมจะจ้างคุณให้เป็นผู้หญิงของเผมเพราะอยากให้วันที่เราไปสิงคโปร์ทุกอย่างจะได้ราบรื่น ขืนผมบอกว่าคุณเป็นผู้ช่วยคนอื่นต้องสงสัยแน่ๆ เพราะปกติผมไม่เคยจ้างผู้ช่วยผู้หญิงเลย แล้วผมก็กลัวคุณจะไม่ไปกับผมเพราะมันไม่ได้อยู่ในสัญญาผลเลยต้องพูดออกไปแบบนั้น แต่เรื่องที่ผมนอนกับคุณมันไม่เกี่ยวกับการจ้างเลยนะขิง”
“แล้วมันเกี่ยวกับอะไรคะ” เธอถามเขาออกไปตรงๆ เพราะคนอย่างเขาถ้าถามอ้อมก็คงได้เข้าใจผิดกันไปอีกแน่
“จะให้ผมพูดจริงเหรอ” เขาขับตัวเข้ามาใกล้จนเธอขับชิดชนพนักโซฟารูปตัวแอลให้ห้องทำงาน
“คุณลำบากใจก็ไม่ต้องพูดก็ได้ ขิงไม่อยากรู้แล้ว” ท่าทางคุกคามของเขาทำให้เธอหวาดกลัว
“อันที่จริงผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงทำเรื่องแบบนั้นกับคุณ ผมรู้แค่ว่าอยู่ใกล้คุณทีไรหัวใจผมก็เต้นแรงทุกครั้ง ยิ่งพอได้ใกล้ได้สัมผัส ได้กลิ่นหอมจากตัวคุณ ผมก็คุมตัวเองไม่อยู่ แล้วคุณไม่รู้สึกดีกับผมบ้างเหรอ”
“คุณยังไม่เคยเห็นหน้าขิงเลยนะคะ”
“มันสำคัญด้วยเหรอ เวลาที่เราอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขก็แล้ว”เขาตอบตามที่ใจคิด
“ขิงไม่ใช่คนสวยอะไรเลย เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ขิงต้องดิ้นรนทำงานไม่มีครอบครัวคอยซับพอร์ต”
“แต่คุณมีผมนะขิง ต่อไปนี้ผมจะเป็นครอบครัวของคุณ”
“ขิงว่าคุณอย่าพึ่งพูดแบบนั้นเลยค่ะ เราเองก็รู้จักกันไม่นาน” เธอไม่อยากต้องมาเสียใจทีหลังถ้าวันหนึ่งเขาหายเป็นปกติแล้วทิ้งเธอไป
“ผมมั่นใจแบบนั้น ผมขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหม”
“ลองขอมาก่อนสิคะ”
“ผมอยากให้คุณเรียกผมว่าพี่เอช”
“ทำไมคะ”
“คุณไม่รู้หรอกว่าผมอิจฉาเซบแค่ไหน เวลาที่คุณเรียกว่าพี่ ผมเองก็อายุเท่ากับเขานะ”
“แต่คุณเป็นเจ้านายนะคะ ขิงไม่กล้าเรียกแบบนั้นหรอกค่ะ”
“ถ้าคิดว่าผมเป็นเจ้านาย งั้นผมก็ขออำนาจของการเป็นเจ้านายสั่งให้คุณเรียกผมว่าพี่เอช ตกลงตามนี้ไหมครับ” เสียงของเขาอ้อนน่าฟังกว่าครั้งไหน จนธันยมัยรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าขิงเรียกคุณว่าพี่ แล้วคุณจะแทนตัวเองว่าพี่ด้วยไหมคะ”
“แน่นอนสิ”
“ถ้างั้นขิงก็ตกลงค่ะ”
ถ้าอีวานมองเห็นก็คงจะดี เพราะตอนนี้ผู้หญิงตรงหน้าของเขานั้นยิ้มให้เขาเป็นยิ้มที่มันออกมาจากหัวใจดวงน้อยของเธอ