4 ลองมาคบกันแบบลับๆ ดูไหม
ธันยมัยมาทำงานที่เกาะแห่งนี้ได้หนึ่งเดือนเต็มแล้ว เธอกับเจ้านายทำงานด้วยกันได้ดีจนเซบาสเตียนบอกว่าถ้าเธอเรียนจบจะให้มาช่วยงานอีวานแทนตัวเอง ส่วนเรื่องสายตาของเจ้านายก็ดูเหมือนว่าจะดีขึ้นเพราะครั้งล่าสุดที่เขากลับมาจากการพบแพทย์ก็ไม่ต้องใส่อายชิลด์เหมือนตอนแรก เพียงแต่ยังต้องใส่แว่นเพื่อป้องกันแสงกับลมที่จะเข้ามากระทบโดยตรง
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ธันยมัยขออนุญาตเจ้านายใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อกับอาจารย์ที่ปรึกษาและโทรถามสารทุกข์สุกดิบกับแพรพลอยและน้ำอิง รวมไปถึงสอบถามเรื่องภาสกรแต่แพรพลอยก็ติดต่อเขาตามเบอร์โทรศัพท์ที่เธอเคยให้ไว้ไม่ได้เหมือนกัน
“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ดูร่าเริงผิดปกติ” เมื่อได้ใกล้ชิดกันนานนับเดือนทั้งสองก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นสรรพนามที่เขากับเธอใช้ก็เปลี่ยนไป
“ขิงทำใจเรื่องพี่ซันได้แล้ว”
“แฟนน่ะเหรอ”
“แฟนเก่าค่ะ” เธอย้ำ
“ไม่เสียใจเหรอ” แม้จะมองไม่ชัดเท่าไหร่เพราะสายตายังคงปรับโฟกัสได้ไม่มากแต่ก็เห็นว่าตลอดทั้งวันผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่ข้างเขานั้นไม่มีอาการเสียใจเลยสักนิด
“ก็นิดหน่อยค่ะ เสียดายเวลามากกว่า แต่ก็ดีนะคะพี่ซันเป็นแบบนี้”
“ผมไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย ตกลงยังไงกันแน่”
“แหมคุณเอชพูดอย่างกับว่าตัวเองแก่อย่างนั้นแหละ ที่ขิงบอกดีใจเพราะจากนี้จะได้ตั้งใจทำงานเก็บเงิน และรีบเรียนให้จบ เรื่องความรักขิงว่าคงต้องพักไว้ก่อน ขิงเข็ดแล้ว”
“ดีแล้วเป็นเด็กก็ต้องตั้งใจเรียน”
“ขิงรู้หรอกน่า แต่ตอนนั้นขิงยังเด็กพอเห็นคนหล่อๆ พูดจาดีๆ เข้ามามันก็ต้องอ่อนไหวกันเป็นธรรมดาจริงไหมคะ”
“ไม่รู้สิ ผมผ่านช่วงวัยรุ่นมานานแล้ว” ตอนนี้อีวานอายุ 35 ซึ่งห่างจากคำว่าวัยรุ่นมานานเป็นสิบปี
“ผู้ชายไม่เหมือนผู้หญิงหรอกนะคะ”
“ไม่เหมือนยังไง” อีวานที่ปกติแล้วเป็นคนพูดน้อยแต่พออยู่กับธันยมัยทีไรเขาก็กลายเป็นคนช่างคุยโดยไม่รู้ตัว
“ก็ผู้ชายอายุมากยิ่งมีเสน่ห์ค่ะ”
“คิดอย่างนั้นจริงเหรอ” เขารู้สึกมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้านั้นต้องรีบเก็บเอาความรู้สึกที่มีให้เธอซ่อนไว้เพราะรู้ว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว แต่วันนี้หญิงสาวพึ่งบอกว่าทำใจเรื่องแฟนเก่าได้แล้ว คงไม่ผิดที่เขาจะมีความรู้สึกดีๆ ให้กับเธอ
“จริงค่ะ” เธอตอบเขาแต่ไม่กล้าหันไปมองหน้า แม้รู้ว่าเขามองไม่ชัดแต่ก็กลัวว่าเขาจะเห็นแววตาของตัวเองที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่มีให้กับเจ้านาย
ธันยมัยคิดว่าตัวเธอไม่มีอะไรเหมาะสมกับผู้ชายคนนี้เลยสักนิด เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมหุ่นยังเพอร์เฟกต์จนเธอเองแอบเก็บเอาไปฝันถึงอยู่บ่อยๆ ส่วนเธอนั้นเป็นแค่นักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบและตอนนี้ก็มาทำงานงานพาร์ทไทม์กับเขาเท่านั้น
“แล้วอย่างผมถือว่าอายุมากหรือเปล่า” อีวานได้ทีก็โยนหินถามทาง
“ก็ไม่มากนะคะ อย่างอาจารย์ที่มหาลัยบางคนอายุตั้ง 40 ก็ยังมีแฟนเป็นนักศึกษาเลย”
“แบบนั้นเขาเรียกหลอกเด็กแล้ว”
“แต่เด็กบางคนก็เต็มใจให้หลอกนะคะ อีกอย่างเรื่องระหว่างสองคนก็เป็นความลับ กว่าคนอื่นจะรู้อีกทีก็ตอนที่ผู้หญิงเรียนจบนั่นแหละ”
“อ๋อ คบแบบลับๆ สินะ”
“ค่ะ ขิงว่าโรแมนติกดีนะคะ”
“อยากโรแมนติกบ้างไหมล่ะ”
“ถามขิงเหรอคะ”
“ใช่สิ อยู่กันสองคนจะให้ไปถามใคร”เขาทำเสียงเข้มทั้งที่ตัวเองนั้นอยากรู้ว่าเธอจะเปิดโอกาสให้เขาหรือเปล่า ธัมยมัยเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขารู้สึกพิเศษไม่รู้จะเรียกว่าอะไร จะรักก็ดูจะเร็วไป ชายหนุ่มรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้ เธอสดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี แม้ยังไม่เคยเห็นหน้าแต่ก็รู้สึกว่าเธอคืนคนที่เขาอยากให้อยู่ใกล้ๆ แบบนี้ตลอดเวลา
“คุณขิงคะ คุณขิง” เสียงของพี่แหวนเปรียบเหมือนระฆังที่ช่วยชีวิตธันยมัยเพราะเธอไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของคนตรงหน้ายังไง
“ขิงอยู่นี่ค่ะ พี่แหวนมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่จะชวนขิงไปเที่ยวงาน พอดีที่ท้ายเกาะมีงานทำบุญประจำปี กลางคืนนี้มีวงดนตรีมาแสดงด้วยนะคะ คุณขิงอยากไปไหม”
“คือขิง” เธอไม่รู้ว่าจะขออนุญาตเจ้านายยังไง
“ไปสิ ผมอนุญาต แล้วอย่าพากันกลับดึกนะ”เขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร
“ขอบคุณค่ะคุณเอช งั้นเย็นนี้งดเดินเล่นหนึ่งวันนะคะ”
“อือ เอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย ถ้าอยากกลับตอนไหนก็โทรบอกลุงพวงให้ไปรับนะ เพราะขากลับมันคงไม่สว่างเหมือนตอนนี้” เขายื่นสมาร์ตโฟนของตัวเองให้หญิงสาว
“แล้วคุณจะเอาที่ไหนใช้คะ”
“ผมมีอีกเครื่อง เบอร์ลุงพวงผมบันทึกไว้แล้ว ส่วนเบอร์อีกเครื่องผมบันทึกไว้ชื่อเอช” ใจจริงก็ไม่อยากให้เธอออกไปเที่ยวไหน เพราะถ้าเกิดอะไรกับเธอขึ้นมาตัวเขาเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถไปช่วยเธอได้ แต่จะห้ามเธอก็คงดูใจดำเกินไป ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ธันยมัยก็ไม่เคยออกไหนเลย นอกจากเดินเล่นกับเขาที่หาดหน้าบ้านเท่านั้น
“ขอบคุณค่ะ แล้วขิงจะซื้อขนมมาฝากนะคะ”
หญิงสาวกล่าวขอบคุณแล้วพาเขาเข้าไปส่งเจ้านายที่ห้องนอนก่อนจะรีบเดินออกมาสมทบกับพี่แหวน แล้วพากันตรงไปยังท้ายเกาะ
หลังจากอาบน้ำเสร็จอีวานก็นั่งฟังข่าวจากช่องทีวีที่เขาเปิดอยู่เป็นประจำ แต่ตัวเองนั้นไม่มีสมาธิสนใจกับเนื้อหาของข่าวเลยแม้แต่น้อย ในใจคอยแต่คิดว่าคำถามที่ถามธันยมัยไปตอนเย็นนั้นจะทำให้เธอรู้สึกอึดอัดหรือเปล่า อันที่จริงถ้าพี่แหวนไม่มาขัดจังหวะเธอก็คงตอบเขาไปแล้ว ถ้ายังไม่ได้คำตอบจากเธอ อีวานคงนอนไม่หลับทั้งคืนแน่
เขาปิดทีวีที่เอาไว้ฟังแต่เสียงจากนั้นก็พยายามเงี่ยหูฟังเสียงภายนอก พอได้ยินเสียงรถเคลื่อนมาจอดเขาก็รีบลุกขึ้น ชายหนุ่มเดินไปยังประตูเพียงแค่เปิดออกเขาก็ชนกับหญิงสาวเข้าอย่างจัง สองแขนรีบคว้าตัวเธอไว้เพราะกลัวว่าจะล้มลงไป
“ขอโทษค่ะ ขิงไม่คิดว่าคุณจะออกมาตอนนี้”
“ไม่เป็นไร แล้วเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เขาถามทั้งๆ ที่ยังไม่คลายอ้อมกอด
“คุณจะรีบออกไปไหนคะ” เพราะเวลานี้ส่วนใหญ่อีวานมักจะอยู่แต่ในห้องเพื่อติดตามข่าวสารจากรายการข่าว
“ผมอยากฟังคำตอบ คุณคงไม่ลืมใช่ไหม ว่าคุณค้างคำตอบผมอยู่นะ”
“ขิงไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไรเราคุยกันหลายเรื่อง”
“คุณไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่”
“ขิงไม่รู้จะตอบยังไง คุณอีวานอาจจะล้อเล่นก็ได้จริงไหมคะ”
“ผมไม่เคยเอาความรู้สึกมาล้อเล่นนะครับ ให้ผมพูดตรงๆ เลยไหม”
ธันยมัยนิ่งเงียบ เสียงหัวใจเธอเต้นโครมครามกลัวเหลือเกินว่าเขาจะได้ยิน
“ผมชอบคุณนะ” เขากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
เพียงแค่ได้ยินหญิงสาวก็หูอื้อตาลายขึ้นมาทันที จนลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองนั้นยังอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม ตอนนี้อีวานไม่ได้สวมแว่น ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้เธอจนรู้สึกถึงลมหายใจที่ร้อนรดลงบนใบหน้า ถ้าหากอีวานมองเห็นชัดเจนเหมือนคนอื่น ก็คงจะได้เห็นว่าใบหน้าของเธอนั้นแดงระเรื่อเพราะความเขินอายมากแค่ไหน
ชายหนุ่มคิดว่าความเงียบคือคำตอบ เขาฉวยโอกาสดึงร่างเธอเข้ามาแนบชิดยิ่งขึ้น ริมฝีปากหยักได้รูปประกบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างรวดเร็ว ความหวานที่เคยพบเจอเทียบไม่ได้เลยกับรสชาติที่ได้ลิ้มลองจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาว เขารู้ว่าตัวเองเป็นคนแรกที่ได้ลิ้มรสชาติอันแสนหวานนี้ เพียงเพราะเธอไม่ประสาเลยสักนิด
ลิ้นร้อนของอีวานชักนำให้คนไร้ประสบการณ์เปิดปากออกเพื่อให้เขาได้เข้าไปควานหาความหวาน ด้วยสัมผัสที่แปลกใหม่ทำให้ธันยมัยทรงตัวแทบไม่อยู่ มือเล็กคล้องไปบนลำคอของชายหนุ่มอย่างไม่รู้ตัว เสียงของอีวานครางอยู่ในลำคออย่างพอใจ ธันยมัยคล้อยตามเขาได้อย่างง่ายดาย สองมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง แล้วดันเอวบางให้แนบชิดกับสะโพกสอบอย่างใจปรารถนา เพียงแค่นี้ความเป็นชายของเขาก็ตื่นตัวจนมันดันหน้าท้องของหญิงสาว
“คุณเอช ปล่อยขิงเถอะค่ะ” เธอพยายามร้องเรียกชื่อเขาเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นร้อนที่ดันกับหน้าท้อง ธันยมัยรู้ว่ามันคืออะไร แต่เธอกับเขามันต้องไม่ใช่ในสถานการณ์แบบนี้
อีวานผละเธอออกอย่างเสียดาย
“วันนี้คุณคงเหนื่อย ไปพักเถอะแล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ”
เขาพูดจบก็เดินเข้าห้องไป ทำให้คนที่พึ่งโดนขโมยจูบแรกไปได้แต่ยืนงง หญิงสาวไม่แน่ใจว่าที่เขาบอกว่าชอบเธอเพียงเพราะเขาต้องการให้เธอนอนกับเขาหรือเพราะเขาชอบเธอจริงๆ กันแน่
ตลอดทั้งคืนธันยมัยได้แต่นอนพลิกตัวไปมา พอเผลอหลับตาทีไรก็ใบหน้าของคนห้องตรงข้ามก็ลอยมาทุกที นับวันอีวานจะยิ่งเข้าใกล้เธอเรื่อยๆ หรือเขาอาจจะชอบเธอจริงอย่างที่บอก คงต้องลองเปิดใจดูสักครั้ง เพราะเธอเองก็เริ่มชอบเขาแล้วเหมือนกัน
มื้อเช้าอีวานทำตัวปกติเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น จนหญิงสาวคิดว่าเขาคงแกล้งเธอเล่น คิดถึงตรงนี้จิตใจเธอก็ห่อเหี่ยวจนเผลอถอนหายใจออกมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ในที่สุดเขาก็เป็นคนเริ่มคุยกับเธอก่อน
“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยค่ะ”
“เรื่องเมื่อคืนใช่ไหม ผมพูดจริงนะ ผมชอบคุณ ลองมาคบกันแบบลับๆ ดูไหมคุณบอกเองว่าโรแมนติกนี่”
“อะไรนะคะ” เธอตกใจที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้นมัน อีวานไม่ได้คิดจริงจังกับเธอ เขาแค่อยากคบกับเธอแบบลับๆ คงมีแต่เธอเองที่หลงคิดไปว่าเขาชอบจากใจจริง
“ก็ตามที่พูด ผมรู้คุณได้ยินชัด”
“ฉันไม่ขอรับข้อเสนอค่ะ” เขาจะคบกับเธอแบบลับๆ มันฟังดูเหมือนเขากำลังชวนให้เธอเป็นเมียน้อย
“เพราะอะไร เพราะผมตาบอดอย่างนั้นหรือ”
“คุณไม่ได้ตาบอด คุณแค่มองไม่ชัด” เธอไม่อยากให้เขาเอาจุดนี้มาทำให้เธอต้องลำบากใจ
“มันก็ไม่ต่างกันหรอก ทุกวันนี้ผมแทบมองอะไรเห็นอยู่แล้ว”อีวานตัดพ้อ
“คุณอย่ามาพูดให้ตัวเองดูน่าสงสารหน่อยเลยค่ะ”
“ผมไม่ได้อยากให้คุณสงสาร”เขาไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดก็เธอเองเป็นคนบอกเข้าเองว่าคบแบบลับๆ โรแมนติกดี แล้วพอเขาขอเธอคบบ้างหญิงสาวกลับไม่ยอมรับข้อเสนอ หรือบางทีเธออาจไม่ได้คิดอะไรกับเขา
“ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้กับคุณแล้ว เชิญคุณนั่งทานไปคนเดียวเถอะค่ะ ถ้าอิ่มแล้วก็เรียกพี่แหวน ฉันจะไปรอคุณที่ห้องทำงาน”