15 คิดถึง
เพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ต้องห่างจากอีวาน ธันยมัยก็รู้สึกว่าเวลาในแต่ละวันนั้นผ่านไปช้าเหลือเกิน มองไปทางไหนของบ้านก็เห็นแต่ภาพของชายหนุ่มตัวสูงใหญ่อยู่เต็มไปหมด หญิงสาวไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย แม้กระทั่งตอนที่คบกับภาสกร คงเพราะความสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่เกิดขึ้นมันยากเกินกว่าที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้โดยที่ไม่มีอีวาน
ธันยมัยนอนไม่หลับเพราะรอว่าอีวานจะติดต่อมาตอนไหน เธอไม่อยากพลาดที่จะได้คุยกับเขา พอเสียงวิดีโอคอลจากไลน์ดังขึ้นเธอก็รีบกดรับทันที
“สวัสดีค่ะพี่เอช เดินทางเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า แล้วตอนนี้ที่นั่นกี่โมงคะ พี่เอชทานข้าวหรือยังคะ” ธันยมัยยิงคำถามเป็นชุด ทำเอาคนฟังยิ้มกว้างดีใจที่เธอเป็นห่วง
“ถามเป็นชุดอย่างนี้รอสายจากพี่อยู่ใช่ไหมครับ”
“ค่ะ ขิงคิดถึงพี่” น้ำเสียงแล้วท่าทางของหญิงสาวส่งผลให้คนปลายสายแทบอยากจะรีบบินกลับมาหาโดยเร็วทั้ง ๆ ที่พึ่งถึง
“พี่ก็คิดถึงครับ ตอนนี้พี่พึ่งลงเครื่องเดี๋ยวก็คงจะเข้าที่พัก เวลาที่นี่ก็พึ่ง 10 โมงเช้า พี่กินอาหารบนเครื่องมาแล้ว ขิงล่ะครับ เย็นนี้พี่แหวนทำอะไรให้กิน”
“เย็นนี้ขิงกับพี่แหวนต้มบะหมี่ค่ะ”
“กะแล้วเชียวพอ” ตอนที่อีวานอยู่ด้วยเธอเคยชวนเขาต้มบะหมี่แต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมให้เธอทานเพราะบอกว่ามันไม่มีประโยชน์
“ก็ขิงอยากกิน”
“กินได้แต่อย่าบ่อยนะครับ แล้วตอนกลางวันล่ะ ทำอะไรบ้าง”
“ขิงก็ทำงานที่พี่สั่งไว้ เสร็จแล้วก็ฝึกโยคะ”
เมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของอีวานเธอก็ต้องรีบขยายความ
“พี่ทำหน้าเหมือนไม่เชื้ออย่างนั้น คิดว่าขิงโม้ล่ะสิ แต่ก่อนขิงก็ฝึกโยคะเกือบทุกวัน แต่พอมาที่เกาะก็ไม่ได้ฝึกเลย ตอนนี้ตัวแข็งไปหมดแล้ว”
“ไม่เห็นจะแข็งเลย อยู่กับพี่ทีไรก็เห็นตัวอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟทุกที”
“ขิงไม่อยากคุยด้วยแล้ว” หญิงสาวอายจนหน้าแดงกับคำพูดที่ฟังดูออกจะไปในทางลามก
“รู้ไหม เวลาขิงอายน่ารักที่สุด”
“แล้วตอนไม่อายไม่น่ารักเหรอคะ”
“พี่ไม่เคยบอกเลยว่าไม่น่ารัก ขิงคิดไปเองทั้งนั้น”
เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยขอทั้งสองยังดำเนินต่อไปเรื่อยจนกระทั่งเซบาสเตียนบอกว่ารถจากโรงแรมมาถึงแล้ว ชายหนุ่มจึงรีบวางสาย
เซบาสเตียนมองใบหน้าเจ้านายแล้วก็แทบจะไม่ค่อยเชื่อสายตา ตอนนี้อีวานที่เคยใบหน้าเคร่งขรึมนั้นเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มผู้ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แววตาเปี่ยมสุข แถมยังพูดมากขึ้นกว่าเดิม คงเพราะได้ใกล้ชิดกับธันยมัย หญิงสาวนั้นเป็นคนที่ร่าเริงและมองโลกในแง่ดีจนคนที่อยู่ใกล้ซึมซับนิสัยนั้นมาจากเธอมาโดยไม่รู้ตัว
อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดอีวานกับเซบาสเตียนจึงเข้าพักที่โรงแรมก่อน
เซบาสเตียนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟากว้างกลางห้องรับแขกของห้องสูทในโรงแรมแห่งหนึ่ง
“เซบ ฉันมีเรื่องจะถามนายหน่อย” อีวานพึ่งหนักโซฟาหลับตาอย่างผ่อนคลาย
“อือ ได้สิ แต่รอแป๊บนะขอฉันไปหยิบไปแพดก่อน” เซบาสเตียนทำท่าจะลุก
“ไม่ต้องใช้ เรื่องส่วนตัว” เขารีบบอก
“งั้นถามมา”
“นายว่าขิงเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ทำงานดีนะ เก่งเกินอายุ ทำงานคล่องแคล่วแถมยังได้ภาษาจีนด้วย” เซบาสเตียนไม่เคยถามเธอเรื่องนี้ตอนตกลงจ้างงาน แต่ตอนอยู่ในห้องประชุมมีผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคงคิดอยากจะแกล้งเธอ เขาถามเป็นภาษาจีน ตอนนั้นเซบาสเตียนตกใจมากคิดว่าเธอแย่ แต่ธันยมัยตอบกลับด้วยภาษาจีนที่ฟังดูไม่ต่างจากเจ้าของภาษาเลยสักนิด
“ฉันคิดว่าฉันรักเธอ” เสียงของคนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายฟังดูไม่ใช่การพูดเล่นสักนิด เซบาสเตียนกับอีวานคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนครอบครัวของอีวานเป็นคนส่งเสียให้ชายหนุ่มเรียนจนจบ จากนั้นเขาก็ทำงานกับอีวาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอีวานมีผู้หญิงผ่านเข้ามามากมาย แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาจะแสดงท่าทางจริงจังแบบนี้มาก่อนเลย จนเซบาสเตียนนึกว่าอีวานอาจจะไม่คิดเรื่องการแต่งงานมีครอบครัวเสียแล้ว
“ฉันรู้ว่านายพูดจริง แต่แน่ใจแล้วใช่ไหม นายกับเธออายุต่างกันมาก”
“ข้อนั้นฉันรู้ดี แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นอุปสรรค”
“ถ้ามั่นใจก็เดินหน้า แต่อย่าลืมว่าเธอยังเรียนไม่จบ คนอื่นอาจมองว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยง”เพราะตัวเองนั้นใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยมาหลายปีจึงพอจะเข้าใจวัฒนธรรมของที่นั่นมากกว่าเจ้านาย
“ฉันไม่เห็นว่านั่นจะเป็นปัญหาเพราะเรื่องนี้มันอยู่ที่ฉันกับขิงว่าจะเข้าใจกันหรือเปล่า เราคบกันอย่างเปิดเผย ฉันรักเธอและเธอเองก็รักฉัน” เขามั่นใจว่าความรักที่มีให้กันนั้นจะทำให้ทั้งสองผ่านอุปสรรคไปได้
“แล้วเรื่องงานล่ะ”
“นี่แหละคือเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ฉันจะต้องคุยกับนาย ฉันอาจจะให้นายมาทำงานที่สิงคโปร์ระหว่างที่ฉันอยู่เมืองไทยกับขิง”
“นี่จะไปเฝ้าเธอเลย ว่างั้น” เขาอดแซวคนมีความรักไม่ได้ทุกครั้งที่อีวานพูดถึงคนรักแววตาของเขาเต็มไปด้วยความสุขจนเขาเองเห็นแล้วรู้สึกอิจฉา
“นายก็เห็นแล้วนี่ว่าขิงเป็นยังไง” อีวานบอกแค่นั้นเซบาสเตียนก็เข้าใจเพื่อนเป็นอย่างดี
“คนเราเนี่ยนะ อยู่เป็นโสดมาตั้งนาน พอจะมีแฟนทีก็เดือดร้อนคนอื่นไปทั่ว ทำยังกับตัวเองเป็นวัยรุ่น” เซบาสเตียนบ่นแบบไม่จริงจังมากนัก
“ก็นายลองมีแฟนเด็กดูสิ แล้วนายจะรู้ว่ามันมีความสุขมากแค่ไหน”
“เรื่องนี้นายไม่ต้องบอกฉันก็รู้ว่านายมีความสุข” เพราะทั้งสีหน้าและท่าทางของอีวานนั้นแสดงออกมาจนชัดเสียขนาดนั้น
แล้วอีวานก็ให้สั่งให้เซบาสเตียนหาห้องที่พักให้ โจทย์หลักก็คือใกล้มหาวิทยาลัยมากที่สุด สะดวกสบายที่สุด เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหาแค่เน้นว่าทุกอย่างต้องพร้อมก่อนที่ธันยมัยจะเปิดเทอม
พอถึงเวลานัดอีวานกับเซบาสเตียนก็ตรงไปยังโรงพยาบาล แพทย์เจ้าของไข้ใช้เวลาตรวจค่อนข้างนานกว่าทุกครั้งแล้วผลการตรวจก็เป็นที่น่าพอใจ
ตอนแรกอีวานตั้งใจไปซื้อของฝากให้ธันยมัยแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะตอนนี้ที่โรงกลั่นน้ำมันในสิงคโปร์มีปัญหาเรื่องคนงานประท้วง เขาจึงต้องบินกลับไปที่นั่นทันที
เพราะงานที่ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาได้พักอีวานจึงไม่ได้โทรหาธันยมัยอย่างที่ตกลงกันไว้ พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกทีก็เห็นว่ามีสายไม่ได้รับเกือบ 30 สาย พร้อมทั้งข้อความตัดพ้อที่อ่านแล้วได้แต่ยิ้มตาม
มือใหญ่กดโทรออกไปเพียงไม่กี่วินาทีคนปลายสายก็รีบรับ
“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงปลายสายฟังดูก็รู้ว่ากำลังประชด
“สวัสดีครับขอเรียนสายคุณธันยมัย” เขาเล่นไปตามเกม
“คุณธันยมัยไม่อยู่ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมรบกวนบอกคุณธันยมัยด้วยว่าผมคิดถึง”
ปลายสายดูจะเงียบไป อีวานพยายามเงี่ยหูฟังก็รู้ว่าตอนนี้หญิงสาวคงกำลังร้องไห้
“พี่เอชใจร้าย ไม่ติดต่อขิงมาเลย ไหนว่าจะโทรหากันตลอด ฮือ ฮือ โทรไปก็ไม่รับ รู้ไหมว่าคนเขาเป็นห่วง”
“ขิงครับพี่ขอโทษ งานพี่มีปัญหา อย่างร้องเลยคนดีของพี่” อีวานเล่าเรื่องทุกอย่างให้เธอฟัง ดูเหมือนว่าธันยมัยจะเข้าใจกับทุกเรื่องราวที่เขาบอก
“ขิงไม่รู้ ขิงขอโทษ” หญิงสาวรู้สึกผิด ที่เอาแต่ใจตนเองต่อว่าเขาทั้งๆ ที่ยังไม่ถามถึงเหตุผลที่เขาขาดการติดต่อ
“ขิงไม่ผิด พี่ดีใจที่รู้ว่าขิงเองก็เป็นห่วงพี่”
“ก็พี่เป็นแฟนขิงนี่คะ”
“น่ารักอีกแล้ว อีก 2 วันพี่ถึงจะกลับไปที่เกาะนะครับ ขิงอยากได้อะไรไหม พี่จะให้เดหลีจัดการให้”
“ไม่ค่ะ ขิงไม่อยากได้อะไร ขิงอยากให้พี่รีบทำงานแล้วก็รีบกลับ ขิงคิดถึง”
“พี่ก็คิดถึงนะครับ ตอนนี้พี่คงต้องไปทำงานต่อ เอาไว้ตอนหัวค่ำเราค่อยวิดีโอคอลกันนะครับ”
“ค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะพี่เอช”
“ครับ พี่คิดถึงขิงนะ”
“ขิงก็คิดถึงพี่”
พอวางสายจากแฟนสาวอีวานก็เดินเข้าห้องประชุม เขาไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนหนึ่งยืนฟังเขาอยู่