ปฐมบท บุปผาดอกน้อยแยกย้ายเบ่งบาน2
“เราขาดกันเท่านี้เถอะ ข้าจะหย่า!”
“รั่วหลาน!” หลินหานเจ๋อแทบไม่เชื่อหูตัวเอง คาดไม่ถึงว่าจะถูกตัดรอนไร้เยื่อขาดใยเช่นนี้ “หย่ารึ? เจ้าพูดสิ่งใดออกมารู้ตัวหรือไม่?”
“รู้สิ!” รั่วหลานหยัน “ท่านอยากสมสู่กับใครก็เชิญ! ข้าไม่คิดลดตัวแย่งชิงบุรุษกับหญิงอื่น ช่างไร้ค่าสิ้นดี!”
วาจาสามหาวเช่นนั้นสุภาพชนผู้หนึ่งมีหรือจะรับไหว หลินหานเจ๋อให้รู้สึกเดือดดาลทันใด “ดี...ดีเหลือเกิน”
ชายหนุ่มขบกรามกรอด กัดฟันเอ่ยเสียงเครียด “ข้ารักเจ้าถึงเพียงนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่รักษาและเพียรสร้างล้วนทำเพื่อเจ้าทั้งสิ้น เหตุใดเจ้าไม่เข้าใจ เจียซินไม่เคยคิดมาแทนที่เจ้าแม้แต่น้อย นางยอมเป็นอนุเพื่อมอบบุตรชายให้ข้ารักษาตำแหน่งทายาทผู้นำตระกูลไว้ได้เท่านั้น”
กัวรั่วหลานปรายตามองสตรีแสนดีที่สามีเอ่ยถึง แต่นางเห็นเพียงความทะเยอทะยานในแววตาอ่อนหวานนั่น
มารยาสาไถยขนาดนี้แต่สามีนางกลับมองไม่ออก
“โง่งม!” ด่าแค่นั้นก็เดินจากไปไม่เหลียวหลัง
“รั่วหลาน...”
คราวนี้ชายหนุ่มไม่ปล่อยร่างนุ่มของอนุไม่ได้แล้ว เขาผลักร่างหอมละมุนในอ้อมอกออกจนอีกฝ่ายล้มตึง รีบสาวเท้าก้าวตามภรรยา จับแขนนางไว้อย่างโกรธกรุ่น
“เจ้าห้ามไปไหนทั้งสิ้น”
กัวรั่วหลานสะบัดมือสามีทิ้งอย่างไม่ใยดี
“ข้าจะไป”
หลินหานเจ๋อเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันแทบฆ่าคนได้
“หากเจ้าบังอาจทิ้งข้า กล้าเดินออกจากเรือนแห่งนี้แม้ครึ่งก้าว ข้าจะยกเจียซินขึ้นเป็นภรรยาเอกแทนเจ้า”
ม่านตาดำพลันหดแคบ กัวรั่วหลานรู้สึกควันออกหู นางหันมาแค่นเสียงลอดไรฟัน “ข้าเกลียดท่าน ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย”
สามีภรรยาต่างยื้อยุดฉุดกันไปมาไม่มีใครยอมใคร
ถัดจากเหตุยื้อยุดนั้น ตรงหลังต้นเสาขนาดใหญ่ สองเด็กหญิงฝาแฝดตัวน้อยอายุเพียงเก้าขวบกำลังแอบมองบิดามารดาอยู่นานแล้ว
แม้ยังเล็กเป็นแค่เด็กไร้เดียงสาแต่กลับรับรู้ถึงปัญหา
“พี่ใหญ่ พวกเราจะทำอย่างไรดี ท่านพ่อกับท่านแม่แตกหักกันแน่แล้ว”
หลินซิงเยียน ละล่ำละลักกับพี่สาวที่คลอดก่อนตนเพียงครึ่งก้านธูป[1]อย่างทำอะไรไม่ถูก
หลินเล่อเจิน ยกมือตบบ่าเล็กของน้องสาวเบาๆ อย่างต้องการปลอบประโลม “น้องพี่ หากถึงขั้นนั้นจริงๆ เจ้าไปกับท่านแม่นะ ข้าจะอยู่กับท่านพ่อเอง”
หลินซิงเยียนมองพี่สาว “ไฉนพี่ใหญ่ไม่ไปกับข้า”
หลินเล่อเจินส่ายหน้าเบาๆ นัยน์ตาโศกเศร้า นางกล่าวเสียงนุ่มนวล ควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี “หากพวกเราไปกันหมด ท่านพ่อย่อมลืมท่านแม่ในสักวัน หากท่านพ่อได้เห็นเพียงอนุทุกวัน อยู่กับบุตรชายคนนั้น ท่านคงลืมท่านพวกเราจนสิ้นไม่เหลือแม้เยื่อใยบางเบา ข้าไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น”
นางลูบผมน้องสาวอย่างรักใคร่ ค่อยๆ กล่าวต่อ “หากท่านพ่อได้เห็นใครสักคนที่จะทำให้ไม่ลืมคนเดิม ท่านพ่อย่อมเหลือพื้นที่ในใจ ไม่ว่าท่านมีภรรยาใหม่มีลูกใหม่สักกี่คนก็จะไม่มีทางลืมเจ้ากับท่านแม่ เจ้าต้องดูแลท่านแม่ อยู่ข้างกายท่านแม่ ไม่ให้ท่านแม่ลืมท่านพ่อ เข้าใจหรือไม่?”
“พี่ใหญ่...” ดวงตากลมโตสดใสของหลินซิงเยียนยามนี้เต็มไปด้วยหยดน้ำตา นางสะอึกสะอื้นร่ำไห้จนตัวสั่น “เข้าใจแล้ว...”
หลินเล่อเจินกอดน้องสาวไว้แน่น ร้องไห้เช่นกัน นางหวังเพียงสักวันบิดามารดาจะกลับมาสมานฉันท์ดังเดิม
พื้นเพของมารดาแม้มิใช่สตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวง ทว่าฐานะกลับไม่ธรรมดาในยุทธภพ
ธรรมเนียมอันเคร่งครัดเช่นการหย่าร้างมีหรือจะสามารถรั้งคนเช่นมารดาได้
แน่นอนว่าหากมารดาต้องการออกจากจวนหลินย่อมทำได้ ทั้งยังจะพาพวกนางไปด้วยได้อย่างง่ายดาย ต่อให้ฝ่าด่านคนคุ้มกันจวนหลินจนต้องฆ่าให้สิ้นก็ตาม
ทางฝั่งของหลินหานเจ๋อกับกัวรั่วหลาน
ทั้งสองกำลังขัดแย้งกันอย่างรุนแรงเกินหยุดยั้ง
“รั่วหลาน เจ้าเชื่อข้า ไม่มีใครแทนที่เจ้า”
“พอเถอะ ข้าไม่อยากฟัง” นางเน้นย้ำเสียงหนัก “เราต้องหย่ากันเท่านั้น”
“หากไม่เห็นแก่ข้า เจ้าก็ควรเห็นแก่ลูกๆ ข้าขอร้อง”
“ข้าจะพาลูกไป”
หลินหานเจ๋อไม่คิดเลยว่าแค่รับอนุจะส่งผลให้เรื่องราวร้ายแรงเลยเถิดถึงขั้นนี้ เขามิได้เตรียมใจเอาไว้
“รั่วหลาน...ได้โปรด”
เจ้าของนามไม่ฟัง ทั้งไม่ใส่ใจน้ำเสียงร้าวรานเช่นนั้น เขาเจ็บปวดไม่เท่านางหรอก “ปล่อย!”
ฝ่ามือสามีภรรยาที่เคยจับจูงอย่างหวานชื่นบัดนี้สะบั้นสิ้นแล้วซึ่งเยื่อใย
กัวรั่วหลานเดินมาหาลูกสาวทั้งสองที่ยืนมองอยู่นาน “พวกเจ้าไปกับแม่”
หลินซิงเยียนเดินมาหามารดาอย่างเชื่อฟัง ในขณะที่หลินเล่อเจินเดินเข้าไปจับมือบิดาไว้มั่น
“ท่านแม่ ข้าจะอยู่กับท่านพ่อเจ้าค่ะ”
“เล่อเจิน เหตุใดเจ้าไม่ไปกับแม่” กัวรั่วหลานมุ่นคิ้ว “ไปกับแม่เถอะ เมืองหลวงไม่มีสิ่งใดน่ารื่นรมย์สักนิด”
“ไม่เจ้าค่ะ ข้าอยากอยู่กับท่านพ่อ ไม่ไปไหนทั้งสิ้น” ไม่พูดเปล่า แต่หลินเล่อเจินยังใช้มือเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงทั้งคู่กอดแขนบิดาไว้แน่น ท่าทางเคารพรักและหวงแหนมาก “ท่านแม่ ท่านเองก็รักท่านพ่อมากเช่นกัน ไม่ไปได้หรือไม่?”
กัวรั่วหลานส่ายหน้า ให้รู้สึกคาดไม่ถึง “เจินเอ๋อร์ เจ้ารักพ่อจอมตระบัดสัตย์ถึงเพียงนี้เชียวรึ?”
เด็กหญิงพยักหน้าหนักแน่น “เจ้าค่ะ”
แม้ว่ากัวรั่วหลานจะมีนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจปานใด กลับไม่เคยหักหาญน้ำใจบุตรสาว
ในเมื่อหลินเล่อเจินยืนยันอย่างหนักแน่นว่าต้องการอยู่กับบิดาขนาดนั้น นางมีหรือจะกล้าขัดใจ
“ได้ ในเมื่อเจ้าอยากอยู่ก็อยู่ แต่แม่จะไป ไม่มีทางกลับมาอีกชั่วชีวิต หากเปลี่ยนใจเมื่อใดแม่จะส่งคนมารับ”
“ท่านแม่!”
กัวรั่วหลานหย่าขาดหลินหานเจ๋อ โดยพาแค่เพียงบุตรีคนเล็กจากไปอย่างรวดเร็วมิเหลียวหลัง
เด็กทั้งสองรู้ดี เรื่องย่อมจบลงเช่นนี้ มารดาไม่มีทางรอมชอมกับบิดา
ดังนั้น คนน้องจึงไปกับมารดา ส่วนคนพี่อยู่กับบิดาตามที่แอบตกลงกัน
หลินหานเจ๋อกอดลูกสาวคนโตไว้แนบอกมองภรรยาจนไปไกลลับตาโดยที่ขาไม่ขยับตามแม้ครึ่งก้าว
เขารักนางด้วยใจจริง หญิงอื่นเพียงผลประโยชน์ แม้แอบมีอนุนอกเรือนแต่ใจของเขายังคงรักภรรยาเหนือใคร เหตุผลที่ทำคือจำต้องมีทายาทเป็นชาย เมื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ถึงได้พาลูกชายอีกคนกลับเรือน มันก็เท่านั้น
ในเมื่อกัวรั่วหลานไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชาย เขาย่อมต้องทำเช่นนี้อย่างไร้หนทางเลือก
อันที่จริงนางควรเข้าใจ มิใช่ตัดใจสะบั้นสัมพันธ์
หลินหานเจ๋อไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นคือสิ่งผิด เขาจึงไม่คิดตามไปงอนง้อขอคืนดีอดีตภรรยา เพียงพยายามเหลือเกินที่จะตัดใจและลืมนางให้ได้
ครอบครัวแสนสุขถูกยุตินับแต่นั้น
หลินซิงเยียนไปอยู่กับมารดาที่กลับคืนยุทธภพกลายเป็นหญิงสาวชาวยุทธ์ใช้ชีวิตผิดแผกแหกธรรมเนียม
หลินเล่อเจินอยู่กับบิดากลายเป็นคุณหนูในห้องหอใช้ชีวิตตามหลักสตรีครองเรือนที่ดีเลิศประเสริฐล้ำ
[1]ครึ่งก้านธูป ประมาณ 7 นาที