จูบนั้นสำคัญไฉน (50%)
โกดังเก็บของแห่งหนึ่ง เขตปริมณฑล ประเทศฝรั่งเศส
“โธ่โว้ย! มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไงวะ”
เสียงห้าวกระด้างของมาร์เวล ดิมิเทียส สบถดังลั่นด้วยความหัวเสียสุดใจขาดดิ้น เขาอุตส่าห์วางแผนรัดกุมและสืบมาอย่างละเอียดแล้วว่า โกดังแห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่แก๊งมาเฟียศัตรูคู่อริเอายาเสพติดลอตใหญ่มาไว้ โดยใช้ที่นี่เป็นที่พักยาชั่วคราว ก่อนที่พวกมันจะทำการขนย้ายในคืนนี้ แต่เมื่อเขากับลูกน้องรีบรุดมายังเป้าหมาย ทุกอย่างกลับว่างเปล่า หลงเหลือเพียงร่องรอยการขนย้ายที่พวกมันทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า เพราะอย่างนี้คนที่สะกดคำว่า ‘พลาด’ ไม่เป็นถึงได้เกิดอาการโมโหโกรธาด้วยความคั่งแค้นใจ
“มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไงวะบ็อบบี้ ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าให้เช็กมาให้ดีเสียก่อน” มาร์เวลหันมาไล่บี้กับลูกน้องคู่ใจเสียงเครียดเขม็ง ดวงตาสีสนิมเหล็กกล้าเจือไปด้วยไฟโทสะจ้องมองเพื่อรอเอาคำตอบจากปากอีกฝ่ายไม่ลดละ จนคนที่ตกเป็นเป้าสายตาของมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับทำหน้าไม่ถูก ลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก
“ผมต้องขออภัยจริงๆ ครับนาย แต่สายของเรารายงานมาว่าไอ้สตีฟมันจะขนยาวันนี้จริงๆ นะครับ” บ็อบบี้ผู้เป็นทั้งเลขาและหัวหน้าบอดี้การ์ดค้อมหัวพร้อมกล่าวขอโทษผู้เป็นนาย ทุกงานที่เจ้านายสั่งเขาไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับทำพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย
“คราวหลังก็อย่าให้พลาดอีก เวลาฉันเป็นเงินเป็นทอง ไม่ใช่ต้องเอามาคอยตามล้างตามเช็ดไอ้พวกเศษสวะนี่ เข้าใจไหม” มาร์เวลบอกเสียงเฉียบและหงุดหงิดในที เขารึอุตส่าห์จะกำจัดการเล่นแบบสกปรกของไอ้สตีฟให้สิ้นซาก ทั้งที่วางแผนมาเป็นอย่างดีแต่ดันคว้าน้ำเหลวจนได้ มันน่าเจ็บใจนัก!
“ครับนาย” เลขาหนุ่มร่างยักษ์รับคำด้วยน้ำเสียงแข็งขัน ในใจของบ็อบบี้รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ตนทำงานพลาด จนผู้เป็นนายต้องหงุดหงิดแทบจะพ่นไฟได้
“นายครับ ผมคิดว่าตอนนี้คนของไอ้สตีฟคงกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของเราอยู่แน่ ไม่งั้นมันคงไม่ไหวตัวทัน” โจเซฟลูกน้องมือขวาเอ่ยรายงานในสิ่งที่ตัวเองคาดการณ์ ซึ่งมันก็ตรงกับสิ่งที่มาร์เวลกำลังคิดและกำลังจะออกคำสั่งให้ไปจัดการเรื่องนี้อยู่พอดี
“อืม…ให้คนของเราไปหาตัวมาให้ได้ แล้วก็จัดการมันซะ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาแต่แฝงความเย็นชาสั่งเสียงเหี้ยมทรงพลัง แสนจะเจ็บใจที่ตนพลาดให้คนของคู่อริมาตามติดดูพฤติกรรม
“ครับนาย” โจเซฟรับคำผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“แล้วก็อย่าลืมให้คนจับตาดูไอ้สตีฟให้ดี มันคงไม่ยอมรามือแค่นี้แน่” มาร์เวลหันไปบอกบ็อบบี้ เพราะคิดว่าสตีฟยิ่งจะได้ใจ เมื่อเห็นว่าเขาจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
“ไม่ต้องห่วงครับนาย ผมกำชับคนของเราแล้วว่าให้จับตาดูมันทุกฝีก้าว” บ็อบบี้พูดหนักแน่น แววตาจริงจัง เขาจะไม่ยอมพลาดเป็นหนที่สองอย่างเด็ดขาด
“จองตั๋วเครื่องบินวันพรุ่งนี้ด้วยนะ ฉันจะไปประเทศไทย” สั่งงานลูกน้องเสร็จมาเฟียมาดเถื่อนก็ก้าวขาเพรียวยาวขึ้นรถคันหรู แล้วกระแทกตัวลงนั่งอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสียกับความไม่ได้ดั่งใจ เขาคงจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้หรอก หากแก๊งมาเฟียคู่อริที่มีสตีฟเป็นประมุขไม่นำของผิดกฎหมายมาใช้ท่าเรือของเขาในการลำเลียงขนถ่าย
“คราวนี้นายจะให้ผมไปด้วยหรือเปล่าครับ” เมื่อขึ้นมานั่งประจำข้างคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้วบ็อบบี้ก็หันไปถามทันที เขาไม่อาจวางใจให้ผู้เป็นนายเดินทางเพียงลำพังได้ ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าฝีมือการต่อสู้ของมาร์เวลไม่เป็นสองรองใคร แต่ก็ยังอดเป็นห่วงในสวัสดิภาพของผู้เป็นนายไม่ได้อยู่ดี
“ไม่ต้อง แกอยู่ที่นี่คอยทำงานแทนฉัน เดี๋ยวฉันไปคนเดียวเอง”
ด้วยความที่ทำงานร่วมกันมานาน อีกทั้งบ็อบบี้ยังเป็นเหมือนเพื่อนและน้องชาย เพราะพ่อเขารับอุปการะบ็อบบี้ตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากที่พ่อของบ็อบบี้ซึ่งเป็นบอดี้การ์ดคู่ใจของนายมาร์แชล ดิมิเทียส สิ้นลมหายใจในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก บางครั้งแค่มองตาก็รู้ใจ เหมือนในครั้งนี้มาร์เวลก็รู้ว่าบ็อบบี้เป็นห่วงในความปลอดภัยของตนมากแค่ไหน
“แต่ว่า…” คนที่เป็นห่วงในความปลอดภัยของนาย ยังคงทำท่าว่าจะไม่ยอมปล่อยให้มาร์เวลเดินทางไปประเทศไทยคนเดียว
“ไม่มีแต่ ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ” มาร์เวลโบกมือไหวๆ ให้ลูกน้องคู่ใจ ท้ายประโยคหันไปกำชับในสิ่งที่เขาเพิ่งมอบหมายให้เมื่อสักครู่
“ครับนาย” สุดท้ายบ็อบบี้ก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของผู้เป็นนาย และได้แต่ภาวนาว่านายจะไม่โดนคู่อริลอบปองร้าย
“เรียกเมลิด้ามาหาฉันด้วย” มาเฟียหนุ่มสั่งลูกน้องเมื่อรถวิ่งออกมาจากโกดังแห่งนั้นได้เพียงสิบนาที แล้วหลับตาเอนหลังพิงพนักเนื้อหนานุ่ม ยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ขึ้นคลึงขมับเบาๆ ให้ผ่อนคลายจากความตึงเครียด
“ครับนาย” บ็อบบี้รับคำก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาโจชัวร์ ผู้ซึ่งเป็นทั้งมือซ้ายของมาร์เวลและแฝดผู้น้องของโจเซฟ
เมื่อจบสนทนากับอีกฝ่ายที่อยู่บนรถอีกคันซึ่งวิ่งไล่หลังกันมา เลขาผู้ทรงประสิทธิภาพก็หันมาบอกนายว่า อีกไม่เกินสามสิบนาทีโจชัวร์จะไปรับคู่ขาของนายมาส่งที่โรงแรมเดิม
ทุกครั้งที่มีเรื่องเครียด มาร์เวลก็จะเลือกระบายความเครียดเหล่านั้นด้วยเซ็กซ์ ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ต่างคนต่างได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พวกหล่อนเหล่านั้นได้ความสุขและค่าตอบแทนงามๆ จากเขา ส่วนเขาก็ได้รับการปลดปล่อยอารมณ์ตามประสาผู้ชายที่ยังมีสมรรถภาพทางเพศเต็มเปี่ยมจากพวกหล่อน แค่นี้ก็จบ เขาก็ไม่ต้องคิดมากหรือรู้สึกผิด ในเมื่อเขาไม่ได้ไปผิดลูกผิดเมียใคร
การพลาดเรื่องในวันนี้ทำให้มาร์เวล ดิมิเทียส มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลแห่งปารีสหัวเสียอยู่ไม่น้อย ทั้งที่อันที่จริงวันนี้เขามีนัดสำคัญกับท่านรัฐมนตรีแอนเดอร์สัน คาลอนเซ่ จะพูดคุยกันเรื่องที่ท่านจะเช่าเรือสำราญทำเซอร์ไพรส์จัดงานฉลองครบรอบวันเกิดให้ภริยา แต่ก็ต้องโทรไปขอโทษและขอเลื่อนนัดกับท่าน โดยให้เหตุผลว่าตนติดงานอยู่ที่ต่างประเทศ โชคดีที่ฝ่ายนั้นเป็นผู้ใหญ่ใจดีและมีเหตุผลจึงไม่ได้ว่าอะไร
มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่อย่างมาร์เวล ดิมิเทียส ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าของคาสิโน อาบอบนวด และสถานบันเทิงแบบครบวงจร ภายใต้ชื่อพาราไดซ์ ยาร์ด เท่านั้น เขายังเป็นเจ้าของกิจการให้เช่าเรือสำราญสุดหรูนับสิบลำ ซึ่งมีท่าเรือเป็นของตัวเอง ท่าเรือนี้ยังให้บริการลำเลียงสินค้า สำหรับลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าทางน้ำ
พาราไดซ์ ยาร์ด…แดนสวรรค์ของคนบาปคือกิจการที่เขาได้รับช่วงสืบทอดมาจากบิดา เช่นเดียวกับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งมาเฟีย ‘Black Mamba’ ที่น้องชายอย่างมาร์โค ดิมิเทียส ปฏิเสธอย่างหัวเด็ดตีนขาด ส่วนเรือสำราญคือกิจการที่เขาก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเอง เพราะเรียนมาทางอุตสาหกรรมต่อเรือ ทำให้เกิดความผูกพันและตัดไม่ขาด ด้วยใจรักสุดท้ายก็ก่อเกิดมาเป็นกิจการที่เขาต้องเอาใจใส่และให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสิ่งอื่น
ด้วยเหตุที่เขากุมบังเหียนธุรกิจหลายอย่าง ทำให้มาร์เวลมีทรัพย์ศฤงคารอยู่จำนวนมากมายมหาศาล สิ่งเหล่านี้จึงเป็นตัวผลักดันให้ชายหนุ่มติดอันดับหนึ่งในสิบหนุ่มโสดที่สาวน้อยใหญ่ทั่วทั้งประเทศอยากแต่งงานด้วยมากที่สุดแห่งปี จากการจัดอันดับของนิตยสารชื่อดังของฝรั่งเศสและนิตยสารหัวนอกอีกหลายฉบับเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และชายหนุ่มยังถูกโหวตจากคนทั้งโลกให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงอิทธิพลห้าปีซ้อน
ถึงแม้มาเฟียหนุ่มจะขึ้นชื่อลือชาเรื่องความโหด ดิบ เถื่อน ดุดันและเฉียบขาด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คะแนนนิยมในสายตาของสาวๆ ทั้งประเทศลดน้อยถอยลง ในเมื่อทรัพย์สินที่เขาถือครองมีมูลค่ามหาศาล นอนกินนอนใช้ทั้งชาติก็ยังไม่หมด แถมเขายังเป็นทายาทตระกูลดังอย่างดิมิเทียส ซึ่งถ้าใครได้เป็นสะใภ้ของตระกูลนี้ ไม่เพียงชูคอสุขสบายไปทั้งชาติ ยังมีแต่คนนับหน้าถือตาและเกรงขามในบารมีอีกด้วย
แม้วัยของเขาได้ล่วงเลยมาจนจะถึงเลขสี่อยู่รอมร่อ แต่อายุก็ไม่ได้เป็นตัวผลักดันให้มาเฟียหนุ่มใหญ่คิดที่จะมีลูกมีเมียเช่นเดียวกับผู้ชายในวัยเดียวกัน ตั้งแต่รักครั้งแรกไม่สมหวังเขาก็ไม่คิดที่จะมองหญิงใดหรือคบใครจริงจังอีกเลย สำหรับมาร์เวลผู้หญิงก็เป็นได้แค่วัตถุทางเพศที่เคลื่อนที่ได้ มีไว้เพียงปลดเปลื้องอารมณ์ความต้องการทางร่างกายชั่วครั้งชั่วคราว ไม่มีอะไรสลักสำคัญมากไปกว่านั้น เพราะคิดแบบนี้ทำให้มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ของฝรั่งเศสยังคงครองตัวเป็นโสดมาจวบจนกระทั่งทุกวันนี้ ไม่มีความคิดที่จะแต่งงาน หรือมีเมียเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที
ในทางตรงข้าม ถ้าเขาต้องการผู้หญิงคนไหนเพียงแค่เอ่ยปาก พวกหล่อนก็พร้อมที่จะเปลื้องผ้าพลีกายให้เขาด้วยความเต็มใจ เพราะการได้ขึ้นเตียงกับมาร์เวล ดิมิเทียส มหาเศรษฐี มาเฟียผู้หล่อเหลาและทรงอิทธิพลเพียงครั้ง ก็ทำให้พวกหล่อนได้ทั้งเซ็กซ์อันยอดเยี่ยมและค่าตอบแทนจำนวนมหาศาล ซึ่งมันถือว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม เหมือนถูกล็อตเตอรี่แล้วพ่วงด้วยรางวัลแจ็คพอต
แต่คนอย่างมาร์เวลก็หาตัวยากยิ่ง เขาไม่ชอบปรากฏกายหรือทำตัวเด่นในที่สาธารณชน ไม่ชอบเข้างานสังคม และที่สำคัญเขาไม่ชอบเป็นข่าว ถึงแม้เขาจะมีธุรกิจใหญ่โตอยู่เป็นหลักแหล่งและเป็นที่รู้จักกันดีของคนทั่วไป โดยเฉพาะในหมู่นักท่องราตรี แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวหรือนิตยสารใดเลย แต่ถ้าหากมีใครกล้าเอาข่าวเขาไปเขียนในทางเสียๆ หายๆ วันรุ่งขึ้นสำนักพิมพ์นั้นก็เป็นอันต้องปิดตัวลง จึงไม่มีใครอยากจะตอแยกับมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลอย่างมาร์เวล ดิมิเทียส ถึงแม้จะขึ้นชื่อเรื่องความเด็ดขาดและถึงลูกถึงคน กระนั้นสาวน้อยใหญ่ก็ไม่หวั่นที่จะเข้ามาชายตาชะมดชะม้อยให้เมื่อมีโอกาส
ภายในคฤหาสน์ซีเลสคอส สตีฟ ซีเลสคอส ชายวัยสามสิบเจ็ดปี รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาเหี้ยมติดจะดุ กำลังทำหน้าเครียดจัด กระวนกระวายจนต้องเอามือไขว้หลังเดินวนรอบห้องทำงาน เมื่อลูกน้องเปิดประตูเข้ามา เจ้าของร่างใหญ่ก็หันขวับแล้วยิงคำถามใส่ทันที
“เป็นไงวะ ได้เรื่องว่าไง?” เสียงติดจะเครียดของสตีฟเอ่ยถามคนที่เพิ่งเข้ามา ถึงงานสำคัญที่ตนได้สั่งให้ไปจัดการเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว ถึงจะให้ลูกน้องมือดีเป็นคนจัดการแต่ก็ยังอดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ เพราะคนที่เขากำลังต่อกรด้วยนั้นมีอำนาจและอิทธิพลไม่เเพ้กัน
“รอสักครู่นะครับนาย” มือขวาคนสนิทรีบล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วต่อสายไปหาคนที่สั่งให้ไปทำงานสำคัญทันที
“ว่าไง ชักช้าอยู่ได้พวกมึงนี่” คนที่รอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อชักหงุดหงิด ความใจร้อนพานให้อารมณ์เสียใส่ลูกน้อง
“คนของเราบอกว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับนาย” คนที่เพิ่งวางสายเมื่อได้รับข่าวดีก็รายงานเจ้านายด้วยรอยยิ้มเหี้ยม
“พวกมันไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้ให้ไอ้มาร์เวลตามเจอใช่ไหม” คนที่รู้สึกพึงใจกับคำตอบอยู่ไม่น้อย ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่อยากจะโดนตลบหลัง