บท
ตั้งค่า

บทที่ 46.1 3 ปีผ่านไป

เพียงพริบตาก็ผ่านไปแล้วสามปี กิจการค้าผักปราณของตระกูลเว่ยดีวันดีคืน ภายในระยะเวลาข้างต้นมีคู่ค้าไปแล้วร่วมยี่สิบราย ทั้งจากดินแดนเบื้องล่างและดินแดนเบื้องบน

ด้วยเหตุนี้ตระกูลเว่ยจึงมีชื่อเสียงมากในดินแดนเบื้องบน แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยย่างกรายขึ้นไปเหยียบทวีปที่สูงกว่าเลยก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ตามกิจการและความสำเร็จของตระกูลเว่ยนั้นมากเกินไปจนไปเตะตาผู้มีอำนาจจากดินแดนเบื้องบนเข้า โชคดีที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับสองพี่น้องตระกูลโอหยาง เมื่อครั้งที่ตัวตนระดับราชันมากดดันตระกูลเว่ยถึงหน้าประตูจวน ก็ได้สองพี่น้องที่ออกหน้าช่วยเหลือ ยังมีหอเทพโอสถและสมาคมอักขระเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ผู้มีอำนาจคนนั้นจึงล่าถอยไปด้วยความเจ็บใจ

เดิมทีหลายคนคิดว่าตระกูลเว่ยจบสิ้นแล้ว พวกเขาถึงกับส่ายหน้าเสียดาย แต่อย่างว่าความสำเร็จของตระกูลเว่ยมีมากเกินไป ไม่แปลกที่จะไปกระตุ้นตัวตนระดับนั้นเข้า ใครจะไปคาดคิดว่าผลจะออกมาเช่นนี้เล่า นอกจากจะไม่ได้รับผลกระทบแล้วยังมีสองขั้วอำนาจระดับสูงหนุนหลัง คนที่รอเหยียบย่ำซ้ำเติมหากตระกูลเว่ยล่มจมถึงกับกระอักเลือดให้กับความโชคดีนี้

จากวันนั้นถึงวันนี้ร่วมสามปีแล้ว ตระกูลเว่ยไม่เคยถูกผู้มีอำนาจจากดินแดนเบื้องบนรุกรานอีกเลย หลายสิ่งเปลี่ยนผัน นอกจากความรุ่งเรืองไม่มีที่สิ้นสุดของตระกูลเว่ย ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เกินหยั่งเช่นกัน

ระดับการฝึกตนของตระกูลเว่ยในปัจจุบันน่ากลัวมาก จนคนที่เคยเป็นศัตรูเริ่มสวามิภักดิ์ทีละคน ๆ แม้ไม่จริงใจถึงที่สุดแต่ก็ลดความคิดเลวร้ายลงไปมาก

แคว้นโจวจากที่เคยเป็นแคว้นอ่อนแอและยากจนที่สุดกลับพลิกผันกลายเป็นแคว้นที่มีความเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น พื้นที่หลายแห่งของแคว้นโจวกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ช่วงนี้เงินจึงสะพัดเข้าคลังหลวงจนผู้เป็นโอรสสวรรค์แย้มพระโอษฐ์มีความสุขไปทั้งวัน

ความแข็งแกร่งของตัวตนผู้ครองแคว้นก็ไม่ได้น้อยหน้าตระกูลเว่ยเช่นกัน เพราะนอกจากพระองค์จะเสวยผักผลไม้ปราณเป็นประจำทุกวันแล้ว ยังได้รับน้ำพลังปราณเจือจางสามในสิบส่วนจากเว่ยซือซาน ด้วยความช่วยเหลือนี้เอง ระดับพลังของโอรสสวรรค์ในปัจจุบันจึงอยู่ที่ระดับจักรพรรดิขั้นกลาง

ฮองเฮาคู่พระทัยที่พระองค์รักยิ่งแม้จะไม่ได้มีระดับพลังขั้นเดียวกัน แต่พระนางก็สามารถฝึกฝนจนมาถึงระดับปราชญ์ขั้นสูงแล้ว คาดว่าให้เวลาแม่ของแผ่นดินราวครึ่งปีน่าจะสามารถเลื่อนระดับมาอยู่ในขั้นจักรพรรดิได้แน่

ชินอ๋องโจวเฟยหมิงก็ได้รับการช่วยเหลือจากพี่ชายที่เขานับถือด้วยเช่นกัน ระดับพลังปัจจุบันของอ๋องหนุ่มคือจักรพรรดิขั้นต่ำ

ตระกูลที่สนิทชิดเชื้อกันดีอย่างตระกูลหลิน ตระกูลหลิว และตระกูลกู้ ผู้นำตระกูลทั้งสามล้วนมีพลังระดับจักรพรรดิขั้นต่ำทั้งสิ้น ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลระดับพลังก็เพิ่มขึ้นด้วย มากน้อยแตกต่างกันไป

ด้วยพลังระดับจักรพรรดิทั้ง 7 คนของแคว้นโจว ย่อมสร้างความน่าหวาดหวั่นให้แคว้นอื่น ๆ ไม่ยาก ชนเผ่าที่เคยกระด้างกระเดื่องก็เข้ามาสวามิภักดิ์ปัจจุบันกลายเป็นประชากรแคว้นโจวอย่างถูกต้อง ไม่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนอันตรายอีกต่อไป

แคว้นหนานที่เคยทะนงตนว่าแคว้นตนแข็งแกร่งที่สุดเพราะมีสมาคมอักขระสาขาย่อยตั้งอยู่ในแคว้นตนเอง ยามรู้ข่าวตัวตนจักรพรรดิทั้งเจ็ดของแคว้นโจวเล่นเอาร้อนรุ่มในอก โดยเฉพาะอ๋องหนานอี้เฉิน ที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่นมาโดยตลอดจะทนได้อย่างไร

ทว่าก่อนที่เขาจะได้ลงมือสร้างความวุ่นวาย ผู้เป็นฮ่องเต้แคว้นหนานก็จัดการส่งเขาไปปกครองทิศใต้ของแคว้นเสียก่อน ถึงจะเจ็บใจจนกระอักเลือดแต่ทำอันใดไม่ได้แล้ว ทั้งนี้เขายังตกหลุมพรางพ่อลูกตระกูลฮุ่ยซึ่งจัดฉากให้เขาหลับนอนกับนางโลมจนชื่อเสียงฉาวโฉ่ อ๋องหนุ่มจะเจ็บใจน้อยกว่านี้มากหากแผนดังกล่าวไม่ใช่แผนเดียวกันกับที่เขาเคยคิดใช้กับโจวเฟยหมิง!

เรื่องราวต่าง ๆ ดำเนินไปตามครรลอง ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ประดังประเดเข้ามาไม่เว้นว่าง หากจุดเริ่มต้นของเรื่องราวหลาย ๆ อย่างกลับมีชีวิตเรียบง่ายและสงบสุขยิ่งนัก

เว่ยซือหงในวัย 10 ขวบ เพิ่งกลับมาจากการเรียนศาสตร์ทั้งสี่ของสตรี นอนแผ่หลาบนเตียงพร้อมนวดแขนเล็ก ๆ ของตนที่เริ่มปวดเล็กน้อยหลังถูกท่านย่าเคี่ยวกรำนานกว่าสองชั่วยาม(4ชม.)

“คุณหนูไม่งามเจ้าค่ะ” หลิงจูในวัย 17 ปีเอ่ยเตือนเมื่อคุณหนูของนางไม่เก็บกิริยา

“โธ่พี่หลิงจู ข้าอยู่ในเรือนตัวเอง ทั้งยังอยู่ในห้องนอน ไม่มีใครเห็นหรอกเจ้าค่ะ ท่านปล่อยข้าบ้างเถิด อย่าเคร่งครัดนักเลย”

“ไม่ได้เจ้าค่ะ คุณหนูโตแล้วนะเจ้าคะ ต้องระวังให้มาก” หลิงจูไม่ตามใจ ดรุณีน้อยมุ่ยหน้าผุดลุกขึ้นนั่งยกแขนกอดอกไว้พร้อมบึนปาก

“แต่ข้าเพิ่งอายุสิบขวบ”

“หรือคุณหนูอยากให้นายหญิงผู้เฒ่ามาเห็นเจ้าคะ” สาวใช้อีกคนนามหลิงอิงวัย 18 ปีเอ่ยขึ้นมาบ้าง

“โธ่เอ๊ยพี่หลิงอิง ไม่เห็นต้องขู่กันเลย ทุกทีก็อยู่เงียบ ๆ แล้วแท้ ๆ” เด็กน้อยตอบสาวใช้คนสนิทอีกคนด้วยใบหน้าขัดใจราวไม่ได้รับความเป็นธรรม

สาวใช้คนสนิททั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม คุณหนูแม้จะเติบโตขึ้นมาก แต่ก็ยังสดใสน่ารักเหมือนตอนยังเด็กไม่มีผิด ถึงอุปนิสัยบางอย่างจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่กับครอบครัวและคนสนิทนางก็ยังน่ารักเหมือนเดิม!

“พวกข้าหวังดีกับคุณหนูนะเจ้าคะ ไม่ใช่ที่ถูกฮูหยินผู้เฒ่าเคี่ยวกรำก็เพราะท่านมาเห็นคุณหนูทำตัวเป็นม้าดีดกะโหลกเข้าหรือเจ้าคะ” หลิงจูหยิบยกการกระทำก่อนหน้าของนางขึ้นมาอ้าง ใบหน้าที่เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมของเว่ยซือหงถึงคลายลง

“เอาละ ก็ได้ ๆ ต่อไปนี้ข้าจะระมัดระวังตัวให้มาก ประพฤติตัวให้เหมาะสมเช่นสตรีในห้องหอทั่วไป พอใจกันหรือยังเจ้าคะ”

“เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสองรับคำยิ้ม ๆ แต่แล้วต้องถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อคนที่เพิ่งรับปากกับพวกนางว่าจะเก็บกิริยาให้ดี ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง กางแขนกางขายิ่งกว่าเด็กชายจอมซนเหมือนลิงทโมนเสียอีก

“คุณหนู!”

“พี่ ๆ ทั้งสองปล่อยข้าสักวันเถอะ ข้าขอวันนี้วันเดียว เหนื่อยเกินกว่าจะรักษากิริยาได้จริง ๆ ท่านย่านะท่านย่า ปรานีอาหงสักหน่อยก็ไม่ได้” เจ้าตัวบ่นพึมพำ พร้อมทั้งขยาดกับความเด็ดขาดของหลินซือเหยายิ่งนัก

สองชั่วยามที่ต้องร่ำเรียนมารยาทที่ดีของสตรีชั้นสูง ไม่เหนื่อยเท่าการเย็บปักถักร้อยเลยแม้แต่น้อย มือขาวอวบยกขึ้นดูมองปลายนิ้วที่มีรอยพรุนเล็กน้อยจากการถูกเข็มจิ้มแล้วรู้สึกอนาถใจ

เหตุใดท่านย่าไม่เข้าใจว่าการเย็บปักมันไม่เหมาะกับนาง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel