บท
ตั้งค่า

บทที่ 2.2 พร3ข้อ

“ท่านเทพบอกว่ามิติโลกที่ฉันกำลังจะไปเกี่ยวกับพลังปราณพลังธาตุ เช่นนั้นฉันคงมีพลังไม่อ่อนด้อยใช่ไหมคะ”

“แน่นอน ในเมื่อเราส่งเจ้าไปเกิดจะมีพลังธรรมดาสามัญได้อย่างไร ที่สำคัญเราจะให้พรเจ้าไปด้วย” ท่านเทพพูดอย่างใจดี

“แล้วที่บอกว่าความชั่วร้ายกำลังกัดกินผืนแผ่นดิน กัดกินมิติคืออะไรคะ ใช่มารหรือปีศาจที่ฉันเคยอ่านเจอในนิยายหรือเปล่า”

ท่านเทพชะงักไปซึ่งหญิงสาวที่มองอยู่ตลอดจับสังเกตได้พอดี ดวงตากลมโตมองกดดันให้คนที่เป็นเทพตอบคำถาม

“เว่ยซือหงแม้เราจะส่งเจ้าไปเกิดก็ใช่ว่าจะบอกทุกอย่างแก่เจ้าได้”

“แค่ตอบมาว่าสิ่งเหนือธรรมชาติที่ฉันต้องไปรับมือด้วยเป็นอะไร มันไม่ได้ยากเลยไม่ใช่เหรอคะ หากท่านไม่บอกฉันก็ไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงคืออะไร ไม่เคยได้ยินเหรอคะ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

เฮ้อ! ท่านเทพถอนหายใจพลางคิด นางช่างคิดอ่านรอบคอบโดยแท้ เอาเถอะ เช่นไร บอกไปก็มิได้มีอันใดเปลี่ยนแปลง คิดได้ดังนั้นท่านเทพจึงตอบออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ

“พวกมาร เจ้าจงระวังตัวให้ดี หากยังไม่แข็งแกร่งมากพออย่าได้สืบหาและต่อกรกับพวกมันเด็ดขาด เพราะครานี้ต่อให้เจ้าตายข้าก็ไม่อาจดึงดวงจิตของเจ้ากลับมาได้อีก พวกมารหากมันฆ่าใช่ฆ่าเพียงร่างกาย เเต่พวกมันจะดูดดึงจิตวิญญาณของเหยื่อแล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานของพวกมันทันที แม้จะเป็นวิธีที่น่ารังเกียจแต่ก็ทำให้แกร่งขึ้นโดยไว ฉะนั้นเจ้าต้องระวังตัวให้ดี”

“ขอบคุณที่เตือนค่ะ” หญิงสาวตอบรับความห่วงใยของท่านเทพด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ ไปเกิดใหม่ยุคที่มีพลังเหนือธรรมชาติไม่พอ ยังต้องไปรับมือกับพวกมารอีก เฮ้อ เป็นเว่ยซือหงไม่ง่ายจริง ๆ

“จวนได้เวลาแล้ว เจ้าอยากได้อะไรรีบขอมา ข้าจะมอบพรให้เจ้า 3 ข้อ” ท่านเทพพูดขึ้นเพราะใกล้เวลาเกิดใหม่ของนางอีกครั้งแล้วจริง ๆ

หญิงสาวเร่งความคิดถึงพรที่ตนเองจะขอ ทุกข้อจะต้องจำเป็นและสำคัญ ขอเล่น ๆ ไม่ได้ เพราะมันหมายถึงชีวิตเล็ก ๆ ของเธอ

“ข้อแรกขอให้ฉันเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนทั่วไปค่ะ ข้อสองขอให้ร่างกายต้านพิษได้ทุกชนิด ข้อสามขอให้ฉันโชคดีค่ะ”

เว่ยซือหงพูดออกไปหลังใช้วิจารณญาณในการเลือกดีแล้ว ข้อแรกที่เธอขอให้เรียนรู้ได้เร็วกว่าคนทั่วไป เพราะเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เธอจะทำไม่ได้หากได้เรียนรู้ และไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความรู้นั่นเอง

ข้อสองขอให้ร่างกายต้านพิษ เพราะไม่รู้ว่าเธอต้องไปเกิดกับใคร สถานที่แบบไหน หลังบ้านเป็นอย่างไร ใครจะรู้เธออาจจะถูกวางยาเพราะความอิจฉาของสตรีในเรือนหลังเหมือนในนิยายและซีรีส์ที่เธออ่านและดูมาก็ได้! ดังนั้นกันไว้ดีกว่าแก้ ร่างกายต้านพิษนี่แหละจำเป็นสุด ๆ!

ส่วนข้อสุดท้าย อะไรมันจะดีไปกว่าขอให้ตนเองโชคดี คิดดูนะหากอยู่ในสถานการณ์คับขันและอันตราย ด้วยพรโชคดีอย่างไรเธอก็รอด เป็นไงเล่า สำคัญมากใช่หรือไม่

อาจสงสัยทำไมเธอไม่ขอพลังเทพ ๆ หรือขอให้พลังไม่มีวันหมด ยอมรับว่าลังเลอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เมื่อตรองคำพูดของท่านเทพที่บอกว่าเธอไม่มีพลังธรรมดาแน่นอนแล้ว เธอจึงตัดพรเรื่องของพลังไป เพราะถ้าเกิดขอมันจะซ้ำซ้อนกับสิ่งที่ท่านเทพจะมอบให้อยู่แล้ว ซึ่งถ้าเธอขอพรนี้จะถือว่าขอพรได้ไร้ประโยชน์ยิ่ง ดังนั้นคนสวยและฉลาดอย่างเธอจึงตัดเรื่องพลังออกเป็นอันดับแรกทันที

ท่านเทพยังคงยิ้มอ่อนโยนเช่นเคยหลังฟังคำขอของหญิงสาวที่ตนเลือกให้ไปช่วยเหลือมิติที่ถึงคราวใกล้ล่มสลาย

“ตกลง พรที่เจ้าขอมาข้าจะประทานให้สัมฤทธิผล รวมถึงข้าจะมอบมิติพฤกษาสวรรค์ให้เจ้าด้วยเช่นกัน หากอยากเข้ามาก็ให้ตั้งจิตว่าเข้า จะออกก็ให้ตั้งจิตว่าออก มิตินี้เจ้าสามารถเข้ามาได้ทั้งกายหยาบและดวงจิต จงใช้ให้ดี”

ยังไม่ทันทำความเข้าใจว่ามิติพฤกษาสวรรค์คือสิ่งใดท่านเทพก็พูดต่อทันที

“อ้อ! ข้าจะมอบองค์ความรู้ขนาดใหญ่ให้กับเจ้าด้วยเช่นกัน ซึ่งมันจะอยู่ในมิติแห่งนี้ ไว้เจ้าค่อยมาสำรวจเอง สุดท้ายถือเป็นของขวัญสำคัญจากข้า ข้าขอมอบดวงเนตรสวรรค์ให้แก่เจ้า นับจากนี้ไปขอให้เจ้าใช้ชีวิตให้ดีตามแต่ใจเจ้าปรารถนาเถิดเว่ยซือหง”

จบคำท่านเทพลำแสงสีทองก็ลอยเข้ามาโอบล้อมดวงจิตของเว่ยซือหงไว้ ก่อนดวงจิตของเธอจะดูดกลืนลำแสงนั้นเข้ามาในตัวเองจนหมด หญิงสาวมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตื่นตะลึง ก่อนที่ดวงจิตของเธอจะจางหายไปช้า ๆ

ท่านเทพยืนมองดวงจิตเว่ยซือหงจางหายไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ก่อนสะดุ้งเมื่อเสียงเรียกขานของเทพชะตาดังขึ้น

“นางไปแล้วหรือท่านมหาเทพ”

“นางไปแล้วท่านเทพชะตา ว่าแต่ชะตาของนางหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรท่านบอกเราได้หรือไม่”

“ตามที่ข้าเคยบอกไว้ครั้งก่อน จุติใหม่ครั้งนี้ข้าทำนายดวงชะตาของนางไม่ได้แล้ว ชะตาชีวิตของนางขึ้นอยู่ที่นางลิขิต”

“ท่านหมายถึงนางกลายเป็นสตรีเหนือชะตาเช่นนั้นหรือ”

“ใช่ ข้าหมายความตามนั้น ท่านมหาเทพมีอันใดหรือ”

ท่านเทพที่เว่ยซือหงเรียกหรือมหาเทพส่ายหน้าช้า ๆ พลางตอบ “ไม่มีอันใด ข้าแค่ไม่อยากนึกว่านางจะป่วนขนาดไหน เดิมทีชะตาลิขิตนางก็ป่วนอยู่แล้ว ครานี้อยู่เหนือชะตา เฮ้อ คงครึกครื้นน่าดู”

“ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ท่านก็ชอบที่นางสดใสไม่ใช่หรือ”

“ชอบสิ นางเป็นธิดาของข้านี่ ไม่รู้ว่าจุติใหม่เพื่อหวนคืนครั้งนี้ ข้ามอบภาระหนักให้นางเกินไปหรือไม่” มหาเทพพูดออกมาอย่างกลัดกลุ้ม

เทพชะตายิ้มบางพลางกล่าว “อย่าห่วงเลย ท่านก็รู้ว่าชะตาของนางผูกติดอยู่กับท่านผู้นั้น นางไม่ได้รับอันตรายหรอก”

“เหอะ มหาเทพบรรพกาลจอมเย็นชานั่นน่ะหรือจะช่วยอันใดลูกข้าได้กัน”

“เพ้ย! ท่านอย่าพูดถึงท่านผู้นั้นเช่นนั้นสิ ประเดี๋ยวสวรรค์ก็พิโรธหรอก ทำใจเถอะน่า นางและเขาเป็นด้ายแดงของกันและกัน แม้ครั้งเป็นเทพไม่ได้เคียงคู่ สุดท้ายก็ต้องจุติเพื่อหวนคืนครองคู่กันชั่วนิรันดร์อยู่ดี ท่านปั้นปึ่งไปก็ขวางพวกเขาไม่ได้หรอก แม้ข้าจะบอกว่านางเป็นสตรีเหนือชะตา แต่นางหนีด้ายแดงตนเองไม่พ้นหรอกนะ หรือต่อให้นางอยากหนีท่านผู้นั้นก็ไม่ยอมอยู่ดี คิดดูเถิด จุติรอนางเป็นร้อย ๆ ปี รักมั่นปานนี้ ท่านยังจะทำใจคอคับแคบขัดขวางเขาอีกหรือ” เทพชะตาว่าให้พลางมองมหาเทพอย่างต่อว่า

ด้วยถูกขัดใจและได้ยินคำพูดไม่เข้าหู มหาเทพจึงหาเรื่องปลีกตัวทันที “ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว ข้ากลับวังข้าดีกว่า ขอตัว”

“เพ้ย! อายุปานนี้ยังจะขี้น้อยใจอยู่อีก” เทพชะตาบ่นพึมพำก่อนส่องดูดวงจิตเว่ยซือหงที่ตอนนี้นอนสงบนิ่งรอถือกำเนิดอยู่ในครรภ์ของสตรีผู้หนึ่ง รอยยิ้มยินดีและอ่อนโยนพลันปรากฏขึ้น

“แข็งแกร่งให้ไวและหวนคืนกลับมาเที่ยวเล่นกับพวกเราโดยเร็วนะ เทพธิดาน้อย ข้าขออวยพรให้ท่านโชคดี และเจอกับท่านผู้นั้นโดยเร็ว ท่านเทพธิดา”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel