ตอน 5
“ตกลงฉันจะให้แกยืมเอานี่เซ็นซะรีบๆ รับเงินใสหัวไป” ทั้งเงินและเอกสารสัญญาถูกเลื่อนมาตรงหน้าภูเบศน์ เขามือสั่นร้อนรนหยิบปากหล่นแล้วหล่นอีกเพื่อจะจรดเซ็นตรงช่องผู้กู้ เสร็จสรรพ เขารีบคว้าเงินก้อนนั้นเร่งเดินจากไป ไม่แม้แต่จะกวาดสายตาอ่านสัญญาสักตัวอักษร
ภาพนักพนันที่ไม่สนใจใครเข้าหรือออกสถานที่ตรงนี้ กำลังเมามันกับสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ ภูเบศน์ตบกระเป๋าที่ยังร้อนด้วยเงินก้อนใหญ่ที่เพิ่งกู้มา จำนำรถคันเดียวในชีวิตเป็นประกันไว้ รถคันนั้นเก่ามากถ้าตีราคาได้แค่แสนเดียวหรือไม่ถึงแสน สำหรับเงินในกระเป๋าสามารถใช้ต่อชีวิต เพื่อหายใจได้คล่องหน่อย ถ้าคืนนี้โชคดีคงได้หอบเงินกลับบ้านมีเงินใช้หนี้แถมได้เล่นต่อ
ตีหนึ่งกว่าๆ เกือบตีสอง เงินและชิพในมือภูเบศน์หมดเกลี้ยงในพริบตา ถึงกับยกแขนปาดเหงื่อ เดินผละออกจากโต๊ะลูเล็ตผลาญเงินในกระเป๋าแทบไม่เหลือให้ติดกระเป๋ากลับบ้านสักบาท
“บัดซบแม่งโกงกันชัดๆ” ภูเบศน์หัวเสียสบถด่าเสียงดัง
เดินบ่นหน้าถมึงทึงออกมายืนอยู่หน้าบ่อน ด้วยสีหน้าอารมณ์ขุ่น เตะหมาจรจัดครางหงิงๆ อะไรใกล้สายตาเป็นสิ่งปฏิกูลไปซะหมด
“ไงน้องเสียเยอะเหรอ ถึงได้เตะหมาเตะแมวไม่เลือก” เสียงหนึ่งดังขึ้น
“หมดตูดเลยล่ะพี่” เงยหน้ามองคนถามไม่ใส่ใจว่าเป็นใคร ใครก็ช่างเขาไม่สนหงุดหงิดชะมัด
“ไปนั่งกินข้าวต้มกันพี่เลี้ยงเอง รู้ว่าไม่มีเงินแม้แต่จะกินน้ำเปล่าสักขวด” เจ้าของร่างสูงผิวเข้ม พูดตรงไม่อ้อมค้อม
“เออ ดีพี่ผมกำลังหิว” ไม่คิดว่าตัวเองจะถังแตกขนาดนี้
ชายแปลกหน้านั่งลงก่อนตามด้วยภูเบศน์ หน้าเขาเซ็งที่สุดเท่าที่มีชีวิตมาร่วมยี่สิบกว่าปี นี่เขาทำบ้าอะไรลงไป แทนที่จะมีเงินใช้หนี้ แต่กลับสร้างหนี้เพิ่ม
“มาที่นี่บ่อยเหรอ” ชายผิวเข้มถาม
“เกือบทุกวันแหละพี่”
“ได้บ้างหรือเปล่าล่ะ”
“ได้ ช่วงแรกที่มาได้ทุกคืน”
“ติดใจเลยกลับมาอีก แล้วตอนนี้ล่ะ”
“เสียตลอด ติดนี้จะร่วมล้านเซ็งเป็นบ้า”
“ธรรมดาพนันมีได้มีเสีย”
“แต่ผมว่ามันโกงชัดๆ ไอ้บ่อนห่าเหวอะไรจะเสียได้ทุกวี่ทุกวัน ผมว่ามันโกง”
“ติดหนี้อยู่เท่าไหร่”
“แปดเก้าแสน” ตอบไปงั้นๆ ไม่คิดว่าผู้ชายหน้าเข้มตรงหน้าจะช่วยอะไรได้ แต่การเล่าอะไรให้คนแปลกหน้าฟังยังดีกว่าให้คนสนิทรู้ เมื่อก่อนภูเบศน์เป็นคนน่ารัก นิสัยดีรักครอบครัว เงินเดือนทุกบาททุกสตางค์ยกให้มารดาหมด อยากใช้ค่อยขอเป็นรายสัปดาห์ เมื่อเดือนก่อนเพื่อนในบริษัทชวนไปเล่นในบ่อนเล็กๆ ครั้งสองครั้งติดใจ จากนั้นปีกกล้าขาแข็งฉายเดี่ยวเล่นคนเดียว เปลี่ยนบ่อนไปเรื่อยกระทั่งได้พบกับบ่อนที่ให้เครดิตลูกค้านายวัฒนา สุระเมธา มิตเป็นคนคุมหมอนี่ใครๆ ก็ว่าโหด
“พี่ให้ยืมไม่คิดดอก” ชายที่หน้าตาเหมือนไม่มีเงินในกระเป๋าเกินร้อย เอ่ยเสนอให้เงินกับภูเบศน์
คำพูดจากชายผิวเข้มกิดใจภูเบศน์ หมอนี่ท่าจะล้อเล่น หาเรื่องมาคลายเครียด จึงไม่ใส่ในในคำพูดอีกฝ่าย
“บ้า อย่าล้อเล่นน่าพี่ ผมกำลังเครียด”
“พี่ไม่ได้ล้อเล่น เรื่องแบบใครเขาล้อเล่น”
“ถ้าไม่ได้ล้อเล่น พี่จะให้ผมให้ยืมเท่าไหร่” ภูเบศน์หยั่งเชิง
“อยากยืมเท่าไหร่ล่ะ”
“พูดแบบนี้ไม่อั้นหรือพี่”
“ใช่ บอกตัวเลขมาพี่จะจัดการให้”
“ผมขอหนึ่ง เอ่อ...สองล้าน”
“พอเหรอ”
“ได้มากกว่านี้อีกเหรอพี่”
“บอกแล้วไม่อั้น”
“เอาเป็นว่าห้าล้าน”
“ได้สิ ถ้างั้นเซ็นซะ อ้อ...พี่ลืมแนะนำตัวพี่ชื่อพยัคฆ์”
“ว่าแต่พี่ไม่รู้จักผม ผมเองไม่รู้จักพี่ทำไมต้องให้ยืมเงินตั้งมาก และไอ้คำว่ายืมคือไม่มีดอกเบี้ยใช่ไหม”
“ใช่ ให้ยืม ไม่คิดดอก สนไหม ถ้าสนเซ็นซะ ถ้าไม่สนอิ่มแล้วต่างคนต่างไป เอาเป็นว่าพี่เลี้ยงข้าวน้องเพื่อทำความรู้จักกันก็พอ ว่าแต่น้องชื่ออะไร”
“ถ้าอยากให้พี่รู้จักรายแนะนำตัวสิ แค่นี้เราก็รู้จักกันแล้ว รับรองถ้าน้องไม่ใช้หนี้พี่ ต่อให้น้องอยู่โลกพระจันทร์พี่สามารถตามไปทวงเงินน้องได้”
น่าขนลุกกับคำพูดจากปากชายที่ชื่อพยัคฆ์ ใบหน้าเข้มคมหนวดเคราครึ้ม ผิวสีทองแดง บ่งบอกให้รู้ว่าไม่ใช่พวกขี้แหง่ คอยหมอบอยู่ใต้ชายผ้าถุงแม่
เอกสารตรงหน้ารายละเอียดมากมาย แต่ภูเบศน์ไม่ได้อ่านซักบันทัด รีบจรดปลายปากกาเซ็นง่ายดาย พยัคฆ์ส่งเงินในซองสีน้ำตาลให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเป็นประกาย ต่อ งานของเจ้านายทีมอบหมายให้เขาสืบและให้ลงมือทำ เริ่มต้นก้าวเดินมาถูกทาง นักพนันอย่างภูเบศน์มีหรือจะทิ้งเงินก้อนโตเพื่อใช้ต่อทุน แถมไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นสิ่งของมีค่า หรืออสังหาริมทรัพย์แต่อย่างใด หากแต่สิ่งนั้นได้ระบุไว้ในสัญญาโหดฉบับนี้เรียบร้อยแล้ว หากภูเบศน์เสียสละอ่านสักนิด หรือลังเลสักหน่อยคงจะดีมาก
อิ่มหนำสำราญพุงกางสองหนุ่ม ต่างแยกย้ายอีกคนได้สัญญาอีกคนได้เงินจุดประสงค์บรรลุเป้าหมาย
“เอาอย่างนี้มั้ยพี่ไปส่ง” คนให้ยืมเงินเสนอ
“ไปส่ง.” ภูเบศน์ย่นคิ้วมองอีกฝ่าย ในท่าทีค่อนข้างลังเล นึกขึ้นได้ตัวเองไม่มีราชรถ จำนำไว้กับบ่อนเจ้าของหนี้ เชื่อว่าเขาคงไม่มีปัญหาไถ่ถอนมัน จึงไม่สนใจอีกอย่างมันเก่ามากแล้ว “อ้อ...ครับ ครับ ก็ดี” ตอบรับลิ้นรัวย่อตัวเข้าไปนั่งในรถคันหรู มาก ผู้ชายเหมือนนักเลง เหมือนทหารในทีคนนี้คงมีเงินมาก จึงกล้าให้คนไม่รู้จักอย่างเขายืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ยสักบาท
“รุ่นใหม่เหรอพี่” ฝ่ามือลูบคลำคอนโซลรถสปอร์ตคันปราดเปรียวราคาแพง รุ่นนี้ยี่ห้อนี้คือรถในฝันของภูเบศน์เลยทีเดียว ไม่ใช่แต่เขาหรอกที่ฝันอยากมีรถหรูแบบนี้คนอื่นก็ฝัน Porsche Panamera Torbo 4.8AT (พอร์ช พานาเมร่า เทอร์โบ 4.8 เอที) รุ่นล่าสุด โคตะระสวยบรรยายความสวยไม่ครบเลยก็ว่าได้
“ใช่เพิ่งถอยออกโชว์รูมไม่ถึงสามเดือน นำเข้าไม่กี่คันในไทยเองนะ” พยัคฆ์คุยอวด
“ทำธุรกิจอะไรล่ะพี่ถึงล่ำซำขนาดนี้”
“ออกเงินกู้” ตอบแบบนี้จะได้สมจริงหน่อย
ภูเบศน์ถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ชายผู้นี้ท่าทีใจดีระคนโหดในคนคนเดียว หรือว่าคนนี้อาจเป็นมาเฟียพวกปล่อยเงินกู้ ชายหนุ่มชักหวั่นกุมเงินสดห้าล้านในซองสีน้ำตาล หัวใจกระตุก พยัคฆ์ชื่อนี้เริ่มน่ากลัวซะแล้วสิ เมื่อคิดในสองมุมเขาจึงเลิกสนใจรถคันหรู
ภูเบศน์วาดขาลงจากรถโก้รู้สึกใจฝ่อ ตลอดทางเขาไม่เอ่ยถามอะไรคนชื่อพยัคฆ์เจ้าของเงินก้อนโตที่สุดในชีวิตภูเบศน์ในการยืมเงินคนอื่น เมื่อไม่เคยคิดหยิบยืมใคร การก้าวเข้าสู้วงจรพนันทำให้เขาโลภ ก้าวต่อไปเรื่อย รถหนึ่งคันที่เสียไปกับหนี้ก้อนโต ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาฉับพลัน ไม่กี่วินาทีกลับสู่ความคิดเดิมฮึกเหิม ในการพาตัวเองไปเข้าสู่ความร่ำรวยนั้นอีก สำหรับวันนี้ขอพักก่อนรู้สึกเพลียเมื่อยล้าจากการไม่ได้นอน การพนันฉุดเขาไร้จิตใจในการพาตัวเองไปทำงาน ทุกวันไปทำงานรอเวลาเลิก จะได้ไปฝังตัวอยู่ตามโต๊ะในกาสิโน
“เจ้านายครับปลากินเหยื่อแล้วครับ” พยัคฆ์รีบโทรรายงานเจ้าของเงินก้อนโตที่ยื่นเข้าปากภูเบศน์ไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
“ดีมากพยัคฆ์งานภาคสนามแบบนี้นายทำได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ฉันเชื่อมือ”
“จะให้ทำอะไรอีกก็บอกนะครับ ท่าทางนายคนนั้นอาการจะแย่ ติดพนันงอมแงมเลยล่ะครับ”